บางครั้ง “การเดินทางออกไปนั่งดื่มเครื่องดื่มดีๆ” อาจช่วยให้ความคิดของคุณโลดแล่น และสร้างพลังบวกให้กับชีวิตได้ไม่ยากครับ และนี่คือ 4 ร้าน Cafe & Restaurent ที่เราอยากแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกัน กับ 4 สไตล์ที่ลงตัว ตั้งแต่เช้าจรดเย็น จะไปคนเดียวหรือไปกับคนรู้ใจก็ได้หมด แต่อย่าลืมติดแว่น ROAV Eyewear (อ่านบทความเกี่ยวกับแว่นเพิ่มเติมได้ที่นี่) ที่ขึ้นชื่อว่าบางและน้ำหนักเบาที่สุดในโลก ติดตัวไปด้วยนะครับ ว่าแล้วก็เลื่อนตามไปดูกันได้เลยครับว่า 4 ร้านที่ว่านั้น เราเลือกร้านใดกันมาบ้าง (เห็นแล้วจะอยากไปแน่ๆ เรามั่นใจ)
เช้า – เริ่มต้นด้วยกาแฟดีๆ ที่ Roots Coffee
-บรรยากาศที่ร้าน เหมือนหลุดไปอยู่แถวชานเมืองเลยทีเดียว-
ร้านนี้มีลักษณะเด่นคือ การเลือกคัดเฉพาะเมล็คกาแฟคุณภาพและใช้กาแฟจากภาคเหนือของบ้านเราอย่าง เชียงใหม่ (จากไร่คุณหน่อยคุณอ้อย ที่ อ.ดอยสะเก็ด) หรือจากเชียงราย (คุณสมจิตต์เกษตรกรจากบ้านขุนลาว) เพราะทางร้านเชื่อว่า กาแฟบ้านเราก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน
บรรยากาศเหมาะแก่การเริ่มต้นวันเป็นอย่างยิ่งครับ ด้วยการแต่งร้านที่เปิดโล่ง เป็นกระจกเกือบทุกด้าน ทำให้ได้แสงธรรมชาติ สร้างความสดชื่น ภายในตกแต่งด้วยไม้เป็นวัสดุหลัก
-มาทานกาแฟยามเช้าแบบนี้ อย่าลืมติดแว่นกันแดดที่บางและเบาที่สุดในโลกอย่าง ROAV มาด้วยนะ-
มานั่งจิบกาแฟดีๆ นั่งกินบรรยากาศที่หาแบบนี้ได้ยากใจกลางสาทร บอกเลยว่า Roots Coffee น่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของคนรักกาแฟได้ไม่ยากเลยจริงๆ ส่วนเรื่องการเดินทางนั้นสะดวกมากครับ สามารถใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีสุรศักดิ์ ออกทางออก 4 ก็จะเจอร้านตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงาน Bhiraj Sathorn ครับ
ROAV Says : เป็นสถานที่นัดคุยงาน หรือจิบกาแฟยามเช้าที่เหมาะมากทั้งบรรยากาศและรสชาติของกาแฟ แต่ถ้าคุณไม่ชอบทานกาแฟ ทางร้านก็มีตัวเลือกอื่นอย่าง Cherry – Cola Float ให้ลองเช่นเดียวกัน ขากลับก็หยิบ ROAV มาใส่หล่อๆ กลับได้ง่ายๆ จากช่องใส่เหรียญในกางเกงยีนส์ได้เลย
สาย – ไปลองช็อคโกแลตฝีมือคนไทยที่ Kad Kokoa
สำหรับใครที่ไม่ได้รักกาแฟเป็นทุนเดิม แต่ชื่นชอบของหวานอย่าง Chocolate เราขอแนะนำร้านนี้เลยครับ Kad Kokoa เนื่องจากที่ร้านนี้หยิบเอาผลิตผลในประเทศมาเป็นวัตถุดิบหลักครับ ด้วยโกโก้ที่ปลูกกันเองในประเทศไทยตามแหล่งต่างๆ ซึ่งแต่ละแหล่งที่มาก็จะมีรสชาติไม่เหมือนกัน เช่นอมเปรี้ยวเล็กน้อย หรือออกขมนำ มีความแตกต่างจากรสโกโก้ที่เราเคยทานมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แน่นอน ถือเป็นอีกร้านที่เราอยากแนะนำให้ลองมานั่งทาน Chocolate ฝีมือคนไทยแท้กันดู
