ปี 2023 คือปีสำคัญสำหรับ OMEGA Seamaster เนื่องจากเป็นปีที่นาฬิกาแห่งท้องทะเลรุ่นนี้มีอายุครบ 75 ปี โดยเริ่มนับตั้งแต่ปี 1948 เป็นต้นมา และทาง OMEGA ก็ไม่ลืมที่จะรำลึกช่วงเวลาสำคัญดังกล่าวในปีนี้ด้วยคอลเล็คชั่นนาฬิกา OMEGA Seamaster Summer Blue กับเฉดสีหน้าปัดสะท้อนระดับน้ำทะเลที่แตกต่าง แต่ความแม่นยำในการบอกเวลานั้นเที่ยงตรงในทุกระดับความลึกของมหาสมุทร
1948 Seamaster “Town, Sea and Country”
อันที่จริงตำนานของ OMEGA Seamaster เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1932 โดยเป็นปีที่ OMEGA เปิดตัวนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของโลกที่จำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปและใช้ชื่อรุ่นว่า OMEGA Marine จนสร้างชื่อเสียงโด่งดังให้กับ OMEGA และได้รับความไว้วางใจจากกระทรวงกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักรให้ผลิตนาฬิกาสำหรับกองกำลังทหารอังกฤษในการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนาฬิกา OMEGA ในยุคนั้นจะสลักตัวอักษร W.W.W. ที่ย่อมาจาก “Waterproof Wrist Watch” บนฝาหลังของทุกเรือน
จวบจนมาถึงปี 1948 ที่ OMEGA ได้วางจำหน่ายนาฬิกาที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “Seamaster” อย่างเป็นทางการ โดยยังคงยึดต้นแบบจากนาฬิกาที่ทหารอังกฤษใส่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยคำจำกัดความว่า “Town, Sea and Country” สะท้อนถึงบุคลิกของนาฬิกาที่ผู้ชายสามารถใส่ไปได้ทุกที่โดยไม่มีจำกัด นี่เองจึงทำให้ปี 1948 กลายเป็นหมุดหมายแรกอย่างเป็นทางการของ OMEGA Seamaster
75th year “Summer Blue”
จากปี 1948 ถึงปี 2023 บวกลบแล้วครบรอบ 75 ปี ของ OMEGA Seamaster พอดิบพอดี ทาง OMEGA จึงออกนาฬิกา Seamaster คอลเล็คชั่นใหม่ เพื่อเฉลิมฉลองและรำลึกถึงแรงบันดาลใจจากท้องทะเลอันกว้างใหญ่ของ Seamaster ด้วยสีน้ำเงินเฉดพิเศษที่เรียกว่า “Summer Blue” ตกแต่งบนหน้าปัดและตัวเรือน โดยแบ่งเฉดความเข้มของสีน้ำเงินตามระดับความลึกของน้ำทะเลสำหรับ Seamaster แต่ละรุ่น ยิ่งลงไปได้ลึกเท่าไหร่ สี Summer Blue ของรุ่นดังกล่าวก็จะยิ่งเข้มขึ้นเท่านั้น ถือเป็นการเล่นกับเฉดสีน้ำเงินที่มีเสน่ห์และได้ใจคนที่รักทะเลและมหาสมุทรจริง ๆ
นาฬิกา OMEGA Seamaster ทั้ง 7 รุ่นที่อยู่ในคอลเล็คชั่นการฉลองครบรอบ 75 ปีในปี 2023 นี้ จะได้รับการตกแต่งหน้าปัดด้วยสี Summer Blue แบบนี้ทั้งหมด ซึ่งนาฬิกาทั้ง 7 รุ่นดังกล่าวมีระดับการกันน้ำที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังคงไว้ซึ่งการบอกเวลาที่แม่นยำในทุก ๆ ระดับความลึกของน้ำ ให้สมกับประโยคที่ว่า “Precision at every level” หรือ “ความเที่ยงตรงในทุกระดับความลึก” นั่นเอง
Seamaster 300
OMEGA Seamaster 300 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1957 ควบคู่กันกับ Speedmaster และ Railmaster ในสมญา “เรือนเวลาสำหรับมืออาชีพ” กับเข็มนาฬิการูปลูกศร (Broad Arrow) ที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน บนหน้าปัดสมมาตรสุดแสนเรียบง่ายที่ขนาด 41 มิลลิเมตร เพื่อให้สามารถบอกเวลาได้ชัดเจนและอ่านง่ายที่สุดสำหรับผู้ชายที่ต้องการใช้งานนาฬิกาในฐานะอุปกรณ์ประจำกายอย่างเป็นมืออาชีพที่สุด พร้อมระดับการกันน้ำที่ 300 เมตรตามชื่อของ Seamaster 300 ที่ทุกคนรู้จักกันดี
Seamaster PloProf
ต่อมาในปี 1970 ทาง OMEGA ได้วางจ่าหน่าย Seamaster ในชื่อรุ่น PloProf มาจากคำภาษาฝรั่งเศส Plongeur Professionel ที่แปลว่า นักดำน้ำมืออาชีพ เป็น OMEGA Seamaster ที่มีรูปลักษณ์แปลกตาและแตกต่างจาก OMEGA Seamaster รุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน ถือเป็นนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์ที่สุดเรือนหนึ่งของ OMEGA เลยทีเดียว และในปี 2023 นี้ทาง OMEGA ก็ได้นำ PloProf มาผลิตในเวอร์ชั่นสีซัมเมอร์บลูเพื่อฉลองครบรอบ 75 ปีของ โอเมก้า ซีมาสเตอร์ ด้วยเช่นกัน
