คงไม่เกินความจริงนัก ถ้าเราจะบอกว่าโควิด 19 ที่เพิ่งจบลงไปไม่กี่ปี เปลี่ยนโฉมหน้าการใช้ชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันไปอย่างมากในด้านต่าง ๆ ซึ่งหลาย ๆ อย่างก็ค่อย ๆ ผสมผสานกับวิถีชีวิตแบบใหม่จนกลายเป็น New Normal ไป โดยหนึ่งในสิ่งที่เห็นชัดที่สุด คือเรื่องของการ ทำงาน ที่เข้าสู่ ยุคใหม่ ครับ
การทำงานรูปแบบใหม่นี้ องค์กรทั่วโลกต่างเริ่มนำมาปรับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งตัวองค์กรและพนักงาน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานไปจนถึงระบบโครงสร้างองค์กรอย่างมาก MenDetails จึงอยากนำประเด็นนี้มาเขียนให้เห็นภาพเล็ก ๆ ว่า ในตอนนี้มีอะไรที่กำลังเปลี่ยนไป และองค์กรกับพนักงานมีการปรับตัวอย่างไรเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่นี้ โดยข้อมูลนี้เป็นผลการศึกษาจากบริษัท CISCO กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการสื่อสารดิจิทัลข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน ผู้นำด้านไอทีและระบบเครือข่ายทั่วโลก ที่ศึกษาเหล่าพนักงานบริษัทในประเทศไทยครับ
พนักงานในไทยส่วนใหญ่ยังคงต้องการกลับเข้าออฟฟิศ
หลายคนอาจเข้าใจว่า ในยุคหลังโควิด พนักงานบริษัทจำนวนมากต้องการทำงานที่บ้านมากกว่าการกลับเข้าออฟฟิศ แต่มีผลการศึกษาที่ระบุว่า 66% ของบริษัทในไทยยังคงบังคับให้พนักงานกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศทั้งหมดหรือบางส่วน โดยปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญเป็นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน การติดต่อสื่อสารภายในทีมงาน และแรงกดดันจากผู้บริหาร ทำให้สุดท้ายพนักงานก็ต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่แทนที่พนักงานบริษัทจะไม่ชอบ กลายเป็นว่ามีผลการศึกษาว่าพนักงานในไทย 8 ใน 10 คน (84%) ตอบสนองเชิงบวกต่อคำสั่งขององค์กรที่ให้กลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ และ 94% ของผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความต้องการที่จะกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศอย่างน้อยสองสามครั้งต่อสัปดาห์ แสดงว่าคนไทยยังคงมีความต้องการที่จะกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ แม้ว่าอาจไม่ใช่ 5 วันต่อสัปดาห์ก็ตาม
ผลการศึกษานี้ของ CISCO ทำให้เห็นว่าพนักงานในไทย (และแถบเอเชียตะวันออก) เปิดรับการทำงานในรูปแบบไฮบริดและในขณะเดียวกันก็พร้อมจะกลับเข้าออฟฟิศบ่อยขึ้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน คือทั้งหมดนี้มีเงื่อนไขอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือ พื้นที่ทำงานจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับความต้องการและความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของพนักงาน เพราะจากผลการสำรวจพบว่าพนักงานมากกว่าครึ่งหนึ่งเชื่อว่าออฟฟิศไม่ตอบโจทย์การใช้งานตามวัตถุประสงค์ของตนเองอีกต่อไป
ซึ่งในยุคการทำงานแบบไฮบริดการให้ความสำคัญกับวิวัฒนาการของพื้นที่สำนักงานและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานกลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการพื้นที่ออฟฟิศให้ดีจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ที่ใดก็ตาม
ปัจจุบันพนักงานในไทยเชื่อว่าออฟฟิศไม่ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป
แม้ว่าจะมีการตอบรับที่ดีเกี่ยวกับการกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ แต่แรงจูงใจของพนักงานในการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศก็มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเหตุผลหลักที่ทำให้เหล่าพนักงานกลับเข้าออฟฟิศไม่ใช่เพื่อการทำงานส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของการทำงานร่วมกันเป็นทีม (82%) การระดมความคิดและคิดค้นไอเดียกับเพื่อนร่วมงาน (70%) และการส่งเสริมความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร (52%) การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้บ่งบอกว่าพนักงานมีความคาดหวังและความต้องการที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับพื้นที่ทำงานของพวกเขา ซึ่งจากผลสำรวจของ CISCO พบว่าพนักงานในไทย 48% เชื่อว่าออฟฟิศของพวกเขายังไม่ตอบโจทย์การใช้งานและไม่ได้ช่วยให้พวกเขาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดผังออฟฟิศและการจัดที่นั่ง พนักงาน 82% รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันและการระดมความคิด ในขณะที่มีการให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันมากขึ้น แต่ 87% ของนายจ้างที่ตอบแบบสอบถามยังคงจัดพื้นที่ออฟฟิศอย่างน้อยครึ่งหนึ่งให้เป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัวของพนักงานแต่ละคน ส่วนพื้นที่อื่น ๆ เช่น ห้องประชุม ก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานเท่าที่ควรเช่นกัน
นอกจากเรื่องของพื้นที่ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานในออฟฟิศมากพอ โดยมาจากหลายสาเหตุหลัก เช่น มีอุปกรณ์ด้านระบบเสียงและวิดีโอไม่เพียงพอ, ประสบการณ์ด้านภาพและเสียงมีคุณภาพต่ำ, ไม่มีอุปกรณ์ด้านระบบเสียงและวิดีโอที่รองรับการใช้งานสำหรับทุกคน ทำให้การประชุมและการทำงานร่วมกันทั้งกับคนที่เข้าออฟฟิศและคนที่ทำงานแบบไม่เข้าออฟฟิศเป็นไปได้อย่างไม่สะดวกนัก
การปรับตัวของทั้งองค์กรและพนักงาน เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เรื่องดีก็คือ ในปัจจุบันนี้องค์กรต่าง ๆ กำลังเร่งพัฒนาและปรับเปลี่ยนพื้นที่ของออฟฟิศหลังจากยุคโควิด 19 ผ่านไปพ้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานและการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนทางด้านเทคโนโลยี หรือการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน ไปจนถึงการปรับเพื่อรองรับการทำงานแบบไฮบริดได้ดียิ่งขึ้น
แต่ก็ไม่ใช่ว่าการปรับเปลี่ยนขององค์กรเพียงอย่างเดียวจะเพียงพอ เพราะเหล่าพนักงานขององค์กรก็ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเช่นกัน เพื่อให้มีความพร้อม และความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะทำให้การทำงานสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากพนักงานต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมแล้ว ทางองค์กรก็ต้องควรช่วยในการบูรณาการเครื่องมือเหล่านี้ให้เข้ากับสถานที่ทำงาน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการปรับเปลี่ยนไปสู่การทำงานรูปแบบใหม่อย่างราบรื่น และเพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานทุกคนครับ ก็เป็นสิ่งที่ตอนนี้กำลังค่อย ๆ เกิดขึ้นและคงจะกลายเป็น New Normal ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อไปสู่ยุคต่อไปที่มนุษย์สามารถทำทุกอย่างได้สะดวกสบายขึ้น และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานไปสู่รูปแบบไฮบริดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงในโลกของการทำงาน ที่ทั้งพนักงานและองค์กรต้องปรับตัว เพื่อไปสู่ยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากที่สุดครับ