เมื่อพูดถึง Single Malt Whisky หลายคนคงนึกถึงเหล้าวิสกี้ราคาสูง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะชื่อเสียง และความหายาก รวมถึงความซับซ้อนของรสชาติที่เป็นที่โจษจัน ซึ่งใครก็ตามที่เคยได้อ่านบทความเรื่อง Single Malt Whisky จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ น่าจะมีความเข้าใจในเรื่องความ “Single” หรือเป็นเอกเทศน์ของเหล้าวิสกี้ชนิดนี้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่วันนี้ MenDetails จะขอนำมาอธิบายอีกครั้งว่า ระดับความ Single ของ ซิงเกิ้ล มอลต์ วิสกี้ ที่คุณเคยรู้มานั้น มัน “ซิงเกิ้ล” จริง ๆ อย่างที่เราเคยคิดหรือไม่ ?
Single Malt Whisky ต้อง Single แค่ไหน?
ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่เมื่อพูดถึง Single Malt Whisky เรามักเชื่อว่าเป็นวิสกี้ที่เกิดจากการหมักเมล็ดมอลต์ข้าวบาร์เลย์ (Malted Barley) ในถังเพียงถังเดียว (Single Barrel) และเก็บไว้จนครบอายุที่กำหนด จากนั้นก็นำออกมาวางจำหน่ายเลย โดยไม่ถูกเปิดออก หรือนำไปผสมกับอะไรก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น นั่นคือระดับสูงสุดของความ Single สำหรับเหล้าวิสกี้ประเภทนี้ แต่ทว่าในเชิงปฏิบัติแล้วนั้น วิสกี้ที่จะเป็นเช่นนั้นได้จริง มักจะเป็นวิสกี้ที่มีคนประมูลเหมาไป “ทั้งถัง” ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการบ่ม ในขณะที่ Single Malt Whisky ที่นำออกมาบรรจุขวดวางขายจริงนั้น ความ Single ของมันจะน้อยลงไปตามลำดับ แต่ยังอยู่ในมาตรฐานที่เรียกได้ว่า “Single Malt Whisky” อยู่นั่นเอง
Single Malt Whisky ไม่จำเป็นต้องออกมาจากถังบ่มเพียงถังเดียวเท่านั้นแต่อย่างใด
ความเข้มงวดของชื่อ ซิงเกิ้ล มอลต์ วิสกี้
มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับกันได้ก็คือ Single Malt Whisky จะต้องบ่มจากเมล็ดมอลต์ข้าวบาร์เลย์ 100% เท่านั้น และการบ่มนั้นจะต้องเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดภายใน “โรงบ่ม” (Distillery) เพียงโรงเดียว ไม่ใช่ “ถังบ่ม” เพียงถังเดียว อย่างที่หลายคนอาจเคยเชื่อกัน ดังนั้น Single Malt Whisky ที่เราซื้อหากันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่จึงเป็นการผสมกันของ Single Malt Whisky หลาย ๆ ถังที่อยู่ในโรงบ่มโรงเดียวกัน ซึ่งภาษาอังกฤษจะเรียกการผสมแบบนี้ว่า “Vatted” หรือ “Marrying” เพื่อเลี่ยงการใช้คำว่า “Blended” อันจะทำให้เกิดความสับสนกับ Blended Whisky นั่นเอง
Master Blender คือคนที่คอยผสมวิสกี้ให้ได้รสชาติต่าง ๆ แต่หากเป็น Single Malt จะเรียกว่า Vatted แทนคำว่า Blended
ซิงเกิ้ล มอลต์ วิสกี้ ต่างอะไรกับ Blended Malt Whisky ?
หากได้อ่านบทความ Scotch Whisky 101 ที่เราได้เขียนไปก่อนหน้านี้ ก็จะพบกับวิสกี้ประเภทหนึ่งที่มีชื่อว่า Blended Malt Whisky ซึ่งเป็นการนำ Single Malt Whisky หลาย ๆ ตัวมาผสมกัน แต่ Blended Malt Whisky จะเป็นการผสมระหว่าง Single Malt จากคนละโรงบ่มกัน เช่น การนำ Single Malt Whisky จากโรงบ่ม A, B และ C มาผสมผสานกัน แต่ถ้าเป็นการผสมกันของ Single Malt ภายในโรงบ่ม A เพียงโรงเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะผสมกันกี่ตัวก็ตามแต่ ก็ยังจะเรียกว่า “Single Malt Whisky” ได้อยู่ดีนั่นเอง
ผสม Single Malt จาก 3 โรงกลั่น จึงเป็น Blended Malt Whisky
แล้วตัวเลข “จำนวนปี” บนขวดล่ะ?
ตัวเลขจำนวนปีบนขวดของ Single Malt แต่ละรุ่น เช่น 12 ปี 18 ปี หรือ 21 ปี คือจำนวนตัวเลขที่บอกถึง วิสกี้ที่อายุน้อยที่สุด ที่ถูกนำมาผสมในขวดนี้ ยกตัวอย่างเช่น Single Malt 12 ปี ของโรงบ่ม A ขวดหนึ่ง อาจจะมี ซิงเกิ้ล มอลต์ วิสกี้ อายุ 16 ปี 14 ปี และ 12 ปี ผสมกันอยู่ ด้วยเหตุผลร้อยแปดพันอย่าง แต่ในเมื่อมีวิสกี้อายุน้อยที่สุดคือ 12 ปี ก็จะต้องติดฉลากที่ระบุเป็น 12 ปีนั่นเอง ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะมีวิสกี้อายุ 16 ปีในขวดนั้นมากกว่า 12 ปี ก็เป็นได้ และยากมากที่เราจะรู้ความจริงครับ
จำนวนปีบนขวด บ่งบอกวิสกี้ ซิงเกิ้ล มอลต์ที่อายุน้อยที่สุด ที่ผสมอยู่ในขวดนี้
ดื่มอย่างมีสติ
จะเป็น Single Malt, Blended Malt หรือ Blended Whisky ก็ตามแต่ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกที่จัดหมวดหมู่เอาไว้เพื่อความเข้าใจ และรวมถึงเป็นการแบ่งชั้นวรรณะเพื่อทำการตลาดในการขายสินค้าของแบรนด์ต่าง ๆ ไปด้วย เราในฐานะผู้บริโภคไม่ใช่ว่าจะต้องรู้เพื่อจับผิดหรืออวดภูมิความรู้ของตัวเองให้น่าหมั่นไส้ แต่รู้ไว้เพื่อ “ทำใจ” ว่าสุดท้ายสิ่งที่เราเคยคิดว่าดีเยี่ยมหรือเหนือกว่าคนอื่นนัก แท้ที่จริงอาจไม่ได้วิเศษเลิศหรูอะไรขนาดนั้น หากคุณชอบดื่มวิสกี้ก็ขอให้ดื่มอย่างมีสติ รู้จักพอประมาณ และไม่ควรใช้จ่ายเงินไปกับสินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้ให้มากเกินฐานะของตัวเองนะครับ