แฟชั่น เป็นเรื่องของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ได้รับความนิยมในสมัยหรือช่วงเวลาหนึ่ง บางครั้งเป็นเรื่องของ Trend ที่มาไวไปไว ผู้คนเคยเสพแฟชั่นด้วยความรู้สึกว่าต้องการของใหม่ตลอดเวลา แต่เมื่อมาถึงยุคปัจจุบัน หากมองกลับไปยังกระบวนการผลิตเสื้อผ้าที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาลแล้ว คนยุคใหม่ได้ตระหนักมากขึ้นว่าเราควรใช้งานเสื้อผ้าที่ถูกผลิตออกมาให้คุ้มค่าที่สุด แฟชั่นกับความยั่งยืนจึงกลายเป็นเทรนด์ที่ทั้งแบรนด์และผู้บริโภคให้ความใส่ใจ วันนี้ MenDetails จะมาพูดคุยถึงวิธีการผลิต ยีนส์รักษ์โลก เนื่องจากยีนส์คงเป็นไอเท็มสำคัญที่ผู้ชายทุกคนมีติดตู้เสื้อผ้า หากลองปรับเปลี่ยนขั้นตอนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้ นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งหนทางในการพัฒนาด้านความยั่งยืน ละช่วยให้โลกของเราดีขึ้น
Sustainable Fashion แฟชั่นกับความยั่งยืนที่ไปด้วยกันได้
อุตสาหกรรมแฟชั่นถือเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบนานัปการต่อโลก เช่น ปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณสูง มีการใช้น้ำสะอาดปริมาณมากในกระบวนการผลิตรวมถึงก่อให้เกิดน้ำเสีย มีการใช้เคมีในการผลิต ทั้งยังสร้างขยะจำนวนมหาศาล เกิด Waste จากแฟชั่นทั่วโลก และวันหนึ่งที่สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าจริง ๆ ผู้คนจึงตระหนักว่าต้องร่วมมือกันชะลอการก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงฟื้นฟูธรรมชาติเท่าที่ตัวเองจะมีส่วนช่วยได้
เทรนด์ผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงไป คุณค่าของแฟชั่นไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามหรือต้องหรูหราราคาแพงเพียงมิติเดียว เพราะผู้คนมองไปยังวิธีการได้มาของสิ่งของชิ้นนั้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ในแง่ขั้นตอนการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมขนาดไหน มีการใช้แรงงานคนเป็นแรงงานอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ ให้ค่าตอบแทนอย่างสมเหตุผลไหม ผู้ผลิตมีการกดขี่หรือเอาเปรียบแรงงานหรือเปล่า ไปจนกระทั่งแบรนด์ได้แสดงจุดยืนหรือปรับเปลี่ยนอะไรเพื่อโลกและสิ่งแวดล้อมบ้างหรือยัง เหล่านี้แหละครับที่ทำให้เกิดเทรนด์ Sustainable Fashion ขึ้นมา
การปรับตัวที่แบรนด์เสื้อผ้าและอุตสาหกรรมแฟชั่นสามารถทำได้ เช่น ปรับวิธีการผลิต นำวัตถุดิบที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้ง เลือกใช้วัสดุ Organic ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ไม่สนับสนุนผ้าที่มาจากการเอาเปรียบแรงงานท้องถิ่น เป็นต้น ส่วนในฐานะผู้บริโภคก็สามารถซื้อแล้วใช้งานอย่างคุ้มค่าขึ้นได้โดยการหยิบกลับมาใส่ซ้ำ หยิบไป mix and match ให้ได้ลุคใหม่ ๆ หรืออาจนำไปตัดเย็บเพิ่มเติม เรียกว่าเป็นการต่ออายุการใช้งานเสื้อผ้าของตัวเอง ถือเป็นอีกหนทางที่จะช่วยลดการซื้อเสื้อผ้าบ่อย ๆ ลงได้
