หนึ่งแบรนด์คนไทยสำหรับชายไทย ที่ออกแบบโดยคนไทยและดังที่ NYC แบรนด์นี้เลยครับกับ SSAP ที่ก่อตั้งโดยคุณ แม้ว วราลี แสงโสมทรัพย์ โดยวันนี้ MDs’ มีโอกาสได้นั่งดื่มกาแฟกัน พร้อมสัมภาษณ์แบบชิลๆ ลองดูกันครับว่าอะไรทำให้แบรนด์นี้เป็นที่สนใจในวงการ Fashion ในเมือง New York City
MDs’ : รบกวนพี่แม้วช่วยเล่าที่มาของคำว่า SSAP หน่อยครับ
คุณแม้ว : คือจริงๆ ตอนคิดชื่อคือคิดนานมากนะ เพราะชื่อเป็นอะไรที่สำคัญสำหรับแบรนด์ โดยคิดว่าอะไรที่จะอยู่กับตัวเราไปตลอดและเราไม่รู้สึกเขิน ก็เลยเลือกเอานามสกุลมาเป็นชื่อแบรนด์ คือย่อจากแสงโสมทรัพย์เป็น SSAP จริงๆ เมืองนอกมักจะเอาชื่อมาเล่นเป็นชื่อแบรนด์นะเช่น Alexander Wang อะไรแบบนี้ แต่ถ้าเอาชื่อเรามาเลยมันก็เขินนะ (หัวเราะ)
MDs’ : ทราบว่าเป็นคนที่ชอบรองเท้า ถ้าให้เปรียบเทียบแบรนด์ SSAP กับสไตล์รองเท้า พี่แม้วคิดว่า SSAP คือสไตล์อะไรครับ
คุณแม้ว : คงเป็นรองเท้าผ้าใบกึ่งกีฬาหน่อยๆ นะ ดีไซน์เรียบๆ ไม่ถึงกับฉูดฉาด 90’s ไรอย่างงี้ แบบเรียบง่าย ใส่ได้นานๆ
MDs’ : แล้วทำไมถึงไปโผล่ที่ NYC หล่ะครับ
คุณแม้ว : คือแรกเราทำงานโฆษณาก็แบบเบื่อ ตอนนั้นทำได้ 3 ปี ก็ทำงานได้รางวัลบ้าง อยู่ในระดับที่โอเคเลยนะ แต่ก็หันกลับมาคิดว่าจะเอายังไงดี (หัวเราะ) และก็อยากไปเรียนเมืองนอกด้วย ตอนแรกก็คิดจะไปเรียน Graphic นะ แบบเป็นสายใกล้ๆ งานที่เราเคยทำไรงี้ แต่ลึกๆ เราก็ชอบ Fashion อยู่แล้ว ไหนๆ จะไปเรียนเมืองนอกทั้งทีก็เรียนอะไรที่มันต่างไปเลยดีกว่า (ยิ้ม) จริงๆ ก็ตัดสินใจหนักนะ แต่ก็ตัดสินใจเรียน Fashion ก็เลยสมัครไปเลยและไปเรียนที่ NYC ทั้งหมด 2 ปี พอเรียนจบก็ออกมาทำงานสาย Fashion ต่อแต่ทำเป็น Freelance พอทำได้ซักพักก็เลยลองซะเลยสร้างแบรนด์เองชื่อ SSAP นี่แหละ เพราะเราเองก็รู้จักพวกผู้ผลิตที่นั่นอยู่บ้างจากการเรียน เลยสั่งทำเลยเป็น Made in USA เลยนะ
MDs’ : คนที่โน่นกับคนที่ไทยต่างกันมั้ย สำหรับการออกแบบและสื่อสารแบรนด์ SSAP
คุณแม้ว : ต่างกันมากนะ ตอนแรกเงี้ย เราทำเป็น Made in USA ใช่มะ แล้วราคามันก็สูง แต่เค้ามักจะไม่สนใจที่ราคานะ ถึงแม้ว่าเราไปเปิดตัวที่ร้านแพงด้วยนะแบบขายที่ร้าน Multi-Brands คือแค่เค้าชอบ สวย แปลก เค้าก็จะซื้อเก็บไว้ขาย ตอนนั้นเสื้อพี่ก็ไม่ได้ถูกนะตัวนึงเกือบ $200 แต่เค้าไม่ติดที่ยี่ห้อนะ สวยก็ซื้อเข้าร้านมาขาย แต่พอกลับมาที่ไทยเนี่ยแรกๆ ก็ขายไม่ได้เลยนะ และก็รู้สึกว่าเรียบไป (หัวเราะ) ท่าทางคนที่นี่จะไม่ชอบแบบเรียบๆ กัน แต่พอปรับให้มีลูกเล่นหน่อยก็โดนมากขึ้นนะ
MDs’ : มีแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากอะไรครับกับแบรนด์นี้
คุณแม้ว : เวลาออกแบบพี่ชอบดูคนนะ คนทั่วๆ ไปเนี่ยแหละ เพราะเสื้อผ้าของพี่จะไม่ Fashion ขนาดนั้นนะแต่คือการเอาสไตล์มารวมกับเทรนด์นิดหน่อย แต่ตอนที่เริ่มออกแบบเนี่ยจะรู้สึกเจ๋งมากเลยนะเพราะคนที่โน่นเค้าค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ได้อิงใคร เหมือนเห็นใครแต่งตัวเท่ห์ๆ เราก็เอามาปรับเข้ากับเสื้อผ้าของเรา ขนาดคุณป้าที่เก็บของก็ยังไม่สไตล์เลยนะ
