เวลาที่ผู้ชายจะต้อง ซื้อสูท ใหม่สักตัวหนึ่ง อาจจะเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรสำหรับใครหลายคน เพราะปัจจัย ข้อจำกัด หรือความต้องการในการใช้งานต่างกัน บางคนอาจจะเป็นการซื้อสูทตัวแรก บางคนอาจต้องการสูทที่ใช้ในการออกงานเจอผู้คน และการซื้อสูทสักตัวก็ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เพราะสูทเมื่อซื้อมาแล้วก็จะมีการใช้งานที่นาน ทำให้เมื่อต้องซื้อสูทตัวใหม่ หลายคนอาจเกิดความลังเล ไม่แน่ใจ ว่าต้องเลือกซื้ออย่างไรดี
ไม่ว่าเราจะมีความต้องการแบบไหนเมื่อเราต้องซื้อสูทตัวใหม่ MenDetails มีคำแนะนำให้นึกถึง 5 กฎเหล็กนี้ไว้ แล้วรับรองว่าการตัดสินใจซื้อสูทตัวใหม่จะง่ายขึ้นอย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ
กำหนดงบที่มี ในการ ซื้อสูท
ปัจจัยสำคัญอย่างแนกที่เราต้องพิจารณา และต้องควบคุมไม่ให้บานปลาย คือ งบประมาณที่มีครับ หลายคนน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่า สูทก็เป็นเครื่องแต่งกายอย่างหนึ่ง ก็จะมีหลายคุณภาพ หลายเกรด ขึ้นอยู่กับวิธีการตัดเย็บ ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ การที่เรารู้ว่าเรามีงบประมาณเท่าไหร่ จะช่วยให้เราพอกำหนดได้ว่าสูทที่เราจะซื้อนั้น จะมีลักษณะอย่างไร และต้องไปเลือกซื้อจากไหน สมมุติเรามีงบสักหนึ่งพันบาท แต่อยากได้สูทจากร้านสูทดัง ๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องไปมองหาจากร้านสูทสำเร็จรูปแทน เป็นต้น
สำหรับประเภทสูทที่เราสามารถหาซื้อได้ ไล่จากราคาถูกไปแพงสุด ประเภทแรกเป็น สูทสำเร็จรูป หรือ Ready to Wear เป็นสูทที่ทำการตัดมาแล้ว ให้คนทั่ว ๆ ไปสามารถใส่ได้ ตามเลขไซส์ที่กำหนดมา สูทแบบนี้ราคาไม่แพง และในปัจจุบันก็มีแบรนด์สูทต่าง ๆ ทำสูทเหล่านี้ให้ราคาไม่แพง แต่คุณภาพดี ออกมาให้ได้เลือกซื้อกันมากมาย สูทแบบนี้เหมาะสำหรับคนทั่ว ๆ ไป ที่ต้องการสูทสำหรับใส่ทำงาน ใส่ออกงานทั่วไป หรือเป็นสูทตัวแรกครับ ในประเทศไทยก็จะเห็นแบบนี้ซะมาก
ต่อมาคือ MTM หรือ Made to Measure ราคาจะขยับขึ้นมาอีกนิด เพราะสูทประเภทนี้จะเป็นการปรับให้เข้ากับสัดส่วนของเรา ทำให้เราสามารถปรับได้มากกว่าแบบสำเร็จรูป ในกรณีที่เรามีสูทที่อยากได้ แต่ไม่มีขนาดที่พอดี หรือเราเป็นคนที่สูทสำเร็จรูปไซส์ไม่พอดี ก่อนที่จะไปสู่ขั้นสุดยอดที่สุด คือ Bespoke ที่เป็นการสั่งตัดสูทชุดนั้น ๆ ขึ้นมาตามความต้องการของเรา ตั้งแต่โครงสร้าง วัสดุ สี ที่ต้องตัดเย็บอย่างประณีต ทำให้มีราคาสูง และต้องใช้เวลานาน
เลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสม
เมื่อกำหนดงบได้แล้ว สิ่งที่ต้องเลือกต่อไปคือเนื้อผ้าของสูทครับ หากเอาให้ดีที่สุดก็ต้องเป็น ผ้าวูล (Wool) แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมีการแบ่งยิบย่อยลงไปอีก เช่น Wool 100% แล้วก็ยังมี Wool ผสม 70% 50% ไล่เรียงกันไป รวมถึงเนื้อผ้าประเภทอื่น ๆ อีก สำหรับประเทศไทยที่มีอากาศร้อน ใส่สูทเนื้อผ้าหนา ระบายอากาศไม่ดีก็คงไม่ไหว เราจึงต้อง ดูเรื่อง น้ำหนักของผ้า และ ความถี่ในการทอของเนื้อผ้า ไปจนถึงเรื่องที่ว่าเราจะใส่สูทนี้ในโอกาสไหนบ้าง ประกอบด้วยครับ
แต่ถ้าใครอยากรู้ต่อว่า เราจะเลือกซื้อสูทอย่างไรให้ใส่แล้วรู้สึกไม่ร้อนไปกับอากาศของประเทศไทย เราก็มีอีกหนึ่งบทความที่เป็นคำตอบให้ทุกท่านเช่นกันครับ
