เมื่อวันปีใหม่มาถึงอีกครั้ง ถือว่าเป็นฤกษ์ที่ดีสำหรับการทำอะไรเพื่อตัวเอง หลาย ๆ คนใช้โอกาสนี้เพื่อเริ่มต้นใหม่บางอย่าง อยากเป็นคนที่ดีขึ้น อยากปรับหรือเปลี่ยนแปลงนิสัยบางอย่าง อยากตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ ให้ชีวิต แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้น นี่คือช่วงเวลาแห่งการทบทวนตัวเองก่อนจะก้าวต่อไปครับ มาดู 5 สิ่งที่ MenDetails อยากให้ทุกคนได้ทำ ต้อนรับปีใหม่ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองเป็นผู้ชายที่ดีขึ้นในปีนี้กันครับ
ทำ Self-Reflection เพื่อเข้าใจรากฐานและความเป็นตัวเอง
ช่วงสิ้นปีจนถึงช่วงวันขึ้นปีใหม่ หลาย ๆ คนคงจะได้เห็นการพิมพ์สรุปชีวิตทั้งปีของคนรอบข้างลงใน Social Media เต็มไปหมด ซึ่งคุณอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นที่เขียนลงไปแล้ว แต่ถ้าใครไม่ได้เขียนหรือไม่เคยเขียน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณลองทำดูครับ ทบทวนชีวิตตัวเองในปีที่ผ่านมาแล้วสรุปมันออกมาในหัวแล้วลองเขียนมันออกมา ใครที่ไม่ชอบแชร์ชีวิตตัวเองลงโซเชียลก็เขียนไว้ให้ตัวเองอ่านคนเดียวก็ได้
จริง ๆ การเขียนสรุปชีวิตตัวเองหรือการ Wrap up ออกมาเป็นสเตตัสหนึ่งสเตตัส นับว่าเป็นหนึ่งวิธีในการทำ Self-Reflection หรือการพูดคุยกับตัวเอง (Self-talk) ที่ดี ในวันที่โลกวิ่งไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลาด้วยความเร็วที่ไวขึ้นเรื่อย ๆ การหยุดเพื่อพูดคุยและฟังเสียงของตัวเองบ้างนั้นสำคัญมาก
ปีใหม่เป็นโอกาสที่ดีในการที่จะทบทวนว่าเราคิดอะไรอยู่ เรารู้สึกอย่างไร ปีที่ผ่านมานั้นมีเหตุการณ์ใดกิดขึ้นบ้าง มีเป้าหมายใดที่สำเร็จไป มีสิ่งใดที่จะยังไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจเพราะอะไร และจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ใครที่เป็นคนพูดคุยและทบทวนตัวเองอยู่บ่อย ๆ นั่นเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ถ้าหากปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ ก็ควรจะทำมันในช่วงปีใหม่นี่แหละ การพูดคุยกับตัวเองจะช่วยทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น เวลาเกิดปัญหาเรารับมืออย่างไร เวลาเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เรารู้สึกอย่างไรและแสดงออกอย่างไรไป ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีผลต่อเรื่องความฉลาดของคนเราด้วย การมีความเข้าใจในตัวเองจะช่วยพัฒนาตัวเองให้เรารับมือการสถานการณ์แบบเดียวกันหรือใกล้เคียงกันได้ดีขึ้น อะไรที่ทำแล้วสำเร็จทำแล้วดี เราจะได้ทำต่อไป หรืออะไรที่ทำแล้วผิดพลาดก็จะได้เก็บเอาไว้เป็นบทเรียนในชีวิต
ตั้ง New Year’s Resolution แบบ Checklists และวางกรอบเวลา
นี่เป็นเวลาที่หลาย ๆ คนมักใช้ทำ New Year’s Resolution หรือการตั้งปณิธานปีใหม่ ซึ่งเป็นธรรมเนียมมาจากฝั่งตะวันตกว่าเรามีเป้าหมายอะไรอยากทำให้สำเร็จภายในปีนี้บ้าง ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเรื่องการพัฒนาตัวเอง การทำให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน แต่ความขบขันที่มักมาควบคู่กัน คือ ต้นปีเรามักมีมีปณิธานปีใหม่หลายข้อ แล้วจบท้ายปีด้วยการไม่ได้ทำให้สำเร็จสักข้อนี่แหละครับ
ฉะนั้นปีนี้เราแนะนำให้ทุกคนลองตั้งปณิธานปีใหม่แบบ express ออกมา อย่าเก็บความตั้งใจเอาไว้แค่ในใจ ไม่ว่าจะเป็นเขียนลงใส่กระดาษแล้วแปะตรงผนังห้องที่มองเห็นได้ หรือจดลงใส่สมาร์ทโฟนแบบรายการ Checklists และเมื่อทำเรื่องไหนสำเร็จแล้วก็ให้ติ๊กถูกว่าทำไปแล้วก็ได้ นอกจากนั้นลองเพิ่มกำหนดระยะเวลาลงไปในแต่ละเรื่องที่ตั้งใจจะทำว่าเรื่องไหนต้องทำภายในเดือนอะไรหรือช่วงใดของปี
