ในการไปเที่ยวญี่ปุ่นของหลาย ๆ คน การแช่ออนเซ็น อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเที่ยวด้วย เพราะการแช่ออนเซ็นนั้นทำให้ร่างกายผ่อนคลาย แถมยังได้ประโยชน์จากแร่ธาตุในน้ำ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ในการมาเที่ยวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับหลาย ๆ คน เวลาต้องแช่ออนเซ็นจริง ๆ อาจเกิดความเขินอายหรือไม่เข้าใจ กฎการแช่ออนเซ็น (ซึ่งผู้เขียนเคยเจอกับตัวมาแล้ว เวลาไปเที่ยวแล้วมีคนอายไม่ลงแช่) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก
MenDetails เคยมีบทความแนะนำให้รู้จักออนเซ็น กับการแช่ไปนิด ๆ หน่อย ๆ แล้ว แต่ในบทความนี้เราจะขยับขึ้นมาอีกขั้น ด้วยการพูดถึงวิธีการแช่อย่างคนญี่ปุ่น ที่รู้แล้วรับรองสามารถลงแช่กับคนญี่ปุ่นได้เนียน ๆ อย่างไม่เคอะเขิน และคนญี่ปุ่นเองอาจจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเราเป็นชาวต่างชาติ แบบที่ผู้เขียนประสบมา จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ
เตรียมตัวก่อนแช่ ให้ไม่เคอะเขิน
กฎการแช่ออนเซ็น ของเรานั้นเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนลงแช่ครับ เรียกได้ว่าเริ่มตั้งแต่การเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยทีเดียว ก็อย่างที่รู้กันว่าเบื้องต้นออนเซ็นญี่ปุ่นโดยปกติจะมีข้อห้ามอยู่ ที่ไม่ว่าใครต้องปฏิบัติตาม อย่างเช่น ห้ามคนที่มีรอยสักลงแช่ หรือใครที่ปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจ ความดันโลหิตสูงควรระวังในการลงแช่ ไม่ใส่เครื่องประดับที่ทำจากโลหะ เนื่องจากมันจะไปทำปฏิกิริยากับน้ำแร่ และไม่ใส่เครื่องประดับที่สามารถหล่นหายได้ เพราะป้องกันสามารถหล่นในบ่อที่อาจจะทำให้เกิดการอุดตันหรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ไม่นำอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคเข้าแช่ รวมถึงห้ามถ่ายรูป แต่ในบทความนี้เราจะลงลึกไปอีกนิด เพื่อให้เราดู “โปร” มากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้ได้ไม่ว่าเราจะพักโรงแรมที่มีออนเซ็นในฐานะแขก หรือจะเป็นคนที่เข้าใช้บริการแช่ออนเซ็นเฉย ๆ ก็ตาม
สำหรับสิ่งที่ต้องรู้อย่างแรกเลยคือ เข้าให้ถูกห้องครับ โดยปกติจะมีสัญลักษณ์บอกอยู่แล้ว หรือดูป้ายผ้าก็ได้ สีแดงคือผู้หญิง สีน้ำเงินคือผู้ชาย ในบางแห่งอาจมีบ่อรวม อันนี้ก็แล้วแต่สถานที่ และบางแห่งอาจมีหลายบ่อให้แช่ ทั้งบ่อปิด (อยู่ในอาคาร) บ่อกลางแจ้ง (บ่อนอกอาคาร) ก็เลือกเข้าได้ตามสะดวก และโปรดระวังเวลาไปพักโรงแรม เพราะโรงแรมที่มีหลายบ่อ อาจสลับบ่อกันในแต่ละวันเพื่อให้ผู้เข้าพักได้แช่ในบรรยากาศที่ต่างกัน ต้องเช็คดี ๆ เพื่อไม่ให้เข้าผิดบ่อครับ
