ท่ามกลางห้องเสื้อสูทมากมายในใจกลางกรุงลอนดอน อย่างเช่น Huntsman, Henry Poole & Co, Richard James และอีกมากมายซึ่งเป็นย่านแห่ง Tailoring หรือการตัดชุดโดยเฉพาะในเมืองแห่งนี้ ยังมีแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบ น่าเชื่อถือทั้งในคุณภาพและชื่อเสียงอย่าง Anderson & Sheppard ซึ่งถือเป็น Second Generation of Savile Row Fashion House ที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานโชกโชน และยังคงได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้ บทความนี้ MenDetails จะพาทุกท่านมาเจาะลึกกับหนึ่งในสุดยอดห้องเสื้อสูทสั่งตัด แบรนด์ Anderson & Sheppard แบรนด์ที่มีดีกรีเป็น Royal Warrant กันครับ
แบรนด์ Anderson & Sheppard ห้องเสื้อกลางกรุงลอนดอน ที่กำเนิดในศตวรรษที่ 20 จากชาวดัตช์และสวีดิชสองคน
Soft Drape อาจจะเป็นคำที่คุ้นหูทั่วไปในหมู่ช่างตัดสูท แต่แท้ที่จริงแล้ว คำนี้เกิดจากสองช่างตัดเสื้อผู้ก่อตั้งของแบรนด์แอนเดอร์สัน แอนด์ เชพพาร์ด Frederick Scholte ชาว Dutch และปรมาจารย์ชาวสวีดิชอีกท่านชื่อ Gustav Anderson ทั้งสองได้ร่วมก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมา อีกทั้งยังมีการปฏิวัติวงการสูทอังกฤษที่สำคัญอีกอย่าง นั่นคือ การปรับแก้สัดส่วนจากสูทในสมัย Victorian ซึ่งมีความใหญ่และโคร่งกว่า เผื่อผ้าเหลือตามส่วนต่าง ๆ ที่เรียกว่า Drape มากกว่าให้มีความเข้ารูปสวยงามมากยึ่งขึ้น ซึ่งถูกต่อต้านอย่างหนักในช่วงแรก แต่แล้วสิ่งนี้ก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสูทแบบอังกฤษในยุคถัดมาที่เรียกว่า London Cut หรือ English Drape นั่นเอง
ท่ามกลางการต่อต้านและวิธีการตัดเย็บในรูปแบบใหม่ เป็นสิ่งที่ท้าทายทั้งสองคนมากในช่วงเวลาเริ่มต้น แต่แล้วภายใต้คำแนะนำของ Scholte บวกกับประสบการณ์จากที่อื่นอย่างโชกโชนของเขา ทำให้ร่วมงานกับ Anderson จนพาแบรนด์ให้ขึ้นมาเป็นที่รู้จักได้ในระยะเวลาต่อมา และจนไปถึงความนิยมในจุดสูงสุดเมื่อ Prince of Wales ซึ่งเป็นเพื่อนของ Scholte จากการที่เขาเคยพบกันเมื่อครั้ง Scholte อยู่ห้องเสื้อแห่งอื่นนั้น ได้มาตัดสูทที่ร้าน Anderson & Sheppard ทำให้ร้านเริ่มค่อย ๆ เป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ชนชั้นสูงและราชวงศ์ครับ
ขนบใหม่แห่งสูท Savile Row กับการขยายร้าน และชื่อ Sheppard
เมื่อร้านเดิมนั้นต้องต้อนรับลูกค้ามากขึ้น จากการนำเสนอสูที่มีดีไซน์ไม่เหมือนสูทในช่วยยุคเดียวกันสักเท่าใดนัก ร้านจึงได้มีโอกาสรับ Tailor อีกหนึ่งท่านที่มาช่วยเติมเต็มและเก็บรายละเอียดในเรื่องของคุณภาพการตัดเย็บให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก Sydney Horatio Sheppard ได้เข้ามามีบทบาทโดยเฉพาะกับทรงกางเกงที่เขาเชี่ยวชาญและมีรูปแบบเป็นของตนเองได้อย่างดี จนถึงขั้นทำให้ Frederick Scholte วางใจ และได้มาเป็นชื่อของ Anderson & Sheppard จากช่างตัดเย็บระดับตำนานทั้งสองคนในที่สุด
ในแวดวงคนดังและเหล่าศิลปินทั้งหลายในยุคช่วงปี 1930-1960 นั้น สูทดูจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และต่างคนก็สวมใส่สูทสั่งตัดที่ดูดีเพื่อให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุด Anderson & Sheppard จึงได้มีโอกาสให้บริการแก่เหล่าคนดังมากมาย เช่น Charlie Chaplin, Gary Cooper, Laurence Olivier, George Gershwin และอีกหลากหลายคน จนไปถึงเชื้อพระวงศ์อีกมากมาย นั่นทำให้เป็นที่ยอมรับว่าสไตล์ Modern Edwardian Suit ที่มีความเป็น English Soft Drape เข้ารูปมากกว่าเดิมนั้นเป็นแนวคิดที่ถูกต้องสำหรับการใส่สูทที่ดูสง่างาม และมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างสูงสุด ซึ่งแบรนด์ก็ได้รักษาระดับมาตรฐานและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์นี้มาอย่างยาวนานนั่นเองครับ
ร้านปัจจุบันบนถนน Old Burlington Street
ในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน ร้านได้มาตั้งอยู่ ณ ที่แห่งใหม่ นั่นคือ ถนน Old Burlington Street ซึ่งอยู่ในละแวกเดิมนั่นเอง ห่างจากที่ตั้งเติมไม่ถึง 200 หลา โดยตัวร้านได้มีการปรับบริเวณรางรับใหม่ให้มีความใหญ่โตขึ้น นอกจากนั้นเพื่อให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ร้านได้เปิดให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการได้เห็นในพื้นที่ส่วนที่เป็น Cutting Room ได้อีกด้วย และจะเป็นที่ ๆ เราได้เห็นว่าสไตล์ที่ถ่ายทอดบทสูททุกชุดกับความคิดแบบ English Soft Drape นั้นมีความหมายและความโดดเด่นอย่างไรกับการทำงานของ แบรนด์ Anderson and Sheppard
ในปี 2011 ร้านมีโอกาสสูงสุดในการได้รับรางวัล Royal Warrant จากเจ้าฟ้าชายชาลส์ (Charles, Prince of Wales) อันเป็นรางวัลที่แสดงถึงการมีประวัติศาสตร์ร่วมกับราชวงศ์มาอย่างยาวนาน เนื่องจากถือเป็นผลงานที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่พอพระทัยของสมาชิกราชวงศ์จึงสมควรได้รับตรานี้ และนั่นก็สมกับความเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเองและสร้างสรรค์ผลงานด้านการตัดเย็บชุดสูทตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีจากแบรนด์ Anderson & Sheppard ครับ
จะเห็นได้ว่า แม้ในสไตล์ความเป็น English Tailoring เองก็ยังมีความแตกต่างกันในส่วนของรายละเอียดในแต่ละห้องเสื้อที่พัฒนาออกมาเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และแบรนด์ Anderson and Sheppard เองก็ได้มุ่งมั่น พัฒนา และเชื่อในเส้นทางกับประสบการณ์ที่ยาวนาน ทำให้ยังคงเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ Classic Menswear และ Sartorialist มาจนถึงปัจจุบันครับ