-เดินทางด้วย BRT มาที่นี่ อย่าลืมติดแว่นกันแดดดีๆ มาด้วยนะครับ-
บางส่วนของตัวร้านนั้น มีพื้นที่สำหรับการหมัก / ตาก / ปั่นเมล็ดโกโก้ด้วย มั่นใจได้เรื่องความสดใหม่ของที่นี่ครับ ซึ่งท่านสามารถเดินดูรอบๆ ได้ หรือจะซื้อ Chocolate Bar กลับบ้านก็ได้เช่นเดียวกัน
-ของหวานในรูปมีชื่อว่า Kad Meringue ครับ แนะนำให้สั่งมาลองเลย-
ส่วนตัวเราชอบความแปลกและรสที่ Complex หลังจากลองทานครับ โดยแต่ละวันอาจมีการเปลี่ยนแปลงตัว Chocolate ที่นำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งรสก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามแหล่งที่ปลูกต้นโกโก้นั่นเองครับ แต่เมนูที่เราชื่นชอบที่สุดต้องยกให้เมนูของหวานเลย ขนาดเราไม่ใช่คนชอบของหวานเป็นทุนเดิม แต่ที่นี่ทำออกมาได้อย่างลงตัวมากจริงๆ
ROAV Says : หากมาด้วยรถสาธารณะอาจต้องเดินไกลสักหน่อย อย่าลืมใส่ติดแว่นเบาๆ มาด้วยอย่าง ROAV นะครับ ซึ่งตัวร้านนั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายโกโก้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชอบทานรสชาติที่ลุ่มลึก ซึ่งถือเป็น Culture ใหม่ที่โด่งดังไม่แพ้คอกาแฟในต่างประเทศ แนะนำให้ลองมาทานกันดู
บ่าย : ทานขนมปังสไตล์ Austria ที่ Landhuas
ร้านขนมปังในกรุงเทพฯ นั้นมีให้เลือกเยอะแยะมากมายครับ แต่ร้านที่หยิบกลิ่นไอจากฝั่งยุโรปแท้ๆ และไม่ได้ผลิตเป็นแบบ Commercial มากนักอาจมีไม่มาก หนึ่งในตัวเลือกแรกๆ ที่เราอยากแนะนำเลยก็คือร้าน Landhuas ครับ โดยคำว่า Landhuas นั้นเป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า “บ้านเล็กๆ ในชนบท” ซึ่งทางเจ้าของต้องการให้ตัวร้านเป็นแนวมานั่งบ้านเพื่อน พูดคุยกันแล้วทานขนมปังไปด้วย
บรรยากาศอบอุ่นด้วยบ้านเก่าที่นำมาปรับปรุงใหม่ ตกแต่งด้วยไม้เป็นวัสดุหลักตั้งแต่โต๊ะ / เก้าอี้ ไปจนถึงชั้นวางขนมปัง จุดเด่นของร้านนี้ก็คือ ตัวขนมปังจะอบใหม่ทุกวันและใช้สูตรจาก Austria ในการทำขนมปังเป็นหลัก
-ร้านเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า และครัวปิดช่วง 4 โมงเย็นครับ-
มาถึงที่นี่ อย่าลืมลองทานขนมปัง Rye ดูนะครับ เพราะถือเป็น Signature ที่ชาวยุโรปชื่นชอบ โดยรสจะออกเปรี้ยวนิดๆ เนื้อแน่น คาดว่าใช้ผงฟูน้อยกว่าร้านทั่วๆ ไปครับ สำหรับสายขนมปังยามบ่าย เพราะนั่งคุยกันในบรรยกาศแสนเป็นกันเอง เราว่าที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอนกับ Landhuas โดยร้านจะตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ติดกับโรงเรียนสวนบัว เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ได้ ลงสถานีอารีย์แล้วเดินมาราว 200 เมตรครับ
