สำหรับคนไทย อาหาร โต๊ะจีน ถือว่าเป็นของที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะวัฒนธรรมจีนที่ฝังรากลึกอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เราสามารถพบเห็นอาหารสไตล์โต๊ะจีนนี้ได้ตามงานเลี้ยง และงานมงคลต่าง ๆ ที่มีอาหารมากมายหลายประเภทมาเสิร์ฟตรงกลาง และให้เรากับคนร่วมโต๊ะตักแบ่งกันไป ให้ได้อิ่มอร่อยกันทั่วหน้าทั้งอาหารคาวหวาน
แต่ถ้าเรามองให้ลึกกว่านั้น การเสิร์ฟอาหารสไตล์โต๊ะจีน ยังมีความหมายอะไรบางอย่างซ่อนอยู่อีก ทั้งในแง่ของลำดับการเสิร์ฟไปจนถึงความหมายแฝงของอาหารแต่ละจานที่อยู่เบื้องหลัง ในบทความนี้ MenDetails จึงจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับความหมายที่ซ่อนอยู่ในโต๊ะจีน รูปแบบอาหารที่เราคุ้นเคย แต่อาจจะยังไม่รู้จักมันจริง ๆ มาฝากครับ
โต๊ะจีน อาหารสะท้อนความเชื่อแบบจีน
อาหารโต๊ะจีน คาดกันว่าเริ่มเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่คนจีนเริ่มเข้ามาอยู่อาศัย ค้าขายแลกเปลี่ยนกับไทยจำนวนมาก และมีไม่น้อยที่มาตั้งรกราก พร้อมกับการเอาวัฒนธรรมการกินติดมา จนค่อย ๆ พัฒนาและฝังรากลงในวัฒนธรรมอาหารของประเทศไทยจนกลายมาเป็นโต๊ะจีนแบบในปัจจุบัน
โต๊ะจีนจึงเป็นอาหารที่สะท้อนวัฒนธรรมแบบจีนในแง่มุมต่าง ๆ ออกมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนเรื่องของครอบครัวและการอยู่อาศัย ที่คนจีนมักอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ เวลากินอาหารก็ต้องกินกันพร้อมหน้า หรือเวลากินกับเพื่อน ก็จะเป็นเหล่าเพื่อนสนิท ซึ่งเวลากินก็จะมีการพูดคุย ถามไถ่ เรื่องราวต่าง ๆ เป็นการสื่อสารกันให้เกิดความสามัคคี ความกลมเกลียวกันในหมู่ครอบครัว หรือเพื่อน ทำให้การกินอาหารของคนจีนจะเป็นการมานั่งล้อมโต๊ะใหญ่ ยิ่งครอบครัวใหญ่ก็จะยิ่งมีจำนวนคนเยอะ ทำให้จำนวนอาหาร หรือปริมาณอาหารเยอะตามไปด้วย เพราะคนจีนจะกินในลักษณะของจานกับข้าวกลางและตักแบ่งไม่ต่างจากคนไทย เมื่อกลายมาเป็นอาหารโต๊ะจีน จึงเอาลักษณะของการนั่งล้อมโต๊ะพร้อมหน้ามา พร้อมกับกลางโต๊ะที่หมุนได้ สำหรับเวียนจานกับข้าวให้ทั่วถึง และในระหว่างที่กินก็ยังสามารถพูดคุยกันได้ด้วย
อีกความเชื่อหนึ่งที่ถูกสะท้อนผ่านโต๊ะจีน คือ อาหารไม่ใช่แค่ของที่กินแล้วอิ่มท้อง แต่อาหารยังถือเป็นยาชนิดหนึ่ง ถ้ากินอย่างเหมาะสมและถูกต้องจะช่วยให้สุขภาพดี ทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ทำให้อาหารบนโต๊ะจีนที่ถือเป็นการเลี้ยงแขกนั้น ต้องมีเมนูอาหารให้ครบ 5 ธาตุของจีน คือ ไฟ ไม้ ทอง ดิน และน้ำ ตัวอย่างที่เราเห็นได้บ่อย เช่น หมูนำไปย่างทั้งตัว, หูฉลาม, เป็ดยัดไส้เกาลัด, ปลานึ่ง และฮ่อยจ๊อ ที่เป็นตัวแทนของธาตุต่าง ๆ และยังเป็นอาหารมงคล อีกหนึ่งความเชื่อที่ถูกสะท้อนผ่านโต๊ะจีน