ซึ่งการที่เราเพิ่มเงื่อนไขของเวลา ประกอบกับมีการเช็กว่าทำเรื่องอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง จะเป็นแรงผลักดันทำให้เราอยากจะทำตามความตั้งใจที่ตั้งไว้ให้สำเร็จเร็ว ๆ กรณีเดียวกันกับการจดลิสต์งานว่าในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์ต้องทำอะไรบ้างเลยล่ะครับ เพียงแค่การจดปณิธานปีใหม่จะเป็นกรอบที่ใหญ่กว่า
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง คือ การให้ของขวัญตัวเองในรูปแบบหนึ่ง
สุขภาพที่ดี ไม่ใช่แค่ Trend ที่จะผ่านมาแล้วผ่านไป เพราะสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรมี ในวันที่อายุยังไม่แตะ 30 หรือบางคนอาจจะ 40 หลายคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากเท่าที่ควร แต่เมื่ออายุมากขึ้น เราจะได้เห็นผลลัพธ์ของการใช้งานร่างกายทั้งหมดที่ผ่านมา อย่ารอให้ถึงวันที่ต้องซ่อมแซมสุขภาพร่างกายครับ เราควรดูแลร่างกายให้อยู่ในสภาพพร้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยดูแลทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว
หนึ่งในลิสต์ที่เราอยากให้ทุกคนเพิ่มเข้าไปในโปรแกรมสิ่งที่ต้องทำประจำปี คือ ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อที่จะได้ประเมินความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในอนาคต รู้ว่าสภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างไรนั่นเอง บางทีอาจจะมีการแนะนำให้ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคเพิ่มเติมด้วย
โดยจะเลือกตรวจเป็นโปรแกรมตรวจเช็กสุขภาพพื้นฐานเบื้องต้น ที่ประกอบด้วยการตรวจระดับไขมัน น้ำตาลในเส้นเลือด เอกซเรย์ทรวงอก ปอดต่าง ๆ เพียงอย่างเดียว หรือจะเพิ่มเติมโปรแกรมตรวจเฉพาะทางในอวัยวะส่วนที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษด้วยก็ยิ่งดี เช่น ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ตรวจสายตา ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น
ส่วนเรื่องของอาหารการกิน แม้จะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนรู้ แต่เราก็อยากย้ำเตือนอีกครั้งว่าการควบคุมปริมาณอาหารและเลือกกินของมีประโยชน์นั้นสำคัญจริง ๆ สำหรับอาหารพวกของทอด ของมัน ของหวาน อาหารทะเล (ยกเว้นปลา) ควรกินให้พอเหมาะ อย่าเยอะเกินไป และเลือกกินพืชผักผลไม้ปลาให้มากขึ้น
พฤติกรรมที่ทำแล้วส่งผลต่อเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา ใช้สายตาหนัก ทำงานในที่มืด นั่งนานไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่หนัก ไปจนกระทั่งเครียดเยอะจนส่งผลต่อสุขภาพจิต ใครที่รู้ตัวว่ากำลังทำพฤติกรรมใดที่ส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะยาวก็ถึงเวลาที่จะต้องใจแข็งกับตัวเอง ยอมปรับเปลี่ยนบ้างแล้ว
อย่าลืมเรื่องการวางแผนทางการเงิน
เริ่มต้นปีใหม่ ควรมาพร้อมการวางแผนทางการเงินที่แข็งแรงขึ้นครับ ใครที่ยังไม่เคยวางแผนมาก่อน จะเริ่มตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป ส่วนใครที่ดูแลและวางแผนการเงินอยู่สม่ำเสมอแล้วก็ถือว่าเป็นโอกาสในการตั้งเป้าเก็บเงินหรือดูเรื่องการลงทุนใหม่ ๆ
ซึ่งเราควรเริ่มจากเช็กสถานะทางการเงินของตัวเองในปีที่ผ่านมาก่อน ณ ปัจจุบัน เรามีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่ มีหนี้สินอยู่เท่าไหร่ รายรับต่อเดือนเท่าไหร่และมีรายรับกี่ช่องทาง รายจ่ายต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ เราต้องรู้ข้อมูลทั้งหมดเพื่อที่จะได้ทราบสภาพคล่องทางการเงินของตัวเอง ก่อนที่จะวางแผนทางการเงินในขั้นต่อไป