เมื่อเข้าประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าไปก็จะเจอผู้มาใช้บริการตัวเปลือยเปล่า ทั้งฝั่งผู้ชาย ผู้หญิง สำหรับมือใหม่ หรือคนที่จะแช่ครั้งแรกอาจจะสับสนและประหม่าพอสมควร เพราะบางที่อาจมีผู้ใช้งานเยอะ มองไปทางไหนก็เห็นแต่คน ไม่ว่ายังไงอย่าไปจ้องนะครับ เพราะเสียมารยาท ให้เรามุ่งมั่นหาตู้เก็บเสื้อผ้าที่ว่างอยู่ก็พอ เมื่อได้ตู้เก็บเสื้อผ้าแล้วก็ถอดเสื้อผ้า รองเท้าและเอาของทุกอย่างเก็บใส่ตู้ครับ บางที่ตู้จะมีกุญแจให้เราล็อค แล้วให้เราเอากุญแจคล้องข้อมือไว้ได้เลย บางทีอาจจะไฮเทคหน่อยก็เป็นตู้ไฟฟ้าใส่รหัสก็ว่ากันไป ใครที่เขินไม่กล้าถอด (แบบผู้เขียนครั้งแรก) อาจใช้วิธีกลั้นใจสักนิดหนึ่ง ใจนิ่ง ๆ แล้วถอดเลย ฮึบเดียว จริง ๆ มันก็จะเขินครั้งแรกแหละครับ เพราะหลังจากนั้นครั้งต่อไปก็ไม่เขินแล้ว และคนอื่น ๆ ในนั้นก็ไม่ได้มาใส่ใจกับร่างกายเรา เพราะทุกคนมาเพื่อแช่ออนเซ็น ยิ่งเขินมันจะยิ่งทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกแปลก ๆ ครับ
ส่วนครั้งแรกของผู้เขียน ไปกับเพื่อนเกาหลีและญี่ปุ่น พอไปถึงตู้เก็บของพวกเขาก็ถอดเสื้อผ้ากันอย่างรวดเร็ว ผู้เขียนจะมาอึ้งนาน เตรียมใจนานไม่ได้ ก็เลยต้องถอดตามอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีความเขินเวลาไปแช่อีกต่อไป ถ้าผ่านครั้งแรกได้ เราบอกเลยว่าครั้งถัดไปจะตามมา และเมื่อได้ลองแช่แล้วจะติดใจอย่างแน่นอน
ส่วนผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ที่บางแห่งอาจมีผ้าให้หยิบมาจากด้านนอกห้องแต่งตัว บางแห่งมีผ้าให้หยิบก่อนเข้าห้องแช่ออนเซ็น หรือบางแห่งถ้าเราเป็นแขกโรงแรมอาจจะต้องหยิบไปจากห้องเลย หรือถ้าเป็นแขกที่มาเพื่อแช่ออนเซ็นอย่างเดียว จะต้องจ่ายเพิ่ม (ทั้งผ้าขนหนูและผ้าเช็ดตัว) อันนี้เอาเข้าไปกับเราบ่อออนเซ็นด้วยได้ครับ แต่ห้ามเอาผ้าขนหนูจุ่มลงไปในบ่อออนเซ็นเด็ดขาด ส่วนใครที่เขินเวลาเดินจะเอาผ้าขนหนูมานุ่งปิดของลับ หรือมาบังไว้ก็ได้ครับ แต่ก็อย่างที่บอกว่าไม่มีใครสนใจมองแน่นอน (แน่นอนว่าถ้ามองคือเสียมารยาทสุด ๆ) ทางฝั่งผู้ชายส่วนใหญ่ก็เดินกันตัวเปล่านั่นล่ะครับ
กฎการแช่ออนเซ็น แบบคนญี่ปุ่นตัวจริง
หลังผ่านขั้นตอนที่ยากที่สุดอย่างการถอดเสื้อผ้าได้แล้ว ก็ถึงเวลาเข้าไปในบ่อแช่ครับ ซึ่งก็มีมารยาทพื้นฐานอย่าง ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามวิ่งเล่น ห้ามว่ายน้ำในบ่อออนเซ็น ห้ามบ้วนปาก ห้ามเอาน้ำมาล้างหน้า ไม่ว่ายน้ำในอ่าง ส่วนใครที่ผมยาวทั้งผู้ชายผู้หญิงก็รวบไว้สักนิดครับ
เมื่อเข้าไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คืออาบน้ำล้างตัวครับ ออนเซ็นตามโรงแรมปกติเขาจะมีสบู่ แชมพู ใด ๆ เตรียมไว้ให้แล้ว ก็สามารถใช้ของเขาได้เลย หลังจากอาบน้ำทำความสะอาดเรียบร้อย ก่อนลงแช่ก็อย่าเพิ่งลงไปทั้งตัวแต่ค่อย ๆ ราดน้ำร้อนใส่ตัว หรือบางทีก็จะบ่อปรับอุณหภูมิให้เลย แล้วเวลาแช่ก็ค่อย ๆ ลงแช่ทีละครึ่งตัว จนสุดท้ายก็แช่ขึ้นมาจนถึงไหล่ครับ เวลาแช่ก็คือแช่จริง ๆ ไม่มีการถูตัวแบบอาบน้ำนะครับ
บางแห่งมีบ่อออนเซ็นหลายบ่อ นอกจากบ่อในอาคาร บ่อกลางแจ้งที่อาจอยู่ในที่เดียวกันแล้ว อาจมีอ่างแช่ที่ต่างกันออกไป รวมถึงห้องซาวน่า ใครชอบแบบไหน อยากลองแบบไหนก็ลองแช่ได้เลยครับ แต่ส่วนตัวแนะนำว่า “บ่อกลางแจ้ง” เป็นบ่อที่ควรลองแช่ครับ เพราะไม่มีอะไรดีไปกว่าการแช่ออนเซ็นพร้อมกับเห็นวิวที่สวยงามอีกแล้ว หลาย ๆ โรงแรมนี่บ่อกลางแจ้งถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจครับ เป็นจุดที่วิวดีทำให้เราแช่ไป ชมวิวทิวทัศน์ไปเพลิน ๆ
