ถ้าพูดถึงบาร์ในเมืองพัทยา หลายคนน่าจะนึกถึงภาพของร้านเหล้าที่มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติเข้าไปนั่งดื่ม นั่งพูดคุยกัน พร้อมกับเปิดเพลงจังหวะมัน ๆ ให้ได้คุยได้เต้นกันจนดึกดื่น แต่น่าแปลกใจที่ถ้าถามถึงบาร์ Cocktail บรรยากาศนิ่ง ๆ อารมณ์ Speakeasy Bar แล้ว มันกลับเป็นคอนเซ็ปต์ที่ดูห่างไกลจากความเป็นพัทยาเหลือเกิน จนกระทั่ง Bar Voyage บาร์น้องใหม่ที่เพิ่งเปิด กำลังจะมาเปลี่ยนความคิดเหล่านั้น
Bar Voyage เป็นบาร์น้องใหม่ จากทีมงานทำบาร์มากประสบการณ์จากกรุงเทพ ที่ต้องการเอาคอนเซ็ปต์บาร์สไตล์ Speakeasy มีความขรึมแต่ก็ไม่ได้เข้าถึงยาก ไปวางรากฐานในพัทยาให้คนคุ้นเคยกับบาร์ลักษณะนี้กันมากขึ้น และ MenDetails ก็มีโอกาสได้ไปรีวิวบาร์นี้ และนำมาบอกเล่ากันครับ เผื่อใครไปเที่ยวพัทยาแล้วอยากหาบาร์บรรยากาศดี ๆ ไปดื่มกับเพื่อนหรือคนรู้ใจ ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปพร้อมกันเราได้เลย
Bar Voyage พร้อมพาเราออกเดินทางท่องไปยังเมืองท่าต่าง ๆ
บาร์นี้เกิดจากที่ทีมงานบาร์ในเครือ Midsummer Night’s Dream Bar Thonglor กับ Lost in Thaislation บาร์ Cocktail ชื่อดัง บรรยากาศดีแห่งย่านทองหล่อ รวมถึง Chromatic.kkc ในขอนแก่น มาร่วมมือกับ Honour Group หนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองพัทยา เจ้าของโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมหลายแห่ง ออกมาเป็นบาร์สไตล์ Serious Cocktail Bar แต่คงความ Speakeasy ไว้ ให้เข้าถึงไม่ยากเกินไป
จุดประสงค์ของบาร์นี้ คือ การนำบาร์ Cocktail ในลักษณะที่เราพบเห็นได้ในย่านทองหล่อ หรือย่าน Night life ของกรุงเทพฯ มาบุกเบิกในพัทยา เพื่อให้คนที่นี่ได้เข้าใจว่าบาร์ Cocktail แบบนี้ไม่ได้เข้าถึงยาก หรือต้องเป็นทางการอะไรมากมาย
ตัวบาร์จะอยู่ด้านในของคาเฟ่ Hey! Coffee North Pattaya เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาในบาร์จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความหรูหราที่ได้คอนเซ็ปต์มาจากเล้าจ์ของเรือสำราญ เรือยอชต์ ต่างออกไปจากคาเฟ่ด้านนอก และนี่เป็นเรือที่พร้อมจะพาเราเดินทางท่องไปสู่เมืองต่าง ๆ ไปพบเจอกับประสบการณ์และวัฒนธรรมใหม่ ๆ โดยที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรเยอะ สามารถเดินเข้ามาแล้วคุยกับบาร์เทนเดอร์ หรือจะนั่งโต๊ะที่มีเพื่อนพูดคุยกับเพื่อน ๆ หรือคนรู้ใจก็ได้ และไม่แน่ว่าคุณอาจได้เจอกับเรื่องราว และเพื่อนใหม่ ๆ ที่บาร์แห่งนี้เช่นกัน ส่วนในวันสุดสัปดาห์ก็จะมีดีเจมาเปิดเพลงมัน ๆ ให้ได้เต้น ได้โยกกันไปพร้อมเครื่องดื่มรสเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็น Cocktail Bar + Culture Bar ก็ไม่ผิดนัก
