ผู้ชายเมื่อสามารถขับรถยนต์ได้แล้ว ก็ควรที่จะรู้เรื่องของการซ่อมบำรุงรถยนต์ในเบื้องต้นด้วย หนึ่งในเรื่องที่สำคัญมากและผู้ชายที่ขับรถยนต์ทุกคนควรรู้ก็คือเมื่อ ผ้าเบรคหมด อาการ จะเป็นอย่างไร? มีข้อที่เราควรสังเกตอย่างไรบ้าง? MenDetails ขอรวบรวมวิธีการเบื้องต้นว่า ผ้าเบรคหมด ดูยังไง มาฝากกันครับ
สัญญาณไฟเบรคสว่างค้างที่หน้าปัดรถยนต์
สัญญาณไฟเบรคบนหน้าปัดรถยนต์ จะมีสัญลักษณ์เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ซึ่งโดยปกติสัญญาณดังกล่าวจะสว่างขึ้นเมื่อเราใช้งานเบรคมือ (Hand Brake) และจะดับลงเมื่อเราปลดเบรคมือออก แต่ถ้าวันดีคืนดีสัญญาณเบรคอัศเจรีย์ดังกล่าวเกิดสว่างขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้ขึ้นเบรคมือ และสว่างค้างคาอยู่บนหน้าปัดรถยนต์ของเราแบบนั้นตลอดเวลา อาการนี้ถือเป็น 1 สัญญาณเบื้องต้นที่บอกเราว่าระบบเบรคของเรากำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และเราควรตรวจสอบต่อไปทันทีว่า ปริมาณน้ำมันเบรคของเราลดลงจนถึงขีดต่ำหรือไม่ หรือในกรณีของ “รถยุโรป” ที่ใช้สายไฟในการเตือนผ้าเบรคหมด ต้องลองแกะผ้าเบรคออกมาดูว่าผ้าเบรคบางลงจนทำให้สายไฟแตะกับจานเบรกและทำให้สัญญาณไฟเบรคสว่างหรือเปล่าด้วยนะครับ
ปริมาณน้ำมันเบรคลดลงจนถึงขีดต่ำ (Min)
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สัญญาณไฟเบรคสว่างค้างที่หน้าปัดรถยนต์ นั่นคือปริมาณน้ำมันเบรคลดลงจนถึงขีดต่ำ (Min) ซึ่งวิธีเช็คปริมาณน้ำมันเบรคทำได้โดย เปิดกระโปรงหน้ารถขึ้นแล้วดูที่กระบอกน้ำมันเบรคที่มักจะเป็นกระบอกพลาสติกสีขาวขุ่นและมีฝาปิดสีเข้ม พร้อมสัญลักษณ์คล้ายสัญญาณไฟเบรคมือติดกำกับอยู่ โดยกระบอกนี้ส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่มุมซ้ายบนใกล้กับบริเวณหลังพวงมาลัยรถยนต์ของเรา ยกเว้นรถยนต์บางรุ่นที่กระบอกนี้อาจจะอยู่จุดอื่นหรือไม่ก็มีฝาครอบพลาสติคปิดบังเอาไว้อยู่อีกชั้นหนึ่ง แต่ก็เป็นเพียงรถยนต์ส่วนน้อยเท่านั้น
ปริมาณน้ำมันเบรคที่ถูกต้องเมื่อรถยนต์ของเรายังใหม่ป้ายแดงหรือผ้าเบรคของเรายังเต็มอยู่จะอยู่ที่ระดับขีดสูง (Max) จนเมื่อเราใช้งานผ้าเบรครถยนต์มาเป็นเวลานาน ผ้าเบรคจะค่อย ๆ บางลงและทำให้น้ำมันเบรคจากกระบอกน้ำมันเบรคนี้ ค่อย ๆ ไหลลงไปอยู่ภายในลูกสูบเบรคที่อยู่ที่ล้อรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ เป็นสาเหตุให้ปริมาณน้ำมันเบรคในกระบอกลดลงจากขีดสูง (Max) ไปหาขีดต่ำ (Min) อันเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่เตือนเราได้ว่าผ้าเบรครถยนต์ของเราบางลงจนใกล้จะหมด หรือระบบเบรคกำลังมีปัญหาบางอย่าง เช่น แม่ปั๊มป์น้ำมันเบรกทำงานผิดปกติ เป็นต้น
คำเตือน! การสังเกตสัญญาณไฟเบรคที่หน้าปัดและระดับปริมาณน้ำมันเบรคแบบนี้จะใช้ได้เฉพาะกับรถยนต์ที่ไม่เคยเติมน้ำมันเบรคลงไปในกระบอกนำ้มันเบรคเลยตั้งแต่ต้นเท่านั้น เพราะถ้าใครที่เอาใจใส่รถยนต์อย่างดีและหมั่นคอยเติมน้ำมันเบรคให้อยู่ในระดับ Max ตลอดเวลา น้ำมันเบรคก็จะไม่มีทางลดลงต่ำถึง Min ได้เลยแม้ผ้าเบรคจะหมดแล้วก็ตาม ทำให้ไม่สามารถใช้วิธีการสังเกตแบบนี้ได้ และต้องหันไปใช้วิธีการสังเกตข้ออื่น ๆ ด้านล่างนี้แทนนะครับ