Seamaster Diver 300M
ถัดมาคือรุ่น Diver 300M ที่ทาง OMEGA เปิดตัวในปี 1993 และปลุกปั้นให้กลายเป็นนาฬิกาที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากภาพยนตร์สายลับสุดมันอย่าง James Bond 007 ด้วยขนาด 42 มิลลิเมตร พร้อมบุคลิกอันแข็งแกร่งของ Helium Valve บนตัวนาฬิกาที่ทำให้เรามองว่า Seamaster Diver 300M เป็นนาฬิกาที่เหมาะกับ James Bond รวมถึงผู้ชายที่มีบุคลิกทะมัดทะแมงและคล่องตัว ยิ่งเมื่อมาผสมผสานกับสีพิเศษ Summer Blue แบบนี้ก็ยิ่งสะท้อนความเป็นนาฬิกาดำน้ำมากขึ้น และทำให้นาฬิกาดูมีมิติยิ่งขึ้นกว่าสีพื้นธรรมดาอีกด้วย
Seamaster Aqua Terra
OMEGA Seamaster Aqua Terra คือหนึ่งในเรือนเวลาที่ MenDetails ชื่นชอบเป็นพิเศษ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 ด้วยภาพลักษณ์ของ Seamaster ที่ใกล้เคียงความเป็น Dress Watch แตกต่างจาก Seamaster 300M รุ่นปกติที่ดูสมบุกสมบันแบบนาฬิกาดำน้ำสไตล์ Sport Watch มากกว่า และสำหรับ Aqua Terra รุ่นฉลองครบ 75 ปี ของ OMEGA Seamaster จะมีมาให้เลือกในขนาด 38 mm และ 41 mm
Seamaster Planet Ocean 600M
OMEGA Seamaster Planet Ocean เปิดตัวในปี 2005 ด้วยการนำพาพวกเราดำดิ่งให้ลึกลงสู่ผืนน้ำในระดับ 600 เมตร พร้อม ๆ กับการเปิดตัวกลไกเดินเข็มแบบปล่อยจักร หรือ Co-Axial ของ OMEGA เป็นครั้งแรกในขณะนั้น ด้วยขนาด 39.5 มิลลิเมตร ทำให้ Planet Ocean 600M เป็น Seamaster ที่ตัวเรือนไม่ใหญ่มากนักแต่มีประสิทธิภาพในการกันน้ำที่เหลือเชื่อ และด้วยสไตล์เข็มนาฬิกา Broad Arrow จากดีไซน์ของ Seamaster 300 ผสานกับ Helium Valve จาก Diver 300M ทำให้ Planet Ocean 600M เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ MenDetails ชื่นชอบเป็นพิเศษจริง ๆ
Seamaster Worldtimer
World Timer คือ OMEGA Seamaster รุ่นย่อยของ Aqua Terra ที่เปิดตัวตามมาในปี 2017 เพิ่มการตกแต่งโดยจัดวางรูปโลกให้อยู่ตรงกลางของหน้าปัด พร้อมระบบบอกเวลาสำหรับแต่ละเมืองทั่วโลกให้สมชื่อ Worldtimer โดยมี Bangkok หรือ กรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในนั้นด้วย OMEGA Seamaster Aqua Terra Worldtimer รุ่นฉลองครบรอบ 75 ปี มาในขนาด 43 mm. และกันน้ำได้ในระดับ 150 เมตร เช่นเดียวกับ Aqua Terra รุ่นปกติ
Seamaster Planet Ocean Ultradeep
หากความลึกที่ 600 เมตรของ Planet Ocean 600M ยังไม่สมใจ MenDetails ขอแนะนำให้รู้จักกับ OMEGA Planet Ocean Ultradeep ที่ทำให้การบอกเวลาอันเที่ยงตรงสามารถทำได้ที่ระดับความลึกถึง 6,000 เมตร หรือ 20,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับความลึกที่มนุษย์น้อยคนนักจะสามารถเดินทางลงไปถึงได้ นาฬิกาเรือนนี้จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในการท้าทายขีดจำกัดอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่ OMEGA Seamaster ภาคภูมิใจ
เส้นทางของ OMEGA Seamaster ตลอดระยะเวลา 75 ปี ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความประทับใจของผู้ชายที่รักและหลงใหลในนาฬิการะดับตำนานรุ่นนี้ที่มีต่องานดีไซน์และเทคโนโลยีเดินเวลา รวมถึงระบบการกันน้ำอันยอดเยี่ยมเพื่อการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพใต้ท้องทะเลสมชื่อของ “Seamaster” โดยมีสีสันของมหาสมุทร Summer Blue เป็นสัญลักษณ์ในการครบรอบ 75 ปีในปี 2023 นี้ และ MenDetails เชื่อว่า OMEGA จะยังคงส่งต่อความประทับใจดังกล่าวอย่างต่อเนื่องไปอีกนานเท่านาน
MenDetails ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในครั้งนี้ของ OMEGA ด้วยนะครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกั
สาขา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959
สาขา สยามพารากอน โทร. 02-129-4878
สาขา เซ็นทรัลภูเก็ต ฟอเรสตา 076-510-818
Line Official Account | @OMEGAThailand
หรือคลิก Seamaster Collection in Summer Blue: Precision at Every Level