เมื่อแช่จนพอใจแล้ว เวลาออกจากห้องออนเซ็น หากใครรู้สึกไม่สบายตัว ก็ล้างตัวอีกรอบได้ครับ หรือบางแห่งอาจจะมีบ่อสำหรับปรับอุณหภูมิอีกรอบ กันเป็นลมเวลาออกจากห้องแช่ไปเจออุณหภูมิภายนอกที่ต่างกัน ก่อนออกก็เอาผ้าขนหนูซับน้ำให้น้ำไม่หยดเป็นทางก่อนออกไปสักนิดครับ
สำหรับเวลาการแช่ที่เหมาะสมอยู่ที่ไม่เกิน 20 นาที และไม่ควรแช่ทันทีหลังกินอาหาร หากพักโรงแรมที่มีออนเซ็น แนะนำแช่ก่อนกินข้าวเย็น หรือหลังจากกินข้าวเย็นไปสักพักครับ (บางคนแช่สองรอบก็มี หก่นหินข้าว กับรอบดึก ๆ ที่ไม่มีคน) โรงแรมทุกแห่งจะมีเวลาเปิด – ปิด บ่อที่ชัดเจนก็อย่าลืมดูเวลานะครับ และแถมอีกนิดว่าเวลาไปพักโรงแรมที่มีออนเซ็น หากมีเวลาช่วงเช้า ลองไปแช่ออนเซ็นตอนเช้าดูครับ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดี และทำให้เรารู้สึกสดชื่นพร้อมรับวันใหม่ด้วย
ผ่อนคลายหลังแช่ ให้เนียนไปกับคนญี่ปุ่น
พอออกมาจากห้องแช่ออนเซ็นแล้ว ก็ไปเปลี่ยนชุด พร้อมกับเช็ดตัวให้แห้งสนิทด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ในบริเวณห้องแต่งตัวถ้าเป็นโรงแรมโดยปกติจะมีที่นั่งหน้ากระจก พร้อมกับครีม โลชั่นต่าง ๆ ไปจนถึงที่เป่าผมไว้บริการ ก็สามารถใช้ได้เต็มที่เลยครับ
เมื่อออกมาแล้ว หลายโรงแรมก็จะมีตู้ขายน้ำ หรือตู้กดเครื่องดื่มไว้ อย่าลืมพกเหรียญมาด้วยจะได้ซื้อเครื่องดื่มได้ เพราะหลังจากแช่น้ำร้อนเสร็จการเติมน้ำในร่างกายก็สำคัญ จะเป็นนมเย็น ๆ สักขวด หรือบางแห่งอาจจะมีเบียร์เย็น ๆ สักแก้ว ดื่มปิดท้ายก็สุดจะฟิน ส่วนตัวผู้เขียนชอบนมมากกว่า เพราะชื่นใจดี และการดื่มนมเย็น ๆ หลังแช่น้ำร้อนทำให้นมอร่อยขึ้น (จนติดเป็นนิสัยประจำตัว แม้กระทั่งในประเทศไทยช่วงที่อากาศหนาว ๆ หลังอาบน้ำร้อนก็จะเอานมเย็น ๆ มาดื่ม) ในอดีตที่นิยมจะเป็นนมกาแฟ แต่ปัจจุบันมีรสชาติให้เลือกมากมาย ก็เลือกได้ตามชอบเลยครับ ถ้าไม่รีบไปไหน บริเวณนั้นอาจจะมีให้นั่งดื่ม มีเก้าอี้นวด มีโซนผ่อนคลาย ก็ค่อย ๆ นั่งพักผ่อนพร้อมจิบเครื่องดื่ม พูดคุยกับเพื่อน ๆ ไปเรื่อย ๆ ได้ครับ
อันนี้ก็เป็นการแช่ที่ลงรายละเอียดไปอีกขั้นจากที่เราเคยเขียน โดยที่ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง และอยากบอกต่อเพื่อให้การแช่ออนเซ็นของคนที่ไปเที่ยวออนเซ็นที่ญี่ปุ่นเป็นประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น และเพื่อไม่ให้เคอะเขินหรือทำสิ่งที่อาจถูกมองว่าเสียมารยาทครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่ไม่เคยแช่นะครับ เราบอกได้เลยว่าต้องลองสักครั้งจริง ๆ ครับ
ส่วนออนเซ็นแต่ละที่ก็จะมีแร่ธาตุที่ให้ประโยชน์ในเรื่องที่ต่างกันไป ก็เป็นจุดขายของออนเซ็นแต่ละแห่ง ถ้าให้ดีก็ลองศึกษาไปล่วงหน้าว่าเมืองออนเซ็นที่เราจะไปมีสรรพคุณด้านไหน หรือเมืองมีเอกลักษณ์อะไรนอกเหนือจากออนเซ็น (อาหาร ของฝาก ไปจนถึงวิธีการแช่ หรือออนเซ็นที่ไม่เหมือนใคร) เพื่อไม่ให้พลาดประสบการณ์เหล่านั้นครับ ส่วนฤดูในการแช่ออนเซ็น ส่วนตัวผู้เขียนชอบแช่ในฤดูหนาว แต่ว่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศเริ่มเย็นลง ก็ดีเช่นดัน เพราะเราจะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามไปด้วย อันนี้ต้องลองไปแช่แล้วตัดสินใจกันเองครับ ว่าตัวเองชอบแบบไหน