ใครที่ติดตาม MenDetails มาตลอดคงจะพอทราบดีว่า เราชอบออกไปเสาะหาร้านอาหารอร่อยๆ มาฝากแฟนๆ ให้ได้ไปลองแวะชิมกันอยู่เสมอ บ้างก็หรูหรา บ้างก็ราคาประหยัด สลับๆกันไป แต่ที่สำคัญต้อง “อร่อย” เท่านั้น!
ด้วยความที่เมื่อปีที่แล้ว MenDetails ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วได้ไปลองลิ้มชิมรสชาติของเนื้อบริสเก็ต (Brisket) บาร์บีคิว สไตล์อเมริกันที่อร่อยมากๆ มีมันแทรกพอสมควร กินแล้วไม่รู้สึกเหนียว และก็หอมกลิ่นรมควันบาร์บีคิวมากๆ แม้ใครจะบอกว่าเนื้อบริสเก็ตนั้นเป็นเนื้อที่มีราคาถูก และไม่ได้มีรสชาติดีอย่าง ฟิเลมิยอง หรือ เซอร์ลอยน์ ที่มีราคาแพงกว่าก็ตาม แต่ MenDetails กล้ายืนยันเลยว่าบริสเก็ตบาร์บีคิวที่เราได้กินในครั้งนั้นเป็นการกินเนื้อที่อร่อยนุ่มลิ้นที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเราเลยทีเดียว
ป้ายหน้าร้าน Smokin’ Pug
เมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย จึงไม่แปลกเลยที่จะคิดถึงและอยากจะกลับไปกินอีกครั้ง แต่จะให้เราถ่อบินไปอีกฟากโลกก็คงจะใช่เหตุ เราจึงออกตามหาร้านบาร์บีคิวในเมืองไทยที่มีเมนูเนื้อบริสเก็ตบาร์บีคิวขายจนได้มาพบกับร้านที่มีชื่อว่า Smokin’ Pug ร้านนี้นี่แหละครับ โดยเจ้าของร้าน Smokin’ Pug เป็นคู่สามีภรรยาชาวอเมริกันแท้ๆ ตั้งชื่อร้านตามเมนูอาหารที่เน้นขายเนื้อบาร์บีคิวรมควันหลากหลายชนิด ผสมกับความรักสุนัขพันธุ์ปั๊กเป็นชีวิตจิตใจ จึงกลายมาเป็นชื่อร้าน Smokin’ Pug ในที่สุดครับ
ป้ายหน้าร้าน Smokin’ Pug
ร้านตั้งอยู่บนถนนสุรวงศ์ ติดกับโรงแรมตวันนา ใครที่เอารถมาสามารถขับเลี้ยวเข้าซอยข้างๆร้านไปจอดรถได้ที่อาคารปานะวงศ์ที่อยู่หลังร้านได้เลยครับ ค่าที่จอดรถชั่วโมงละ 30 บาทครับ
ร้าน Smokin’ Pug เป็นอาคารพาณิชย์ห้องเดียวอยู่ติดริมถนนสุรวงศ์เลย บรรยากาศเป็นแนวร้านอาหารกึ่งผับ ตกแต่งแนว Loft ดิบๆ มีเพลงบลูส์เท่ๆ สไตล์อเมริกันเปิดให้เข้ากับบรรยากาศร้าน ในวันที่เราไปนั้นคนเยอะมากและส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ พนักงานมีทั้งคนไทยและฝรั่งชาวต่างชาติผสมกัน MenDetails ขอแนะนำให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้าดีที่สุดครับ ไม่เช่นนั้นอาจได้หิ้วท้องรอโต๊ะยาวๆแน่นอน
บรรยากาศภายในร้าน Smokin’ Pug
บรรยากาศภายในร้าน Smokin’ Pug
เมื่อได้โต๊ะแล้วเราจัดแจงสั่งเมนูที่เป็น Signature ของร้านเลยนั่นเนื้อบริสเก็ตบาร์บีคิว 200 กรัม และซี่โครงหมูบาร์บีคิวครึ่งโครง มาเป็นคอมโบในจานเดียว (895 บาท) เสริฟพร้อมถั่วอบซอสรสชาติกลมกล่อม และสลัดโคลสลอว์รสออกเปรี้ยวๆ สดชื่นดีทีเดียวครับ อีกจานหนึ่งที่เราสั่งมานั่นคือแผ่นแป้งข้าวโพดทอดกรอบ เสริฟคู่กับซัลซ่าเผ็ดพอประมาณ (190 บาท) ส่วนเครื่องดื่มเราสั่ง Cherry Coke และ Cherry Sprite แก้วละ 75 บาท ครับ
จาน Combo ซี่โครงหมู และ บริสเก็ต
แผ่นแป้งข้าวโพด กับซัลซ่ารสจัดจ้านใช้ได้เลย
เชอร์รี่โค้ก และเชอร์รี่สไปรท์
เมื่ออาหารมาถึงก็ไม่รอช้าละครับ จัดกันเต็มที่ไปเลย ซึ่งตัวซี่โครงหมูนั้น “นิ่มมาก!” ย้ำว่านิ่มมากจริงๆครับ คือขยับแค่นิดเดียว เนื้อหมูก็หลุดออกจากกระดูกเรียบร้อยเลย ส่วนเนื้อบริสเก็ตก็สมใจอยากครับ นุ่มนิ่มเคี้ยวเพลินและหอมกลิ่นรมควันอย่างที่ต้องการจริงๆ แต่ว่า MenDetails ติดใจอยู่นิดเดียวตรงที่เนื้อบริสเก็ตที่เสริฟมาให้ในวันนี้นั้น ค่อนข้าง lean และมีไขมันแทรกน้อยมาก ทำให้ยังรู้สึกว่าไม่นุ่มลิ้นเท่าที่เคยกิน เราจึงเอ่ยปากถามพนักงาน และได้รับคำตอบว่า เราสามารถระบุเจาะจงได้ว่าต้องการไขมันแทรกมากน้อยแค่ไหนสำหรับเนื้อบริสเก็ตนะครับ ดังนั้น MenDetails แนะนำว่าถ้าจะสั่งเนื้อบริสเก็ตที่นี่ทาน บอกเขาไปเลยว่า “ขอแบบที่มีไขมันแทรกพอสมควรด้วยนะครับ” รับรองว่าได้บริสเก็ตนิ่มๆลื่นๆสมใจอยากแน่นอน
ซี่โครงหมูแบบชัดๆ
เนื้อบริสเก็ตที่แห้งไปนิดเดียวจริงๆ คราวหน้าเอาใหม่ครับ
ราคาอาหารถือว่าปานกลาง ไม่ได้ถูกแต่ก็ไม่ได้แพงเกินไปแต่อย่างใดเมื่อเทียบกับรสชาติและปริมาณ และทางร้านไม่มีค่า Service Charge นะครับ ดังนั้นถ้าหากชอบใจในบริการก็อย่าลืมให้ทิปตามสไตล์อเมริกันชนด้วยนะครับ ใครสนใจอย่าลืมว่าเราแนะนำให้โทรจองโต๊ะก่อนนะครับ ลองเข้าไปดูที่เวบไซต์และ FB Page ของทางร้านได้ครับ ส่วนสำหรับ MenDetails แล้วนั้น ร้านนี้มีซ้ำแน่นอนครับ ไว้เจอกันครับผม