Fit is King
สูทที่ราคาหลักร้อย แต่ใส่แล้วพอดีตัว จะทำให้เราดูดีกว่าใส่สูทราคาหลักหมื่นแต่ไม่พอดีตัวเรา เป็นที่มาของวลีที่ว่า Fit is King หรือความพอดีตัวนั้น สำคัญที่สุด และนี่ไม่ใช่แค่สูท แต่ยังเป็นเรื่องพื้นฐานของการแต่งกายทั่ว ๆ ไปให้ดูดีด้วยครับ
การเลือกซื้อสูทให้ได้สูทที่เหมาะกับตัวเรา ใส่แล้วดูดี ชุดสูทนั้นต้องมีขนาดที่เหมาะสม ใส่แล้วพอดี จะทำให้ภาพที่ออกมาเวลาที่เราใส่ดูดี เสริมบุคลิกให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งคำว่าพอดีตัวของเรา คือ ใส่แล้วตัวชุดไม่ออกมาดูโคร่งไป ตัวใหญ่ไป หรือไม่ฟิตแน่นจนเกินไปครับ สำหรับชุดสูท มีวิธีดูง่าย ๆ ว่าสูทพอดีตัวเราหรือไม่ โดยให้ดูที่ไหล่ ต้องพอดี ไม่ตก ตัวชายเสื้อสูทต้องไม่ยาวไป หรือสั้นไป แขนเสื้อต้องไม่ยาวหรือสั้นเกินไปเช่นกัน ทั้งเวลาที่ปล่อยแขนแนบลำตัว หรือเวลาขยับตัวในท่าทางต่าง ๆ รวมถึงกางเกงสูท ขากางเกงต้องไม่สั้นเต่อ หรือยาวเกินไปจนมันมากองรวมกันกับรองเท้าครับ
เลือก ซื้อสูท ที่การใช้งาน อย่าเลือกตามแฟชั่น
สูทเป็นเสื้อผ้าที่มีความ Timeless และสามารถใส่ได้นานหลายปี (หากรูปร่างของเราไม่เปลี่ยนมากจนเกินไป) ดังนั้นเวลาเลือกซื้อสูทให้คิดเสมอว่า เราต้องการสูทนี้เพื่อใส่ในโอกาสอะไร แล้วเอาการใช้งานเป็นที่ตั้ง อย่าเลือกตามกระแสแฟชั่นในช่วงเวลานั้น ๆ เด็ดขาด ถ้าเราเลือกตามกระแส วันหนึ่งกระแสเปลี่ยน สูทตัวนั้นก็อาจจะดูไม่สวย ดูเชยขึ้นมาทันที แต่ถ้าเรายึดตามการใช้งานที่สูทแต่ละประเภท สีแต่ละสี เนื้อผ้า ไปจนถึงรูปแบบที่ถูกต้องตามวิธีการใส่สูท เราจะได้สิ่งที่ไม่ตกยุค และสามารถใส่ได้นานครับ ส่วนเรื่องอื่น ๆ สามารถมาเลือกให้สะท้อนตัวตนของผู้ใส่ทีหลังได้ เพราะแม้สูทจะมีกฎการใส่ของมัน แต่มันก็ยังสามารถใส่ลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเพิ่มความเป็น “ตัวเรา” มากขึ้นได้ครับ
ความยาวแขนที่เข้ากับเสื้อเชิ้ต เป็นเรื่องสำคัญ
การเลือกซื้อสูทใหม่ นอกจากตัวสูทที่ต้องดูแล้ว เราต้องนึกถึงเสื้อ Dress Shirt ร่วมด้วย ว่ามันเข้ากันไหม พอดีกันไหม โดยเฉพาะเรื่องของความยาวแขน ที่ต้องเข้ากับเสื้อเชิ้ต มันอาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนอาจไม่คิดถึง แต่มันจะช่วยให้เวลาที่เราใส่สูทกับ Dress Shirt เราจะดูดีขึ้นทันที เพราะถ้าความยาวแขนเสื้อเชิ้ตเยอะเกินไป ผ้ามันจะไปกองอยู่ด้านในจนทำให้แขนเสื้อเวลามองเวลาผิดรูปร่าง หรือไม่ก็มันจะมากองรวมกันที่ข้อมือทำให้ดูไม่ดี ดังนั้นเวลาเลือกซื้อสูทใหม่ แนะนำว่าควรเอา Dress Shirt ไปลองใส่ด้วยครับ
สำหรับความยาวแขนเสื้อเชิ้ตที่เวลาเราใส่เสื้อตัวนอก แขนเสื้อเชิ้ตโผล่ออกมาแล้วดูพอดี จะอยู่ที่ราว 1 – 2 ซม. ครับ ขึ้นอยู่กับลักษณะรูปร่างของแต่ละคนแตกต่างกันไป รวมถึงความชอบส่วนบุคคลด้วย แต่สุดท้ายแล้วอะไรที่มากหรือน้อยเกินไป ก็ออกมาไม่ดีทั้งสิ้น ลองสวมเชิ้ตแล้วลองใส่เสื้อสูทเวลาลองสูทใหม่ดู จะได้เห็นว่าแขนเสื้อมันออกมาเป็นอย่างไร จะทำให้เราเห็นได้ชัดกว่าครับ จะได้ไม่ซื้อสูทมาใส่แล้วออกมาดูไม่ดี ก็จะเสียเงินไปเปล่า ๆ
นี่คือ 5 กฎเหล็กง่าย ๆ ที่เราควรคำนึงถึงไว้เสมอในการเลือก ซื้อสูท สักตัวครับ หากสูทที่เลือกสามารถตอบโจทย์หรือตรงตาม 5 ข้อนี้ ก็รับรองว่ามันจะตอบความต้องการของเราและเราสามารถใช้มันได้นานแน่นอนครับ