MDs’ : งี้กลับมาไทยจะมีปัญหาอะไรมั้ย เพราะคนไทยมักจะแต่งตัวแบบนึงตลอด
คุณแม้ว : คงไม่ได้แบบเป็น Original ขนาดนั้น แต่ก็คงมองที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าเช่นรายละเอียดของผ้า กลับไปดูวิถึชาวบ้านมากขึ้นอะไรอย่างงี้ ซึ่งมันก็มีช่องว่างที่เอาไปทำในสไตล์ของเรานะ เหมือนที่พี่เริ่ม “สกลโปรเจ็ค” ที่จริงๆ ก็มีมานานแล้ว แต่พอเอามาปรับใช้ในสไตล์เรามันก็เท่ห็ไปอีกแบบ แต่ถ้าถามว่ามีปัญหามั้ยก็คงมีแหละ
MDs’ : งั้นต้องถามหน่อยว่าเป็น Designer ผู้หญิงแต่ทำไมถึงเลือกออกแบบเสื้อผ้าผู้ชาย
คุณแม้ว : มีคนถามแบบนี้บ่อยนะ (หัวเราะ) คงเพราะเราชอบแต่งตัวแบบผู้ชายมั้ง (หัวเราะ) ซึ่งแต่ก่อนก็มีความคิดนะว่าจะออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิง แต่จนแล้วจนรอดก็ปรับให้ผู้หญิงมาใส่ซะเลยง่ายดี เพราะหลังๆ ผู้หญิงก็เริ่มมาซื้อเยอะขึ้นมากเลยนะก็แค่ทำไซส์เล็กลงไรแบบนี้ (หัวเราะ)
MDs’ : อะไรครับที่ทำให้ SSAP แตกต่างจากคนอื่น
คุณแม้ว : พี่ว่ามันอาจจะไม่แตกต่างแบบ 100% นะแต่มันเป็นช่องที่ยังไม่มีใครจับมาทำ แบบเสื้อผ้าที่เป็นผู้ชายๆ เรียบๆ แต่มีลูกเล่น ไม่รู้นะ พี่ว่าแบรนด์พี่น่าจะเป็นแนวแบบกึ่ง Streetwear / Fashion นะซึ่งในไทยยังไม่มีแนวนี้ที่แมนๆ แต่มี Design ไรแบบนี้มั้ง Minimal แบบเล่นดีเทลไรงี้
MDs’ : สำหรับ Collection ใหม่คือ “สกลโปรเจ็ค” ถามว่าทำไมต้องสกลนครครับ
คุณแม้ว : จริงๆ ทำกับสกลมาหลาย Collection แล้วนะ ตอนแรกทำเพราะไปเดินทาง Otop แล้วไปเจอ แต่ตอนนี้ฮิตมากเลยนะสำหรับผ้าคราม เพราะเทรนด์ด้วยมั้ง แต่พอเรามาจับมันก็ประจวบเหมาะพอดีเลยทำให้ Collection ล่าสุดแอบดัง (หัวเราะ) ซึ่งผ้าครามของสกลนครนี่ดังมากเลยนะ และด้วยความที่มันมีประวัติเลยเอามาเล่าได้แถมมันคือ Pure Indigo มากๆ นะแถมทำมือล้วน
MDs’ : สุดท้ายมา Base ที่ประเทศไทย จะมีปัญหาอะไรมั้ยระหว่าง Made in Thailand กับ Made in USA
คุณแม้ว : ก็กลัวเหมือนกันนะ แต่พี่ก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรนะ เพราะแอบดูจากแบรนด์ใหญ่ๆ (หัวเราะ) แน่นอนอาจมีปัญหาแต่พี่ว่าคำว่า “SSAP NYC” คือตัวตนของเรานะ เพราะถ้าไม่มี New York ก็คงไม่มีเรา ณ ตอนนี้ ก็อาจจะไม่ได้เริ่มผลิตแบรนด์นี้เลยก็ได้
MDs’ : สุดท้าย อยากฝาก Tips อะไรเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการแต่งตัวสำหรับผู้อ่านมั้ยครับ
คุณแม้ว : พี่ว่าการแต่งตัวที่แบบถูกกาลเทศะมากกว่ามั้ง กับสภาพอากาศ บางคนแต่งเท่ห์มากเลยนะแต่แบบอากาศ 40c มันก็ไม่ไหวนะ เห็นก็ประหลาดนะ แต่เอาจริงๆ ถ้าพูดถึง เราคงชอบแบบ Layers มากกว่าใส่อะไรที่แบบดูร้อนมากๆ นะ แบบเอาของเรียบๆ มาทำให้มันเท่ห์ ไม่ต้องเยอะ อาจจะแบบใส่เสื้อทับเป็นชั้นบางๆ มากกว่าเสื้อกันหนาวเท่ห์ๆ ตัวนึงอะไรแบบนี้
จบไปแล้วครับกับบทสัมภาษณ์ SSAP กับคุณแม้ว เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายที่แนวเรียบที่สุดเท่าที่คนไทยเคยทำ แล้วรอพบกับกิจกรรมร่วมกันระหว่าง SSAP และ MenDetails’ ได้เร็วๆ นี้ครับ