การวางแผนทางการเงินพื้นฐาน อ้างอิงจาก Financial Planning Pyramid จะเริ่มจากให้เราบริหารรายรับและรายจ่าย (Cash Flow Management) เสียก่อน อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าควรรู้ว่ารายรับต่อเดือนได้เท่าไหร่ จากช่องทางไหนและรู้ว่ารายจ่าย Fixed ต่อเดือนเท่าไหร่ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าผ่อนของต่าง ๆ หลังจากนั้นค่อยไปสู่การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) คือ ขั้นตอนในการลดความเสี่ยงหรือลดอุปสรรคที่อาจเข้ามาขัดขวางไปให้เราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ เช่น ทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เก็บเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน เวลาตกงาน ลาออกหรือบริษัทเกิดล้มกระทันหันเราก็จะมีเงินก้อนนี้เอาไว้ใช้อยู่
ถัดมาเป็นปิรามิดขั้นเก็บออมและลงทุน (Saving and Investment) ซึ่งนี่น่าจะเป็นขั้นที่ต้องโฟกัสมากเป็นพิเศษ เริ่มจากตั้งเป้าหมายในการออมว่าเราออมเพื่ออะไร เช่น ออมเพื่อไปซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ แต่งงาน ท่องเที่ยว เรียนต่อ แล้วค่อยกำหนดระยะเวลาในการออมว่าเป็นการออมระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาวแล้วค่อยเริ่มออมเงิน ส่วนในด้านของการลงทุนก็ดูว่าเราเอาเงินที่มีไปลงทุนกับอะไรได้บ้าง จะเป็นพันธบัตร กองทุน หุ้น คริปโต อสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนทำธุรกิจต่าง ๆ ก็ได้ทั้งนั้น เพราะการออมเงินอย่างเดียว ไม่ใช่หนทางในการสร้างรายได้ให้กับเราครับ
และขั้นสุดท้ายของปิรามิดวางแผนการเงิน คือ การส่งต่อความมั่งคั่ง (Wealth Distribution) เป็นขั้นตอนของการส่งมอบความมั่งคั่งของเราไปสู่ทายาท รุ่นลูกรุ่นหลาน ด้วยการวางแผนมรดก ซึ่งในส่วนนี้ก็อาจจะเป็นประเด็นที่ต้องมาใส่ใจกันอีกครั้งในวันที่อายุถึงวัยมีลูกมีครอบครัวแล้ว
เคลียร์ของเก่าทิ้งและจัดระเบียบให้เรียบร้อย
เริ่มต้นปีใหม่ก็ต้องทิ้งของเก่า ๆ ไปบ้าง แต่ ‘ของ’ ในที่นี้ ไม่ใช่เพียงแค่ของเก่าที่ถูกลืมทิ้งเอาไว้ในห้องนอนหรือบ้านเพียงอย่างเดียว นอกจากการจัดห้องนอน และทำความสะอาดบ้านแล้ว ของที่เราอยากให้ทุกคนจัดการยังรวมไปถึงข้อมูลดิจิทัลประเภทต่าง ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอีเมลล์ที่ค้างเอาไว้ใน Inbox, แชท Line ที่ยังไม่ได้กดเข้าไปอ่านหรือ Notification จากแอปที่ปล่อยแจ้งเตือนค้างเอาไว้ ไปจนถึงไฟล์รูปหรือข้อมูลในเครื่องที่ใช้งานไปแล้วอย่าง สลิปโอนเงิน รูป Capture ต่าง ๆ
ส่วนในเรื่องของการทำความสะอาดห้องนอน รวมถึงทำความสะอาดบ้านก็เป็นโอกาสอันดีที่จะตรวจสอบว่าเรามีของหมดอายุอะไรที่ยังเก็บไว้หรือไม่ อย่างเช่น สกินแคร์ อาหารกระป๋อง สิ่งของที่มีอายุเป็นปี ๆ แล้วเรามักจะลืมเช็กว่าใช้ได้จนถึงเมื่อไหร่ ควรจะเช็กเพื่อแยกของที่ยังใช้ได้กับหมดอายุออกจากกัน ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาจัดระเบียบห้องก็ใช้โอกาสนี้ในการจัดห้องเสียใหม่ หากเลิกนิสัยเสียดายของ กล้าที่จะทิ้งของที่ไม่ได้ใช้งานและไม่มีประโยชน์ด้านใดกับตัวเองแล้ว รับรองว่าจะได้พื้นที่ในห้องและในบ้านกลับมามากขึ้นอย่างแน่นอน
หากนำทั้ง 5 ข้อนี้ไปปฏิบัติตัวเพื่อ ต้อนรับปีใหม่ ใช้เวลาเพื่อทบทวนเรื่องที่ผ่านมาอย่างดี รับรองว่าจะเป็นการเริ่มต้นปีที่พร้อมมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ เรื่องไหนที่ทำดีอยู่แล้วก็ลุยต่อไป ส่วนเรื่องไหนที่พลาดไปแล้วก็เก็บไว้เป็นบทเรียนและเริ่มต้นใหม่ MenDetails หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของทุก ๆ คน