ลดการใช้น้ำสะอาดและสารเคมีในการฟอกยีนส์
กางเกงยีนส์ เป็นไอเท็มที่ผู้ชายทุกคนต้องมีติดตู้เสื้อผ้าในทุก ๆ บ้านอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันเราสามารถเลือกซื้อยีนส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้ไม่ยากแล้ว เพราะหลาย ๆ แบรนด์ต่างพยายามปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตในหลายขั้นตอน โดยสามารถเริ่มได้ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบตั้งต้นอย่างใช้เส้นใยธรรมชาติ เมื่อเลือกด้ายที่จะใช้เป็น material ได้แล้วก็ไปสู่ขั้นตอนทอผ้าให้ได้ Denim ออกมาเป็นผืน จากนั้นก็ตัดเย็บตามแพทเทิร์นที่วางเอาไว้เสร็จ ติดป้ายหนัง หมุด กระดุมต่าง ๆ แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ ขั้นตอนการฟอกสี
ซึ่งขั้นตอนในการฟอกสียีนส์ เป็นขั้นตอนหนึ่งที่มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา หรืออาจเป็นการเปลี่ยนองค์ประกอบบางอย่างที่ใช้ในการฟอกแทน เดิมทีการฟอกสียีนส์นั้นต้องใช้การซักยีนส์ซ้ำ ๆ หลายครั้ง และใช้น้ำสะอาดในปริมาณมากสำหรับขั้นตอนนี้ แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้เป็นฟอกด้วยเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ฟองอากาศเล็กระดับ Nano แทน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำในการฟอกจากเดิมได้สูงสุดถึง 90% เลยทีเดียว โดยการลดการใช้ปริมาณน้ำสะอาดนี้ยังเป็นการลดการสร้างน้ำเสียที่จะส่งผลต่อมลภาวะทางน้ำอีกต่อหนึ่งด้วย
ปกติแล้วการผลิตเสื้อผ้าทั่วไป จะใช้น้ำสะอาด ปริมาณตั้งแต่ 3,000 – 10,000 ลิตร เพื่อจะผลิตผ้าฝ้าย 1 กิโล ถ้าผู้ผลิตสามารถปรับตัวตรงขั้นตอนการผลิตส่วนนี้ได้ก็จะลดโอกาสสร้างน้ำเสียไปได้มากทีเดียว นอกจากวิธีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องฟอกอากาศแทนฟอกสีด้วยน้ำปริมาณมาก สถานผลิตบางแห่งก็อาจปรับตัวโดยใช้น้ำหมุนเวียนในการผลิต โดยนำน้ำที่เคยใช้ฟอกยีนส์แล้วกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้งหนึ่งได้เช่นกัน
เฟดยีนส์ ขึ้นริ้วทำลวดลายด้วยการใช้เครื่อง Laser
หนึ่งในเสน่ห์สุดคลาสสิกของกางเกงยีนส์ คือ การเฟดยีนส์ เพราะมันทำให้ยีนส์แต่ละตัวมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป โดยการเฟดเป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นได้ทั้งจากขั้นตอนการผลิตและการสวมใส่ รอยพับ รอยยับ รอยย่นที่ทำให้สีย้อม (Indigo) หลุดออกไปเป็นสีที่ซีดลง ซึ่งขั้นตอนหลังจากการฟอกสี คือ ขั้นของการขัดยีนส์ ขึ้นริ้ว ทำลวดลาย รอยขาดต่าง ๆ ลงบนกางเกงยีนส์นี่ล่ะครับ
เดิมที ขั้นตอนนี้จะใช้แรงงานคนในการผลิต ต้องทำไปทีละตัวเลยจะได้รายละเอียดที่ไม่เหมือนกันโดยใช้กระดาษทรายขัดเพื่อให้สีของยีนส์ซีดลงจนได้สีและรอยที่สมบูรณ์แบบ และยังมีการนำยีนส์แต่ละตัวไปจุ่มในสารเคมีอีกด้วย แต่ถ้าหันมาใช้เครื่อง Laser ในการยิงลวดลาย ขึ้นริ้วต่าง ๆ แทน ก็จะช่วยลดทั้งเวลาในการผลิตรวมถึงลดแรงงานคนไปพร้อม ๆ กัน สำหรับการใช้เครื่อง Laser ในการเฟดยีนส์ จะต้องมีการใส่แพทเทิร์นเข้าไปก่อนใช้เครื่องยิง ต้องการให้มีรอยยับตรงส่วนไหน มีรอยย่นกี่จุด อยากให้มีรอยขาดไหมก็สามารถออกแบบแล้วใส่ลงไปในเครื่องได้เลย