รู้สึกว่าต้องเหยียบแป้นเบรคให้ลึกลงกว่าเดิม
การขับรถยนต์ที่ผ้าเบรคยังหนาอยู่ เมื่อเราเหยียบเบรคเราจะรู้สึกได้ว่า แค่เหยียบลงไปไม่มากนักระบบเบรคก็จะเริ่มทำงานและรถก็จะเริ่มชะลอความเร็วลงแล้ว แต่ถ้าเราเริ่มรู้สึกได้ว่าเราจำเป็นต้องเหยียบแป้นเบรกลึกลงกว่าเดิมมากจนผิดสังเกตกว่าที่ระบบเบรครถยนต์จะเริ่มทำงาน ภาษาช่างเรียกอาการดังกล่าวว่า “เบรคต่ำ” ความรู้สึกดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราสามารถตั้งข้อสมมติฐานได้ว่าผ้าเบรคอาจจะบางลงจนใกล้หมดแล้วก็เป็นได้ ควรรีบนำรถไปตรวจสอบต่อไปโดยเร็วนะครับ
มีเสียงแหลม ๆ ดังออกมาจากล้อในขณะที่ล้อกำลังหมุน
หากมีเสียงแหลม “จี๊ด ๆ” คล้ายเสียงหนูร้อง ดังออกมาจากล้อรถยนต์ในขณะที่ล้อกำลังหมุนไม่ว่าเราจะเหยียบเบรคอยู่หรือไม่ก็ตาม อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผ้าเบรครถยนต์ของเราบางลงจนทำให้ “ตัวเตือนเบรค” ที่ติดอยู่กับผ้าเบรคนั้นไปเสียดสีกับจานเบรครถยนต์ กลายเป็นเสียงแหลมดังขึ้นเมื่อล้อรถยนต์หมุนไปมา เราแนะนำให้นำรถไปตรวจสอบผ้าเบรคโดยเร็ว เพราะหากนิ่งนอนใจใช้งานเบรคแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตัวเตือนเบรคดังกล่าวอาจหักลงจนเสียงแหลมนั้นหายไป ยิ่งทำให้เราเผลอคิดไปเองว่าความผิดปกตินั้นได้หายไปแล้ว จนอาจก่อให้เกิดปัญหาเหล็กขูดกับจานเบรคตามมาภายหลัง จากเสียงจี๊ด ๆ จะกลายเป็นเสียง ครืดยาว ๆ พาให้สยอง จนสามารถบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตโดยใช่เหตุได้ด้วยนะครับ
เนื้อเบรคบางกว่าแผ่นเหล็กของผ้าเบรค
เมื่อเราสังเกตเห็นอาการผิดปกติเบื้องต้น แล้วนำเอารถยนต์เข้าไปตรวจสอบผ้าเบรคที่ร้าน หรืออู่ที่เราวางใจแล้วนั้น ให้เราแจ้งทางช่างให้ช่วยถอดผ้าเบรคของรถยนต์ของเราออกมาให้เราดูก่อน จากนั้นลองมองจากมุมบนเพื่อให้เห็นความหนาของ “เนื้อเบรค” ที่เหลืออยู่ เปรียบเทียบกับ “แผ่นเหล็ก” ที่ทำหน้าที่เป็นฐานของเนื้อเบรค หากเนื้อเบรค “บางกว่า” แผ่นเหล็กดังกล่าวพอสมควร แปลว่าเราใช้ผ้าเบรคชิ้นนั้นมามากแล้ว และไม่จำเป็นต้องเสียดายเนื้อผ้าเบรคที่ยังเหลืออยู่ ถือเป็นเทคนิคที่ MenDetails ใช้เป็นการส่วนตัว เพราะลงท้ายแล้ว MenDetails เชื่อว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างผ้าเบรครถยนต์นั้น เราควร “เปลี่ยนก่อนหมด” ดีกว่ารอให้หมดเกลี้ยงจนหยดสุดท้ายก่อนถึงจะเปลี่ยนนะครับ
อย่าลืมว่าระบบเบรคคือหนึ่งในระบบที่สำคัญที่สุดของความปลอดภัยในการขับรถยนต์ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปโดยไม่ดูแลให้ดีนะครับ เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ชายที่ใช้งานรถยนต์ทุกคนได้รู้ว่า ผ้าเบรคหมด อาการ จะเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ของตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับผู้อื่น อันเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่วนรวมด้วยครับ
ขอขอบคุณ thaiautobrake.com และ ร้านหลักสองยางยนต์ เอื้อเฟื้อสถานที่ ข้อมูลความรู้ และอุปกรณ์ในการถ่ายภาพประกอบบทความ