ในบางช่วงชีวิตของผู้ชายนั้น ต้องมีบางครั้งที่เรานั่งลงและถามตัวเองว่า “ชีวิตนี้เราจะทำงานอะไรกันแน่?” แน่นอนว่าทุกๆคนย่อมอยากที่จะประสบความสำเร็จ แต่เส้นทางชีวิตนั้นไม่มีความแน่นอน การเลือกเส้นทางอาชีพและการทำงานก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะส่งผลต่อชีวิตของลูกผู้ชายในระยะยาวเช่นกัน
ถ้าใครที่ยังไม่รู้ หรือยังไม่แน่ใจว่าต้องการทำงานอะไรกันแน่ ที่จะเหมาะกับสไตล์และความถนัดของเรา วันนี้ MenDetails อยากจะขอหยิบคำแนะนำมาเป็นแนวทางเพื่อให้คุณตอบคำถามของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นว่า “ชีวิตนี้เราจะทำงานอะไรดี?”
1. ลองมันให้หมดทุกอย่างที่ทำได้
สำหรับใครที่ ‘No Idea’ หรือไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ วิธีการหนึ่งก็คือลองมันให้หมดทุกอย่างเท่าที่เราจะสามารถทำได้ นั่นเพราะชีวิตเราไม่ได้เดินเป็นเส้นตรงตลอดเวลา วันนี้เราชอบอย่างหนึ่ง แต่เมื่อวัยของเราเปลี่ยนไป ความชื่นชอบในหลายๆอย่างก็อาจจะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แต่ในยามใดที่เราค้นพบว่าเราชอบที่จะทำอะไรบางอย่าง และรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดี ก็จงหยุดค้นหาและตั้งใจทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด จนกว่าชีวิตจะนำพาเราไปเจอสิ่งอื่นๆอีกในวันข้างหน้า อย่างไรก็ตามการทดลองสิ่งใหม่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แง่หนึ่งคือ “ความชิลล์” ที่เรามีอิสระในการที่ค้นหาสิ่งที่เราชอบไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอ แต่ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถมีทางเลือกแบบนี้ได้ ความจำเป็นและความรับผิดชอบในการทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัวจึงเป็นสิ่งที่คุณควรคิดให้ดีก่อนจะเลือกทางแบบนี้ครับ
2. หรือเลือกเอางานที่จ่ายเงินดีไปก่อนก็ได้
ตรงข้ามกับการทดลองไปเรื่อยๆก็คือความจำเป็นและความรับผิดชอบในการหารายได้ให้ตัวเองและครอบครัว ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบไปสนใจว่าเราชอบงานนั้นจริงๆหรือไม่ เพราะถ้าหากเป็นงานที่เรา “ทำได้” และสร้างรายได้ให้เราได้ดีมากพอ เราก็ควรจะลงมือทำสิ่งนั้นไปก่อน ทางเลือกนี้แม้อาจจะฟังดู Dark หรือมืดมน เพราะเหมือนมองคนเราเป็นเพียงแรงงานผลิตรายได้ แต่มันก็อ้างอิงอยู่กับความเป็นจริงที่บางคนไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก อย่างไรก็ตาม แม้เริ่มต้นอาจทำเพราะความจำเป็น แต่เราอาจจะชอบและสนุกกับงานที่เราทำในเวลาต่อๆมาจนไม่คิดจะเปลี่ยนงานอีกเลยก็เป็นได้ เพราะชีวิตมักไม่มีอะไรที่แน่นอนหรอกครับ
3. สมัครไปเป็นเด็กฝึกงาน
วิธีการหนึ่งที่จะทดสอบได้ว่าเราชอบทำงานในแบบที่คิดไว้จริงหรือไม่ นั่นก็คือการไปสมัครเป็นเด็กฝึกงานจริงๆไปเลย ระยะเวลาฝึกงานแม้อาจจะสั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าการทำงานจริงๆนั้นเป็นอย่างไร และต่างจากที่เราวาดฝันเอาไว้สวยหรูมากน้อยขนาดไหน การฝึกงานอาจเป็นการตอกย้ำว่าเราชอบงานนี้จริงๆ หรืออาจช่วยเตือนสติว่าสิ่งที่เราคิดว่าเราชอบนั้น ความจริงแล้วเราอาจไม่ได้ชอบจริงๆก็ได้ ข้อควรระวังก็คือควรเลือกฝึกงานกับบริษัทที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำงานจริงๆ ไม่ใช่คอยแต่ให้เราซื้อกาแฟและถ่ายเอกสารนะครับ
4. หาต้นแบบที่เราอยากเป็น
หากคุณมีงานทำอยู่แล้ว ลองมองไปที่หัวหน้าใหญ่ของตัวเอง และถามตัวเองว่า “เขาคือต้นแบบที่เราอยากเป็นในอนาคตหรือเปล่า?” ถ้าคำตอบคือใช่ เราขอแสดงความยินดีด้วยครับ แต่ถ้าเราตอบว่าไม่ใช่ เราก็ควรต้องถามต่อไปว่าแล้วใครล่ะที่เป็นต้นแบบในการทำงานและการดำเนินชีวิตของเรา จากนั้นจึงมองหาหนทางที่เราจะไปเป็นอย่างที่ต้นแบบของเราเป็นให้ได้ การมีต้นแบบถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะจะทำให้เรามีเป้าหมายและไม่เดินสะเปะสะปะ เราควรหยุดถามตัวเองเป็นระยะว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้นมันมุ่งไปหาต้นแบบของหรือเปล่า แต่เรื่องนี้มีข้อควรระวังก็คือเราควรเลือกต้นแบบที่มีความเป็นไปได้ในโลกแห่งความเป็นจริง แล้วค่อยๆ ขยับต้นแบบให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จะดีกว่านะครับ
5. มองหาโอกาสดีๆ ที่อยู่ใกล้ๆตัว
บางครั้งงานที่เราควรทำ อาจไม่ใช่สิ่งที่เราหลงใหลและชื่นชอบมาแต่เดิมก็ได้ แต่เกิดขึ้นจากการมองเห็นโอกาสที่ความจริงแล้วอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด ตัวอย่างเช่น หากเรามีญาติ หรือมีเพื่อนสนิท หรือผู้ใหญ่คนใดก็ตามที่เราเคารพนับถือกันดี และพวกเขาเหล่านั้นมีธุรกิจหรือทำโรงงานผลิตสินค้าบางอย่างอยู่แล้ว ทำไมไม่ลองสอบถามและศึกษาหาวิธีการที่จะช่วยเขาขายสินค้าเหล่านั้นล่ะ การที่เรารู้จักโรงงานที่เป็นผู้ผลิตเองโดยตรง ย่อมทำให้เรามีต้นทุนที่ต่ำกว่า และด้วยความสนิทสนมหรือเป็นญาติกัน เราย่อมได้เปรียบกว่า และน่าจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่า เป็นต้น ครั้งต่อไปที่นึกไม่ออกว่าจะทำงานอะไรดีในชีวิต ลองมองหาโอกาสดีๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเราแบบนี้ด้วยนะครับ
แม้เราไม่สามารถรับประกันได้ว่า เราจะเจอหนทางสำหรับชีวิตของเราจริงๆ แต่ MenDetails เชื่อว่าทั้ง 5 ข้อน่าจะพอเป็นแนวทางคร่าวๆ ให้คุณลุกขึ้นมาตั้งใจค้นหาหนทางของตัวเองให้ได้ ไม่ว่าเราจะเจอหรือไม่ก็ตาม หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับชีวิตของผู้ชายที่ได้อ่าน MenDetails.com ทุกๆคนนะครับ