ก่อนที่คุณจะรู้จักว่ากางเกงยีนส์ตัวไหนแข็งแรง ตัดเย็บดีเยี่ยมมากน้อยกว่าอีกแบรนด์อย่างไร จะซื้อใส่ได้นานแค่ไหน สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่คุณมองข้ามไม่ได้เลยก็คือ “ด้ายที่แต่ละแบรนด์เลือกนำมาตัดเย็บ” เพราะด้ายที่นำมาเย็บมีให้เลือกมากกว่าแค่ 1 ชนิด ดังนั้นกางเกงแต่ละตัวอาจจะเย็บไม่เหมือนกัน เหมือนกับ จำนวนฝีเข็มในตัดเย็บที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง วันนี้ MDs’ จะพาไปรู้จักด้ายที่ใช้ตัดเย็บทั้งหมด 3 ประเภท รวมถึงข้อดีข้อเสียของด้ายแต่ละประเภทกันครับ
100% Cotton
ถือเป็นด้ายที่ใช้กันมาแต่ช้านานมากและมีนักโบราณคดีเคยสรุปไว้ว่า มนุษย์เริ่มมีการตัดเย็บด้วยฝ้ายกว่า 7,000 ปีก่อน ซึ่งถือว่านานมากทีเดียว ก้าวเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมในปี 1730s ก็เริ่มมีการปั่นฝ้ายขึ้นเป็นเส้นด้าย ซึ่งข้อดีของด้าย Cotton 100% คือการเป็นวัสดุทางธรรมชาติ และสามารถทนความร้อนที่ปลายฝีเข็มได้ดี (เพราะเมื่อปลายเข็มเย็บผ้า เกิดการเสียดสี เข็มก็จะร้อนและทำลายเส้นด้ายอื่นที่ไม่ใช่ Cotton 100% ให้ขาดขณะผลิตนั่นเอง) และสามารถใส่กับเครื่องจักรโบราณได้ง่าย
ปกติแล้วด้าย Cotton จะแข็งแรงขึ้นเมื่อโดนน้ำดังนั้นด้ายจะต้องผ่านขั้นตอน Mercerizing คือการเพิ่มแรงตึงในเส้นด้ายก่อนจะเคลือบด้วยโซดาไฟ จึงจะพร้อมใช้งานในระบบอุตสาหกรรมได้ดีมากกว่าแบบปกติ จนแล้วจนรอด ด้าย Cotton 100% ก็ยังมีข้อเสียอยู่ดี เนื่องจากมันสามารถหดตัวได้หลังจากโดนน้ำซึ่งส่งผลต่อทรงกางเกงยีนส์ทันที และมีความแข็งแรงที่ต่ำกว่าด้ายประเภทอื่นมาก แถมความยืดหยุ่นก็น้อยอีก แต่หลายๆ แบรนด์อย่าง Momotaro / The Real McCoy ก็เลือกที่จะใช้ด้าย Cotton 100% เพื่อคงความเก่าแบบ Vintage ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
100% Polyester
ถือเป็นด้ายที่พึ่งเกิดขึ้นหลังจากมนุษย์เริ่มรู้จักการแยกน้ำมันออกมาใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นเช่นถุงพลาสติก เส้นด้ายชนิดนี้ก็เลยถือกำเนิดขึ้นจากน้ำมันเช่นกัน ถูกคิดค้นด้วย 2 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ J. R. Whinfield และ J.T. Dickson ในปี ค.ศ. 1941 และเริ่มก้าวเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมจริงๆ ในปี 1955 นั่นเอง ซึ่งเจ้าเส้นด้าย Polyester มีขั้นตอนและการผลิตที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากกว่า Cotton หลายเท่านัก (ณ ที่นี้ขอข้ามขั้นตอนการผลิตไปนะครับ) แต่สิ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ Polyester นั้นผลิตจากส่วนหนึ่งของน้ำมัน ซึ่งจะแข็งแรงมากเป็นพิเศษเมื่อทำการดึงหรือยืดจนถึงจุดหนึ่ง (ลองดึงถุงพลาสติกเล่นก็ได้ครับ) ซึ่งการผลิตคือการนำเอาชิ้นส่วนมาดึง ยืด มากกว่า 15,000 เท่า ทำให้ได้เส้นด้ายที่แข็งแรง
เส้นด้าย Polyester มีข้อดีคือ แข็งแรงกว่าด้าย Cotton มากและหลายเท่าตัว จึงเหมาะที่จะนำไปตัดเย็บกับผ้ายืด เพราะสามารถทดแรงดึงได้ดี แถมทนต่อแรงเสียดสีได้ดีกว่า Cotton ด้วย แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน เพราะ Polyester ผลิตจากน้ำมัน ดังนั้นมันไม่สามารถทนต่อความร้อนสูงๆ ได้ (จะละลาย) เส้นด้ายหนากว่า และเสียรูปได้ง่ายกว่าด้าย Cotton ซึ่งแบรนด์อย่าง 3sixteen ก็เลือกใช้ด้าย Polyester ในการตัดเย็บเนื่องจากต้องการความแข็งแรงนั่นเอง
Polyester แก่นกลาง แล้วหุ้มด้วย Cotton
หลังจากที่ระบบการผลิตหันเข้าหาเส้นด้าย Polyester กันหมด ด้วยสาเหตุที่มันแข็งแรงกว่าด้าย Cotton และราคาถูกกว่า แต่ก็เสียภาพลักษณ์เก่าของกางเกงยีนส์ไปเสียหมด ดังนั้นจึงมีคนคิดค้นเส้นด้ายใหม่ขึ้นคือ แก่นกลางนั้นจะผลิตด้วยเส้นด้าย Polyester เพื่อความแข็งแรงทนทาน แล้วค่อยนำมาหุ้มด้วยเส้นด้าย Cotton อีกชั้น เพื่อความสะดวกในการตัดเย็บ (เพราะเข็มเครื่องจักร หากร้อนเกินไปจะทำให้เส้นใย Polyester ขาด) และยังได้รูปลักษณ์ผิวสัมผัสที่เหมือนของโบราณมากที่สุดนั่นเอง
การทำแบบนี้จะได้ข้อดีของทั้ง 2 แบบมารวมกันซึ่งถือเป็นจุดร่วมที่น่าสนใจที่สุดในบรรดาเส้นด้ายที่นำมาตัดเย็บทั้งหมด 3 แบบนี้ แบรนด์อย่าง Iron Heart / Rogue Territory ต่างรู้ถึงความพิเศษดังกล่าว จึงเลือกใช้เส้นด้ายแบบพิเศษชนิดนี้ในการตัดเย็บ
ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อกางเกงยีนส์ครั้งต่อไป ลองศึกษาถึงเส้นด้ายที่ใช้ผลิตด้วย จะทำให้ได้กางเกงยีนส์ที่ถูกใจมากที่สุด MDs’ ยกตัวเอย่างเช่นกางเกงยีนส์บางตัวตัดเย็บดี ทรงสวย แต่ใส่แล้วด้ายขาดตลอด โดยที่คุณไม่เข้าใจถึงเหตุผลในการขาดของเส้นด้าย คุณก็จะเกลียดแบรนด์นั้นๆ ไปเลยทันที แต่สำหรับบางคนอาจจะบอกว่า การที่ด้ายขาดมันคือสเน่ห์ก็ได้ จะได้ซ่อมบ่อย ได้ Look อีกแบบ ก็แล้วแต่คนจะมองนะครับ
Credit : Heddels