Signature Cocktail ที่สะท้อนเรื่องราวและวัฒนธรรมอย่างน่าสนใจ
ไฮไลท์ของเครื่องดื่มที่บาร์แห่งนี้ นอกจากจะได้รสชาติและคุณภาพตามแบบฉบับของ Midsummer Night’s Dream Bar Thonglor กับ Lost in Thaislation แล้ว ก็หนีไม่พ้น Signature Cocktail ทั้ง 12 ตัว ที่แต่ละเมนูเป็นชื่อของเมืองท่าเรือสำราญ และชื่อเมืองของเครื่องดื่มแต่ละตัวนั้น ยังมีเอกลักษณ์ที่บาร์ดึงออกมาเพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและรสชาติที่หลากหลายตามแต่ละท้องที่ด้วย ตามคอนเซ็ปต์ Journey / Discovery / Experience ที่ตามร้านตั้งไว้
Journey คือการพาเราเดินทาง ผจญภัยไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อ Discovery ค้นพบวัฒนธรรมใหม่ ๆ วัตถุดิบ หรือรสชาติที่เป็น Local สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นำมาเสนอเป็น Experience ประสบการณ์ในการดื่ม Cocktail แต่ละตัวของทางร้าน
เครื่องดื่ม Signature ทั้ง 12 จะมีความซับซ้อนหรือความยาก – ง่าย ในการดื่มที่ต่างกัน หากใครที่ชอบไม่ชอบแบบไหน ก็สามารถพูดคุยกับทางบาร์เทนเดอร์ให้เขาช่วยเลือกได้เช่นกันครับ ส่วนเราจะขอยกมาบางตัวที่เราได้ดื่มและคิดว่าน่าสนใจ เพราะถ้ายกมาหมดทั้ง 12 ตัว ก็คงจะยาวเกินไป
ตัวแรกที่เราได้ดื่ม และเป็นตัวที่ทางบาร์เทนเดอร์แนะนำให้ลอง คือ Pattaya หรือ พัทยา (450.-) ครับ เบสของมันคือเตกิล่า โดยที่ความแปลกของมันคือการเอาปูม้ามากลั่นกับแอลกอฮอล์เอามาเป็นส่วนผสม ทำให้ตัวเครื่องดื่มแม้จะมีกลิ่นของปูจาง ๆ แต่กลับไม่มีรสชาติของปูเลย ตัวเครื่องดื่มจะมีฟองเค็ม ๆ ที่ต้องเวลาดื่มต้องดื่มทั้งตัวเครื่องดื่มและฟองไปด้วย ทำให้ได้รสชาติออกเปรี้ยวสดชื่นของเครื่องดื่มที่มีทั้งเตลิก่า แอลกอฮอล์กลั่นจากปูม้า น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะนาว ผสมกับความเค็มนิด ๆ เป็นการสื่อถึงเอกลักษณ์ของพัทยาที่อยู่ติดทะเล แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน ที่สื่อสารออกมาผ่ารสชาติที่สดชื่น เป็นเครื่องดื่มที่ดูส่วนผสมหลายอย่างอาจจะแปลก แต่ดื่มง่ายมาก ๆ
หากใครที่ชอบ Cocktail ที่มีความซับซ้อนและเป็น Spirit Forward (Cocktail ที่ส่วนผสมมีแต่แอลกอฮอล์) Santorini (400.-) เป็นเครื่องดื่มที่น่าสนใจ ตัวนี้เป็น Dry Martini ที่นำไปทวิสด้วยการใส่แอลกอฮอล์ที่ได้จากการเอา Blue Cheese ไปกลั่น ทำให้ยังคงได้กลิ่นหอมบาง ๆ ของ Blue Cheese เสิร์ฟมาด้วยมะกอกสอดไส้ Blue Cheese ลนไฟ เวลากินให้กินมะกอกพร้อมกับดื่มเครื่องดื่มไปพร้อมกัน และควรดื่มทันทีเพราะถ้าปล่อยไว้อุณหภูมิจะเปลี่ยนและรสจะเพี้ยน จะดื่มยากกว่าเดิม ทางร้านบอกว่าเราตัวนี้ ถ้าใครไม่ชอบจะเกลียดไปเลย ส่วนเรารู้สึกว่าดื่มได้ แต่แอลกอฮอล์แรงมาก ใครที่อยากลองอะไรแปลกใหม่ก็แนะนำครับ