ข้อดีของการใช้เทคโนโลยีนี้ คือ เราเซ็ต Pattern ที่เราต้องการให้สียีนส์มันเฟดออกมาเป๊ะ ๆ เหมือนกันทุกตัวได้ แต่สำหรับใครที่ต้องการยีนส์ที่มีความเป็น Original ไม่ซ้ำแบบใครตั้งแต่แรกที่ผลิตมาก็อาจจะต้องใช้เวลาในการสวมใส่มันนานหน่อย เพราะจะต่างกับยีนส์ Handcrafted ที่มีการเฟดยีนส์ การขึ้นริ้ว สร้างรอยยับ รอยย่นที่เป็น Signature เฉพาะตัวมาตั้งแต่ต้นแล้ว
เลือกยีนส์ที่ผลิตด้วยผ้า Recycled ก็เป็น ยีนส์รักษ์โลก อีกทางหนึ่ง
อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่า การเลือก Material ในการผลิตยีนส์นั้นก็มีส่วนช่วยโลกแฟชั่นยั่งยืนได้ อาจเลือกวัตถุดิบที่เป็น Organic ทั้งหมด หรือเลือกแบบผสมระหว่างผ้า Cotton และ Organic ในปริมาณที่ผู้ผลิตมองว่าเป็นสัดส่วนที่ทำให้ได้ผ้าออกมาพอดี ไปจนถึงการใช้วัตถุดิบ Recycled นำของเก่านำกลับมาผลิตใหม่อีกครั้งก็ทำได้เช่นกัน
หากพูดถึงแบรนด์กางเกงยีนส์ในไทยนั้นก็เริ่มมีการผลิต ยีนส์รักษ์โลก ขึ้นมาบ้างแล้ว สำหรับโปรเจคที่ทาง MenDetails มองว่าน่าสนใจ คือ Selvedgework for CIRCULAR เป็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์กางเกงยีนส์พรีเมียม Selvedgework กับ Circular แบรนด์เสื้อผ้าที่นำของเสียจากอุตสาหกรรมสิ่งทอมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต
โปรเจคนี้ทาง Circular จะนำเศษยีนส์เหลือทิ้งจากการผลิตยีนส์ในคอลเลกชั่นเก่า ๆ ของ Selvedgework กลับมารีไซเคิลเป็นผ้าใหม่โดยไม่ผ่านกระบวนการฟอกย้อม ซึ่งได้ผลผลิตออกมาเป็นยีนส์ทรงสลิมเอวสูง ออกแบบมาช่วยให้ช่วงขาของผู้ชายดูยาวขึ้น สีของกางเกงยีนส์จากผ้ารีไซเคิลจะออกแนวฟ้าเทาอ่อน ๆ เป็นยีนส์สีซีด ซึ่งมี Detail ของจุดสีบนกางเกงแต่ละตัวไม่เหมือนกัน เพราะมันถูกทอขึ้นมาจากเศษยีนส์นับไม่ถ้วน เรียกว่าจุดสีและรายละเอียดเล็ก ๆ ที่แตกต่างกันไปนั้นเองทำให้กางเกงยีนส์รีไซเคิลรุ่นนี้น่าสนใจ และนี่เป็นอีกหนึ่งวิธีในการปรับเปลี่ยนการบวนการทางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะเกิดการนำ Waste ในอุตสาหกรรมมาใช้งานต่อนั่นเองครับ
นี่เป็นหลากหลายวิธีที่ผู้ผลิตต่างปรับตัวเพื่อผลิต ยีนรักษ์โลก ออกมาสู่ตลาด เมื่ออุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอนั้นส่งผลต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาก เรายิ่งต้องใช้งานผลผลิตของมันอย่างคุ้มค่า และสำหรับใครที่สนใจซื้อเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เราแนะนำให้ลองมองหาสัญลักษณ์ Global Organic Textile Standard (GOTS) ก่อนซื้อครับ หากโปรดักส์ชิ้นนั้นผลิตมาจากวัตถุดิบ Organic จริง ๆ ควรจะมีสัญลักษณ์นี้มารองรับ