เพราะคนจีนมีความเชื่อในเรื่องของความเป็นมงคลอย่างมาก ทุกอย่างต้องมีความหมายสื่อถึงสิ่งที่ดี ดังนั้นในการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนจึงไม่ใช่แค่การฉลอง แต่เป็นการอวยพร และเสริมมงคลให้กับทุกคนด้วย เช่น จำนวนอาหารที่เสิร์ฟมักจะมี 8 – 10 อย่าง เพราะเป็นเลขมงคล ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเลข 4 ที่ในภาษาจีนพ้องกับคำว่าตาย (หลักการเดียวกับที่ตึกบางแห่งในจีนไม่มีชั้นที่ 4 หรือตึกบางแห่งของแถบยุโรปไม่มีชั้นที่ 13 ที่เป็นเลขแห่งลางร้าย) ไปจนถึงเมนูอาหารที่นำมาเสิร์ฟก็ต้องมีความหมายที่เป็นมงคลเช่นกัน เช่น หมูที่สื่อถึงการกินดีอยู่ดี ไก่สื่อถือความก้าวหน้า อาหารจำพวกเส้นที่สื่อถืออายุที่ยืนยาว รวมถึงปลาที่แทบจะขาดไม่ได้ในโต๊ะจีน ที่สื่อถือการมีกินมีใช้ไม่ขัดสน เป็นต้น
ลำดับการเสิร์ฟ ที่คิดมาเป็นอย่างดีสำหรับแขกทุกคน
นอกจากจะเป็นการสะท้อนความเชื่อแบบจีนแล้ว ลำดับการเสิร์ฟอาหารของโต๊ะจีน ก็ถูกคิดมาอย่างดีไม่ต่างอะไรกับอาหารแบบคอร์สของฝั่งตะวันตก หรือ ไคเซกิ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เพื่อให้แขกทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอาหารได้ทุกอย่าง กินอิ่มแล้วกลับบ้านอย่างมีความสุข และยังเป็นการแสดงถึงความใจกว้าง ในการต้อนรับแขกของเจ้าภาพผ่านการจัดอาหารในมื้อ โดยเฉพาะมื้อไหนที่เจ้าภาพจัดอาหารหายาก ราคาแพงมาให้ผู้ร่วมงานได้กิน จะถือเป็นเกียรติอย่างมาก
ลำดับอาหารในโต๊ะจีน สามารถแบ่งได้คร่าว ๆ คือ
ออร์เดิร์ฟ หรือ อาหารเรียกน้ำย่อย เป็นการกระตุ้นให้กระเพาะเริ่มทำงาน เพื่อให้สามารถรับสารอาหารจากอาหารลำดับถัดไปได้เต็มที่
ซุปน้ำข้น ที่มักจะมีวัตถุดิบหายาก และยังเป็นยาบำรุงร่างกาย เช่น หูฉลาม กระเพาะปลา เป๋าฮื้อ
กับข้าว จะเป็นอาหารต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายในเรื่องของวัตถุดิบและรสชาติ โดยจะใช้เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่มีความหมายเป็นมงคล ไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ เป็ด กุ้ง และที่ขาดไม่ได้คือ ปลา และด้วยการเรียงลำดับอาหารที่ดีจะทำให้แขกได้ลิ้มรสชาติอาหารทุกอย่างได้เต็มที่โดยที่ไม่รู้สึกเลี่ยนจนเกินไป
ซุปใส จะมาหลังอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เพื่อมาล้างปาก ซดคล่องคอดับความเลี่ยน
ข้าว หรือที่หลายคนเรียกว่า เมนูอิ่ม สาเหตุที่ข้าวมาหลังสุด เพราะความเชื่อของคนจีนที่ต้องการเลี้ยงดูแขกอย่างดี จึงจัดอาหารดี ๆ ใช้วัตถุดิบหายากมาก่อน และค่อยมาจัดของหนักสำหรับใครที่ยังไม่อิ่ม รวมถึงคนจีนชอบกินข้าวกับเหล้า ข้าวจึงมาตอนท้าย เพื่อให้กินเสร็จแล้วอิ่มท้อง เตรียมกลับบ้านได้อย่างมีความสุข หลังจากกินอาหารอย่างสุดท้าย ที่จะมาหลังจากนี้
ของหวาน หรือ ผลไม้ ทำให้มื้ออาหารครบทั้งคาวหวาน และยังแฝงความเชื่อว่า จะทำให้ชีวิตปราศจากความขมขื่น และของหวานในโต๊ะจีนหลายเมนู ยังมีการใช้สมุนไพร เช่น แปะก๊วย ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
แม้จะเป็นอาหารที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก และต้องเคยกินอย่างน้อยสักครั้ง แต่เบื้องหลังยังมีความเชื่อแบบจีนที่แฝงอยู่ในแง่มุมต่าง ๆ อีกมากที่เราอาจไม่รู้มาก่อน ทำให้โต๊ะจีน เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของวัฒนธรรมการกินที่น่าสนใจที่เราหยิบมานำเสนอในครั้งนี้ครับ