เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ครับกับ Samsung Galaxy S10 และ S10+ ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวช้ากว่าเมืองนอกไปบ้าง แต่ก็ยิ่งใหญ่อลังการอย่างที่ Samsung มักจัดกันมาเสมอๆ ซึ่งครั้งนี้ Samsung เลือกจัดที่ลาน Central World ครับ ลานใหญ่ จอยักษ์ แถมมี Concert จากวง Boy Band เกาหลีอย่าง ICON และวง 9×9 แต่ที่เราชาว MenDetails สนใจเป็นพิเศษก็คงหนีไม่พ้นตัวมือถือใหม่จาก Samsung นี่แหละ เพราะเห็นจากในรูปคือดูดีมากจริงๆ จับตัวจริงแล้วรู้สึกอย่างไร ตามเรามาเลยครับ
หน้าจอ Infinity-O Display ความละเอียดระดับ Quad HD+
-หน้าจอเต็มๆ จุใจ และมาพร้อมความละเอียดถึง 550ppi เลยครับ-
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งครับว่า หน้าจอของ Samsung นั้น ถือว่าดีที่สุดในตลาด ณ ปัจจุบัน ยิ่งเมื่อพูดถึงความละเอียดของหน้าจอด้วยแล้ว Samsung ถือว่าทำออกมาได้เยอดเยี่ยมจริงๆ กับความละเอียดสูงสุดถึง 1440 x 3040 Pixels (550 ppi) บอกเลยว่าละเอียดจนน่าตกใจ แถมยังอิง Design เดิมอย่างขอบโค้ง แต่ลดทอนขอบจอด้านบนและด้านล่างลง แล้วเจาะหน้าจอสำหรับกล้องหน้าแทน และด้วยขนาดหน้าจอที่ใช้สัดส่วน 19:9 ทำให้ได้หน้าจอที่สูงกว่าปกติเล็กน้อย
ระบบปลดล็อคแบบ Ultrasonic Fingerprint Reader บนหน้าจอ
ตัวมือถือใช้ระบบใหม่ในการ Unlock หน้าจอโดยหยิบเอาเทคโนโลยีอย่าง Ultrasonic มาใช้เป็นเจ้าแรก (ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เจ้าแรกที่สามารถสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอก็ตาม) ซึ่งข้อดีของ Ultrasonic Fingerprint Reader ก็คือ คุณสามารถปลดหน้าจอได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอนั่นเอง เพราะสำหรับการ Unlock บนหน้าจอของมือถือรุ่นๆ นั้น จำเป็นต้องส่องสว่างหน้าจอให้เห็นลายนิ้วมือเสียก่อน แต่ด้วย Ultrasonic จอมืดๆ ก็ปลดล็อคได้ครับ
ถ้าคุณเลือกใช้การ Unlock ด้วยวิธีนี้ ไม่น่าจะเกิดปัญหาใดๆ แน่ๆ แต่เท่าที่เราทราบมานั้น หากคุณต้องการใช้วิธีอื่นเช่น Face Unlock แล้วหล่ะก็ เครื่องนี้อาจไม่ปลอดภัยขนาดนั้นครับ (หากได้ลองเล่นตัวจริง อาจพูดถึงได้ชัดเจนมากกว่านี้)
กล้องหลัง 3 ตัว 3 ระยะตั้งแต่ Ultrawide / Wide และ Telephoto
ถึงไม่ใช่เจ้าแรกที่เริ่มด้วยกล้องหลัง 3 ตัว แต่ก็ถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ของวงการมือถือ เมื่อ Samsung กระโดดเข้ามาเล่นในกลุ่ม Ultrawide นอกเหนือจาก Live Focus ที่มีในรุ่นก่อนหน้านี้ (เหมือนอย่างที่ Huawei P20 Pro เปิดตัวไม่นานมานี้) อาจไม่ใหม่สุดในท้องตลาด แต่ก็ถือเป็น Feature ที่คนชอบถ่ายภาพ “ชอบแน่นอน” เพราะพกมือถือเครื่องเดียว เหมือนมีเลนส์ 3 ระยะติดตัวไปด้วยนั่นเอง
Feature ที่เราชาว MenDetails สนใจเป็นพิเศษมากกว่าก็คือ “Super Steady” ที่ช่วยให้การถ่าย VDO เหมือนมี Stabilizer ติดตัวไปด้วยในมือถือเครื่องเดียว
กล้องหน้านั้นสามารถถ่ายรูปแบบ Live Focus ได้ในรุ่น S10+ แถมมี Feature ปรับแต่งภาพให้น่าสนใจอีกเพียบ ส่วนเรื่องการถ่ายในที่แสงน้อยนั้น Samsung ถือว่าทำออกมาได้ดีเช่นเคยแบบไม่ต้องกังวล หากแต่เรื่องการประมวลสีของภาพยังคง Over Saturation เล็กน้อย และ Skin Tone อาจผิดเพี้ยนไปบ้างนั่นเอง
“ราคา” ถือว่าหนักหนาเอาการอยู่
ไม่ใช่เฉพาะ Samsung หรอกครับ แต่เหมือนว่าราคาของโทรศัพท์มือถือ ณ ปัจจุบัน จะวิ่งไปแตะอยู่หลัก 30,000.- กันหมดแล้ว และถ้ายิ่งเป็นรุ่น Top สุดเช่นหน้าจอใหญ่สุด ก็อาจเริ่มต้นที่ 40,000.- อัพ ได้สบายๆ อย่างเช่น Samsung Galaxy S10 ที่เริ่มต้นที่ 31,900.- และถ้าคุณอยากได้ตัว Top สุดของ S10+ คุณอาจต้องจ่ายเงินเริ่มต้นสูงถึง 55,900.- (ราคานี้คือเครื่อง Computer ดีๆ สักเครื่องเลยแหละ) แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา และคุณอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด ราคาดังกล่าวก็ดูจะเป็นราคาที่เหมาะสมในระดับหนึ่งเลยครับ “ถ้าคุณได้ใช้ครบอย่างที่เขาให้มานะ”
ไว้จะมา Review เต็มๆ ให้ทุกท่านอ่านอีกรอบหากเราได้มีโอกาสหยิบเครื่อง Galaxy S10 หรือ S10+ มาลองเล่น อาจจะเข้าถึงความเป็น Samsung และลูกเล่นต่างๆ มากขึ้น รวมถึง Details อื่นๆ ที่เราอาจไม่มีโอกาสได้แตะตอนอยู่ที่ Booth ครับ แต่โดยสรุป ณ ตอนนี้คือ Samsung Galaxy S10 นั้นเป็นมือถือที่สวยและน่าหลงใหลมากจริงๆ สวยจนมือถือในมือนี่สั่นไปหมดละครับ