ROAV Says : ร้านนี้มีจุดเด่นที่ขนมปังที่ได้หุ้นส่วนจากร้าน Gragger & Cie อันแสนโด่งดังจาก Austria มาเป็นคนวางรากฐานสูตรการอบขนมปังแบบเฉพาะ จึงถือเป็นร้านขนมปังที่พิเศษกว่าเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาดแน่นอน ส่วนแว่นก็พิเศษไม่แพ้กัน “พับแล้วเล็กที่สุดในโลก” ไปเลย
ค่ำ : เพิ่มสีสันด้วยเครื่องดื่มแสบๆ ที่ Feeling Bar
เลิกงานแล้วต้องจบด้วยเครื่องดื่มแสบๆ อย่างเช่น “ช้ำแล้วไง” ที่ร้าน Feeling Bar กัน ร้านตั้งอยู่ที่อารีย์ซอย 4 ฝั่งเหนือครับ เดินทางไม่ยาก แต่ที่ร้านไม่มีที่จอดรถนะ แนะนำมาด้วยรถไฟฟ้าจะสะดวกสุด จุดเดินคือไฟนีออนดัดนี่แหละ และเมนูชื่อแสบๆ ที่มีส่วนผสมของ Sangsom (Gold Rum) เป็นจุดแสบๆ ที่อาจเมาไม่รู้ตัว
ร้านเล็กๆ ที่เน้นสีสันจากไฟ LED สีต่างๆ เน้นหนักไปที่สีชมพู พร้อม Concept การปรับโทนแต่ละค่ำคืนด้วยวงดนตรีที่ไม่เหมือนกันเช่น วันอังคาร : Feeling Relaxed เน้นเพลงสบายๆ สไตล์ Acoustic / วันพุธ : Feeling Missed มาในเพลงยุค 90s Pop – Rock จังหวะดีๆ เป็นต้น
“How Are You Feeling Tonight?” คือป้ายคำถามหน้าร้านครับ ซึ่งเราก็คาดว่า หลังจากคุณได้มาลองทานเครื่องดื่มแสบๆ ที่นี่แล้ว คุณจะรู้สึกดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอน ถือเป็นการปิดท้ายวันเหนื่อยๆ ได้เป็นอย่างดี สูดบรรยากาศยุค 80s ให้เต็มปอด แล้วกลับไปลุยงานในวันรุ่งขึ้นกันครับ
ROAV Says : How Are You Feeling Tonight? เป็นคำถามที่น่าสนใจครับ คุณอาจทำงานอยู่หน้าจอจนเหนื่อยและล้า ติดแว่น ROAV Vision ไว้สักตัวที่ทั้งเล็กและกันแสงสีฟ้าได้ในตัว แล้วพาตัวเองมาที่ Feeling Bar ได้เลย ซึ่งที่นี่น่าจะช่วยเติมพลังให้คุณได้ไม่มากก็น้อย แต่ย้ำกันว่า “เมาแล้วอย่าขับ” เรียกใช้บริการโดยสารสาธารณะจะดีที่สุด
4 ร้าน Cafe & Restaurant ที่เราชาว MenDetails ร่วมกับ ROAV Eyewear Thailand หยิบมาฝากทุกท่านตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เชื่อว่าหลายท่านต้องอยากตามไปลองแน่นอน และถ้าร้านไหนต้องเดินทางไปช่วงกลางวันที่แดดจัดๆ อย่าลืมติดแว่นกันแดด ROAV ไปด้วยนะครับ เพราะสามารถพับได้เล็กจนใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตด้านหน้าได้สบายๆ หรือจะใส่แว่นสายตาที่มี Blue Light Cut มาให้ในตัวในวันทำงานก็ได้เช่นกัน