อีกหนึ่งตัวที่เราประทับใจ คือ Amalfi coast (390.-) เป็น Bloody Mary ที่นำมาทวิส โดยหนึ่งในส่วนผสมที่น่าสนใจ คือ การใช้แอลกอฮอล์ที่ได้จากการเอาหอยแมลงภู่ไปหมักกับแอลกอฮอล์แล้วเอามากลั่น คล้าย ๆ กับปูม้ากลั่นของตัว Pattaya เป็นตัวที่ดื่มง่าย ดื่มอร่อยกว่าที่คิด เพราะดื่ม ๆ ไปแล้วรู้สึกเหมือนกำลังกินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศซีฟู้ดอยู่เลย แล้วตัวนี้ยังมีกานิชเป็นของคล้ายขนมจากมะเขือเทศกับสมุนไพรให้เรากัดไปพร้อมกับดื่มเครื่องดื่ม พอกินคู่กันแล้วบอกเลยว่า หิวสปาเก็ตตี้สุด ๆ ครับ และทางร้านบอกว่าเมนูนี้ยังเอามะเขือเทศส่วนต่าง ๆ ที่เหลือจากการทำอาหารของคาเฟ่ เป็น Zero waste ด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมี Cuba (450.-) ที่จะมีการเอาไป smoke ให้หอมแบบซิก้าร์ มีกลิ่นน้ำผึ้งกับกาแฟแทรกอยู่นิด ๆ พร้อมกานิชเป็นช็อกโกแลตให้กินคู่กัน ไม่หวานมาก ไม่ขมไป รสนุ่มลึก ส่วน Bahamas (500.-) ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมีการใช้น้ำมันเบค่อนกับกานิชเบค่อนมาด้วย เวลาดื่มจะมีความมัน ๆ นัว ๆ ของน้ำมันเบคอนมาด้วย ยิ่งกินคู่กับเบค่อนกรอบที่มาด้วยก็เข้ากัน เป็น Cocktail อีกตัวที่เหมือนจะดื่มยากแต่ก็ลื่นกว่าที่คิด ส่วนอีกตัวที่ได้รับความนิยมเช่นกัน คือ Seto Nakai (420.-) มีการใช้แอลกอฮอล์ที่ infuse ด้วยสาหร่าย ผสมกับความมัชชะ ตัวนี้ก็ดื่มง่าย และมีรสออกหวานนิด ๆ ไม่คาวสาหร่ายแต่อย่างใด
นี่เป็นเมนูราวครึ่งหนึ่งเท่านั้นจากทั้งหมด 12 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็นำเสนอเอกลักษณ์ตามชื่อของเมืองที่นำมาตั้งได้อย่างน่าสนใจ มี Gimmick มากน้อยต่างกัน ใครชอบไม่ชอบแบบไหน ก็สามารถสอบถามบาร์เทนเดอร์ที่พร้อมพูดคุยกับเราได้ตลอดครับ รวมถึง Cocktail พื้นฐานตัวอื่น ๆ ก็สามารถพูดคุยได้ว่าชอบไม่ชอบแบบไหนเช่นกัน
Bar Voyage ถือเป็นความตั้งใจที่จะนำเอาบาร์ Cocktail บรรยากาศดี ๆ แต่ยังคงความ Speakeasy เอาไว้ ไปให้คนพัทยาได้รู้จัก เพื่อเปิดทางให้บาร์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นในพัทยามากขึ้นต่อไป และยังพาเราออกเดินทางท่องไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกสมกับชื่อบาร์ไม่มีผิดเพี้ยน
หากใครแวะมาแถวพัทยาเหนือ และมองหาบาร์บรรยากาศดี ๆ ไม่วุ่นวายเกินไป สามารถนั่งคุยได้สบาย ๆ เป็นกันเลย พร้อมสัมผัสรสชาติใหม่ ๆ บาร์แห่งนี้ถือว่าน่ามาเยือนครับ โดยบาร์จะตั้งอยู่ที่ถนนพัทยาสาย 3 ติดคอนโด Once Pattaya เปิดทุกวันตั้งแต่ 18.00 – -2.00 น. สามารถจอดรถได้หน้าร้านครับ