ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อกางเกงยีนส์สักหนึ่งตัว สิ่งแรกที่คุณต้องรู้จักเลยก็คือผ้า Cotton ครับ ซึ่งก่อนที่มันจะถูกถักทอขึ้นมาเป็นผืนผ้า Denim นั้น มันเคยเป็นต้นฝ้ายสีขาวๆ นุ่มๆ ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าฝ้ายแต่ละแบบ แต่ละตระกูล ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป และนั่นเป็นเครื่องชี้วัดบางประการนอกเหนือจากวิธีการทอ / ความหยาบของผ้า / การปั่นเส้นด้าย / การตัดเย็บที่ใช้เครื่องจักรแบบโบราณ และน้ำหนักของผ้าหลังจากทอเป็นผืนแล้ว ซึ่งเส้นใย Cotton แต่ละแบบก็จะมีความยาวของเส้นใยไม่เท่ากัน เอกลักษณ์ก็จะไม่เหมือนกันนั่นเอง วันนี้ MDs พามารู้จักเส้นใย Cotton กันครับว่า แต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร
รู้จักคำว่า “ความยาวเส้นใย” กันก่อน
เส้นใย Cotton แต่ละสายพันธุ์มีความยาวไม่เท่ากันครับ ดังนั้นความยาวของแต่ละแบบก็จะให้ Effect ในการ Fade ที่ไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือความยาวของเส้นใยมีผลต่อความนุ่มของตัวผ้า กล่าวคือ หากเสื้อผ้านั้นผลิตด้วยเส้นใย Cotton ที่มีความยาวมากเท่าไร ยิ่งให้ความนุ่มได้มากเท่านั้น ดังนั้นการได้รู้ต้นกำเนิดของผ้าฝ้ายแต่ละประเภทที่นำมาผลิตเป็นผ้ายีนส์นั้น จะช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นถึงความนุ่มสบายของตัวกางเกงและคุณภาพผ้าที่จะได้รับนั่นเอง
1. Upland Cotton
9 ใน 10 ของฝ้ายบนโลกใบนี้นั้นคือ Upland Cotton เพราะเป็นสายพันธุ์หลัก มีอยู่ทั่วไป มีขนาดความยาวเส้นใยที่ไม่คงที่ บางอันยาว บางอันสั้น จึงควบคุมคุณภาพได้ยาก ทำให้ต้องนำมาปั่นรวมกันก่อนนำไปผลิตเป็นเส้นด้ายนั่นเอง และหากกางเกงยีนส์ของคุณเขียนว่า 100% Cotton โดยไม่มีอะไรต่อหลังเลย สามารถเดาได้เลยครับว่า “มาจาก Upland Cotton แน่นอน” ซึ่งผ้าฝ้ายจำพวกนี้จะมีเอกลักษณ์ในการเฟดที่น่าสนใจ เนื่องจากเส้นใยที่สั้น ทำให้ได้เฟดสั้น ยาวไม่เท่ากันตามไปด้วย
2. Pima Cotton
ถือเป็นเส้นใย Cotton ที่มีความยาวเป็นพิเศษ เกิดและเติบโตในประเทศอเมริกาในรัฐ Arizona โดยตั้งชื่อว่า Pima ตามชื่อของชาวอินเดียนแดงที่ค้นพบ Cotton ชนิดนี้นั้นเอง ซึ่งเส้นใย Pima Cotton นั้นขึ้นชื่อว่ามีความแข็งแรงทนทานสูง และเมื่อเทียบต่อตารางนิ้ว ผ้า Pima Cotton จะมีน้ำหนักที่น้อยกว่าเส้นใยแบบอื่น จึงเป็นที่นิยมในบรรดาเครื่องแต่งกายราคาแพง / ผ้าปูเตียง / เสื้อ Oxford Clothing และบ้างก็นำมาผลิตเป็นกางเกงยีนส์นั่นเอง
3. Turkish Cotton
ฝ้ายจาก Turkey นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในการนำมาผลิตเป็นผ้าขนหนู และผ้าเช็ดตัว ด้วยเส้นใยที่ยาวกว่าปกติและมีความมันวาว ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มสินค้าประเภทผ้าขนหนูเป็นหลัง แต่ให้หลังมานี้ Turkish Cotton เริ่มเป็นที่รู้จักและแผร่หลายอย่างมากจากกางเกงยีนส์ A.P.C. ที่ตีตลาด Raw Denim ด้วยคุณภาพผ้าที่แข็งแรง และ Fading ที่เรียบและสวยงาม
Turkish Cotton มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งก็คือความยืดหยุ่นของตัวผ้าที่ให้ได้มากกว่าผ้าฝ้ายแบบอื่น แถมยังให้ความแข็งแรงเท่าเดิมหลังจากยืดแล้วอีกด้วย ถือเป็นผ้า Underdog ที่น่าสนใจทีเดียว
4. Zimbabwean Cotton
ถือเป็นฝ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน และมีจำนวนเพียงไม่กี่ % บนโลกใบนี้ เนื่องจากเป็นเส้นใยที่ยาวที่สุดในบรรดาทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา และมีความสามารถในการซึมซับสีย้อมได้ดีเยี่ยม แถมให้ความหยาบที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดอีกด้วย เนื่องจาก Zimbabwean Cotton นั้นปลูกด้วยชาวไร่เพียงไม่กี่รายเท่านั้น เพราะต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการเก็บ (เพราะเก็บฝ้ายด้วยมือ เพื่อรักษาความยาวของเส้นใย)
แบรนด์หลักที่ใช้ฝ้าย Zimbabwean Cotton ได้แก่ Momotaro Jeans / 45rpm รวมไปถึงแบรนด์คนไทยอย่าง Indigoskin ก็มีบางรุ่นอย่าง S-Series ที่เลือกใช้ฝ้ายคุณภาพสูงอย่าง Zimbabwean Cotton เช่นกัน
หลังจากนี้ ก่อนเลือกซื้อกางเกงยีนส์ แนะนำให้พลิกดูรายละเอียดของผ้าฝ้ายก่อนครับว่า ผ้ายีนส์ของเราผลิตขึ้นมาจากฝ้ายประเภทใด ชนิดไหน ยิ่งถ้ากางเกงยีนส์ตัวไหนผลิตจากผ้าฝ้าย Zimbabwean Cotton และราคาไม่แพงด้วยแล้ว MDs แนะนำให้ซื้อมาใส่ได้เลยครับ