ทำไมมะเขือเปราะต้องอยู่ในแกง? ทำไมทุเรียนต้องกินเป็นของหวาน?
80/20 (เอ็ทตี้ทเวนตี้) คือกลุ่มคนที่ลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับวัตถุดิบบ้านๆที่เราเห็นทุกวันเหล่านี้ และด้วยแบ็คกราวน์ของเชฟชาวต่างชาติ และเชฟไทยที่มีประสบการณ์ในต่างประเทศ คำตอบที่ได้มา จึงเป็นเมนูที่ไม่ซ้ำใคร เรียกได้ว่าใช้วัตถุดิบเดิม แต่ปรุงแบบใหม่ ในอัตราส่วนความเป็นไทย 80 ต่อ ความอินเตอร์ 20 ที่แปลกใหม่ในทุกๆ จาน
ร้านตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง 26 ตกแต่งแบบไม่สะดุดตามากนัก หากแต่บรรยากาศแสนอบอุ่น และเลือกหยิบเอาของใหม่และเก่ามารวมกันให้เข้ากับย่านเจริญกรุงแห่งนี้แบบ 80/20 เช่นเดียวกัน ด้านหน้ามีขวดโหลที่ไว้หมักวัตถุดิบจริงเพื่อการทดลองเมนูใหม่ๆ โดยรวมบรรยากาศคล้ายไปทานอาหารมื้อดีที่เมืองนอกอย่างไงอย่างงั้น กลิ่นอาหารลอยคลุ้งไปทั่ว เคล้าเสียงหัวเราะของลูกค้าทุกท่านที่นั่งทานอาหารที่นี่
เราเริ่มมื้อนี้ด้วย กระท้อนดองมาร์ตินี่ (Kraton Dong Martini) 320.- และเมนูที่ยังไม่ปรากฏบนกระดาษอย่าง Mojito บวกมะเฟือง ผลไม้พื้นบ้านสองชนิดที่เรายังแทบไม่เคยเห็นใครเอามาดัดแปลง โดยปกติเราจะคุ้นเคยกับมาร์ตินี่ที่เสิร์ฟพร้อมมะกอกเขียว แต่ครั้งนี้ทางร้านเลือกที่จะนำกระท้อนมาดองแบบโฮมเมด เสิร์ฟลงในเหล้าเวอร์มุทและวอดก้า เวลาดื่มลงไปแล้ว จะยังมีกลิ่นหอมของกระท้อนอบอวลอยู่ในปาก หรือแม้กระทั่ง Mojito ที่มีความฝาดเบาๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของมะเฟืองเป็นต้น ทางร้านทำออกมาได้ดีทั้งคู่ครับ ใครสาย Cocktail ควรลองเป็นอย่างยิ่ง
เมนูแรกที่มาเสิร์ฟพวกเรา เป็นเมนู กุ้งทะเลลวกซอสขมิ้นขาว (Slow Poached Tiger Prawn) 460.- MDs’ RECOMMENDED เมนูที่ให้กลิ่นอายของอาหารปักษ์ใต้ และเต็มไปด้วยวัตถุดิบจากภาคใต้ อาทิเช่น กุ้งลายเสือ สะตอ ขมิ้นขาว แตกต่างตรงที่เชฟใช้ความสร้างสรรค์ในการปรุง เช่น การนำสะตอไปรมควันจนเกิดรสเปรี้ยว นำกุ้งไปดองและทำเป็นซอส นำขมิ้นขาวไปทำ purée (คล้ายการบด) รวมถึงนำดอกกระเจียวสดไปดองเป็นเครื่องเคียง เมื่อทานรวมกับกุ้งลายเสือที่สดเนื้อแน่นจนต้องออกแรงตัด นับว่าเป็นเมนูที่รสชาติแปลกใหม่แต่ยังเอกลักษณ์ของอาหารใต้เอาไว้ได้ เมนูนี้อร่อยมากจริงๆ
ต่อกันกับเมนูที่สอง ชื่อเมนู ไข่ตุ๋นทุเรียนกับปู (Kai Toon Durian & Crab) 320.- เราต้องตกใจกับเมนูนี้ถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกคือตกใจกับชื่อของมันว่า เฮ้ย เอาจริงหรอ? ครั้งที่สองคือเมื่อทราบว่าเมนูนี้ใส่ลองกองเข้ามาด้วย และตกใจครั้งที่สามคือ มันเข้ากันดีมาก! ไม่น่าเชื่อว่าเชฟจะสามารถเอาทุเรียนมาทำไข่ตุ๋นได้ รสของทุเรียนย่างน่าจะถูกใจแฟนคลับทุเรียน แต่ถ้าเป็นคนไม่ชอบทานทุเรียนอาจจะไม่ปลื้มจานนี้ได้ และน่าจะเกิดอาการเลี่ยนได้ง่ายกว่าจานอื่นๆ
ต่อกันกับเมนูโปรดของพวกเรา ไม่สั่งไม่ได้ MDs’ RECOMMENDED กับ หมูหมักโคจิซอสพริกรมควัน (Moldy Belly) 380.- เป็นเมนูที่แนะนำให้สั่งจริงๆโดยเฉพาะคนที่ชอบทานเนื้อสัตว์ เพราะจานนี้เป็นการหมักหมูสามชั้นด้วยโคจิ (Koji) ซึ่งเป็นกระบวนการถนอมอาหารอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมกับหัวปลี วัตถุดิบบ้านๆที่ผ่านการ Caramelized พร้อมซอสมะพร้าวหมักที่ได้รสเปรี้ยวๆแบบโยเกิร์ต และซอสพริกรมควัน แนะนำคือให้ทุกท่านทานทุกสิ่งพร้อมกันในคำเดียว แล้วจะได้รับรู้ว่ารสชาติกลมกล่อมแบบแปลกใหม่เป็นยังไง ฟินมากครับ! ย้ำอีกครั้งว่าต้องสั่ง!
