หากคนในวัยทำงานเลือกที่จะ นอนกลางวัน ในที่ทำงานระหว่างช่วงเวลาพัก อาจจะทำให้ดูเป็นคนขี้เกียจ ไม่พร้อมทำงาน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ การนอนกลางวันไม่ได้หมายความว่าเราจะไปนอนหลับยาวหลายชั่วโมง ไม่สนใจทำงานทำการ แต่การนอนกลางวันในที่นี้เป็นการงีบช่วงเวลาสั้น ๆ อาจจะเป็นในช่วงพักเที่ยง หรือใครที่ Work from home ไม่ได้มีเวลางานแน่นอนอยู่แล้วก็สามารถทำได้ หากรู้สึกเหนื่อยล้า หรือหลังมื้อเที่ยงรู้สึกขอบตาหนัก ๆ ก็แนะนำให้งีบสักแปบหนึ่งแทนที่จะฝืนครับ เพราะมันมีประโยชน์ในการช่วยให้เราพร้อมลุยกับการทำงานหรือกิจกรรมช่วงบ่ายได้ดียิ่งขึ้น วันนี้ MenDetails จึงขอพาทุกท่านไปดูประโยชน์ของการนอนกลางวัน รวมถึงวิธีการนอนกลางวันให้ได้ประสิทธิภาพเต็มที่
ทำไม นอนกลางวัน ถึงดีกับเรา
เชื่อว่าหลาย ๆ คน เมื่อถึงช่วงเที่ยงโดยเฉพาะหลังกินอาหารเที่ยง จะเกิดอาหาร “หนังตาหย่อน” อยากนอน แต่ก็นอนไม่ได้ ทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า พลังงานไม่เพียงพอ ไม่สดใสในช่วงบ่าย เพราะมีอาการง่วงนอนนั่นเอง
และนั่นเป็นสิ่งที่การนอนกลางวันสามารถช่วยเราได้ครับ เพราะการงีบช่วงพักกลางวันแค่ 15 – 30 นาที ก็สามารถทำให้ร่างกายของเราสดชื่นขึ้นได้ ทำให้อาการง่วงนอนหลังอาหารเที่ยงหายไป พร้อมลุยต่อในช่วงบ่าย ยิ่งหากรวมกับการดื่มกาแฟแบบ Nappuchino แล้ว จะช่วยให้เรามีพลังงานเต็มที่อย่างไม่น่าเชื่อ
ประโยชน์หลัก ๆ ของการนอนกลางวันนั้น นอกจากจะช่วยเติมพลังให้สดชื่นหลังจากอาการง่วงหลังอาหารเที่ยงแล้ว ยังเป็นการลดความเครียดที่สะสมในช่วงเช้าเพราะสมองที่พักผ่อน ช่วยปรับอารมณ์ของเราให้คงที่ขึ้นจากความเหนื่อยล้า และช่วงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะสมองที่หลังจากได้พักทำให้เราพร้อมสำหรับการจดจำ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ดังนั้นหากใครที่เหนื่อยล้าจากกิจกรรมและงานช่วงเช้า และเริ่มง่วงหลังจากกินอาหารเที่ยงอิ่มท้อง การพักผ่อนนิดหน่อยสัก 15 – 20 นาทีคือคำตอบ
การนอนกลางวันให้ได้ประสิทธิภาพ
แม้การนอนกลางวันจะมีข้อดีของมัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าการนอนหลับยาว ๆ ในช่วงเที่ยงจะเป็นเรื่องดีเสมอไป เพราะหากนอนผิดวิธีจากที่จะช่วยให้สดชื่น มีพลังพร้อมทำงานและกิจกรรมต่าง ๆ จะกลายเป็นยิ่งง่วงและยิ่งล้ากว่าเดิมแทน