ยังไม่ทันหายปลาบปลื้มกับเมนูก่อน เมนูแกงช่างเที่ยว (Travelling Curry) 630.- ก็มาเสิร์ฟตรงหน้าพวกเรา โดยเมนูนี้เป็น Lamb Loin หรือเนื้อแกะส่วนสะโพก ที่มีความนุ่มมาก และใช้การหมัก (Marinated) ระหว่างนำไปย่างกว่า 4-5 ครั้ง ที่ยังคงความกึ่งสุกกึ่งดิบข้างในเอาไว้ได้ ทีเด็ดอีกส่วนก็คือตัวแกงที่มีส่วนผสมของส้มเช้งเป็นหลัก เสิร์ฟมาในมะพร้าวเผา เมื่อทานคู่กับเนื้อแกะและแกนมะพร้าวดอง ต้องบอกเลยว่าไม่มีกลิ่นคาวเนื้อแกะเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นคนที่ไม่ชอบเนื้อแกะก็สามารถกินได้สบายๆ
ปิดท้ายอาหารจานหลัก ด้วยเมนู น่องไก่ซอสขิงกับเทอรรีนมันฝรั่ง (Pan Seared Chicken Thigh) 360.- เมนูที่เสิร์ฟมาตั้งแต่น่องยันตีนไก่ ให้อารมณ์แบบไทยสุดๆ ส่วนมันฝรั่งก็ใช้การทำเป็น Terrine หรือสไลด์เป็นชิ้นบางๆแล้วนำมาเรียงกัน ปรุงด้วยกระเทียมดำ ให้กลิ่นอายอาหารจีนนิดๆ นอกจากนี้ยังมีสลัดแตงกวาดองช่วยทำให้ทานได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
ตามด้วยของหวานของคำคืนนี้ที่เริ่มต้นด้วย Salak G&T 300.- ค็อกเทลจินโทนิคใส่สละดอง รสชาติสละไม่ฉุนและแอลกอฮอลล์ไม่แรงจนเกินไป ช่วยให้ล้างปากจากอาหารมื้อหลักได้ดีมาก รวมถึงเมนูของหวานที่เรียกได้ว่าห้ามพลาด! เมนูฝรั่ง (Fa-Rang) 280.- MDs’ RECOMMENDED จากฝีมือเชฟชาวญี่ปุ่น เป็นมูสไวท์ช็อกโกแลตที่ทำเป็นรูปผลฝรั่ง และยังนำฝรั่งมาทำแยม ทำพูเร และทำกานาชครีม นอกจากนี้ยังมีเกล็ดช็อกโกแลตผสมโรยอยู่รอบๆ อ่านแล้วอาจไม่เข้าใจว่ารสชาติเป็นยังไง แต่เมื่อทานรวมกัน แม้แต่ผู้ชายไม่ชอบทานของหวาน ยังทานจนเกลี้ยงซึ่งคนนั้นคือ “เราเอง”
ราคาอาหารส่วนมากอยู่ที่จานละ 200-400 บาท ซึ่งเราคิดว่าราคาพอๆกับร้านอาหารในห้าง แต่รสชาติพิถีพิถันกว่ามาก นอกจากนี้เมนูร้านนี้ยังเปลี่ยนทุก 4 เดือน เพราะใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ถ้าใครอยากทำแต้มให้สาวๆประทับใจ รับรองว่าร้านนี้นอกจากจะอร่อยสมราคาแล้ว คุณยังได้แต้มด้านรสนิยมการทานอาหารเพิ่มขึ้นไปอีกแน่ๆ
สามารถติดต่อจองโต๊ะได้ที่โทร 099 118 2200 หรือหน้า Facebook : 80/20 Bangkok ได้เลย MDs ขอบอกว่า “ร้านนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง” ควรมาลองให้ได้นะครับ