การนอนกลางวันให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด จะอยู่ที่ช่วงไม่เกิน 30 นาที หรือ 90 นาทีไปเลยเพราะการนอนหลับเพียงระยะเวลาเท่านี้ ทำให้ร่างกายเราได้พักผ่อนเพียงพอให้รู้สึกมีพลังงานอีกครั้ง หากนอนนานกว่านี้จะยิ่งทำให้รู้สึกมึน รู้สึกล้า และอยากนอนต่อไปเรื่อย ๆ แทน เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวงจรการนอนครับ
หรือหากนอนอยู่กับที่ แม้อาจจะนอนไม่หลับหรือหลับไม่ลึก แต่ก็ช่วยปรับอารมณ์เราให้ดีขึ้นได้เช่นกัน รวมถึงถ้าได้หลับในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการนอน เช่น เงียบ แสงน้อย จะช่วยให้การนอนหลับของเราดีขึ้น แต่ถ้าหากที่ทางไม่สะดวกอย่างอยู่ที่ทำงาน การฟุบหลับบนโต๊ะสัก 15 – 20 นาที ก็พอจะแทนกันได้ครับ แม้จะได้นอนไม่นาน แต่ถ้านอนกลางวันอย่างถูกวิธี ก็จะได้ผลดี ทำให้ร่างกายเราได้พลังงานกลับมาครับ
ข้อควรระวังในการนอนกลางวัน
จากสองหัวข้อที่ผ่านมา นอนกลางวันอาจจะดูเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อย่างลืมว่านี่เป็นเพียงแค่การนอนช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อให้ร่างกายกลับมาสดชื่นเท่านั้น ไม่ใช่การนอนหลับแบบตอนกลางคืนแต่อย่างใด และการนอนกลางวันเองก็มีข้อที่ควรระวังอยู่ด้วยเช่นกัน
อย่างแรก หากเรานอนกลางวันนานเกินไป เมื่อตื่นขึ้นมาร่างกายเราจะรู้สึกล้ามากกว่าเดิม ในบางคนอาจตื่นมาพร้อมอาการมึน ๆ ไม่พร้อมรับสิ่งใหม่ ๆ หรือทำกิจกรรมช่วงบ่าย ต่อมาสิ่งที่ควรระวังมากที่สุด คือ การนอนกลางวันอาจไปกระทบการนอนตอนกลางคืนได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องการนอน หรือนอนไม่หลับ หากนอนกลางวันอาจทำให้นอนหลับตอนกลางคืนยากขึ้น รวมถึงใครที่นอนกลางวันมากเกินไป มันจะไปเบียดเวลาการนอนกลางคืนเช่นกัน เพราะร่างกายจะยังรู้สึกไม่ง่วง จากการที่เราได้นอนกลางวันไปแล้ว ส่งผลให้นาฬิกาชีวิตของเราผิดเพี้ยนไป
หากใครที่มีปัญหานอนไม่หลับ หลับยากตอนกลางคืน แล้วรู้ตัวว่าตัวเองชอบนอนกลางวัน ถ้าหากเลี่ยงการนอนกลางวันได้ก็ให้เลี่ยง หรือถ้ารู้สึกล้าจะนอนเอาแรงให้นอนด้วยวิธีที่กล่าวไปในหัวข้อที่สอง และไม่ควรนอนหลังบ่ายสามเนื่องจากมันส่งผลโดยตรงต่อการนอนตอนกลางคืนครับ
การนอนกลางวัน แม้จะเป็นการช่วยเพิ่มพลังในช่วงบ่าย แต่ถ้านอนผิดวิธีและนอนมากเกินไปก็จะส่งผลต่อการนอนตอนกลางคืนได้ครับ ดังนั้นควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ดี แต่ถ้าดูแล้วร่างกายไม่ไหวจริง ๆ เพลีย อ่อนล้าสะสม เราก็อยากแนะนำให้นอนกลางวันครับ งีบระยะสั้น ๆ เพื่อให้ร่างกายได้ชาร์จพลังกลับมาลุยกิจกรรมในช่วงบ่ายต่อได้อย่างสดชื่น เรารับรองว่าการนอนกลางวันเพื่อเอาพลังกลับมาในช่วงพักเที่ยงไม่ได้ทำให้เราดูขี้เกียจหรือเป็นเรื่องน่าอายแต่อย่างใด