เมื่อพูดถึงเทพของลัทธิชินโต หนึ่งในความเชื่อที่ผสมผสานอยู่กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นคู่กับศาสนาพุทธมาช้านาน หลายคนน่าจะเคยได้ยินเชื่อของเทพ Inari หรือเทพจิ้งจอก ที่มักจะถูกหยิบมานำเสนอในการ์ตูน อนิเมชั่น ภาพยนตร์ เกม นิยาย ของญี่ปุ่นมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเทพที่โด่งดังมากของญี่ปุ่น และลัทธิชินโต ทำให้มี ศาลเจ้าเทพ Inari อยู่มากมายทั่วประเทศ โดยเฉพาะศาลเจ้าใหญ่ตามเมืองต่าง ๆ เป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมในทุกปี เพราะเอกลักษณ์และความสวยงาม รวมไปถึง
และในบทความนี้ MenDetails จะพาไปขอพรเทพ Inari ในศาลเจ้าเทพ Inari ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น 3 แห่งกันครับ เผื่อใครมีโอกาสจะไปเที่ยวจะได้ลองแวะเวียนไปขอพรกันดู
Fushimi Inari (เกียวโต)
เริ่มกันที่ศาลเจ้าหลักที่โด่งดังที่สุดอย่าง Fushimi Inari หรือชื่อเต็มว่า Fushimi Inari taisha ในกรุงเกียวโตกันก่อนเลยครับ ศาลเจ้านี้เป็นจุดหมายปลายทางของทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ในการมาเยี่ยมชม ขอพร โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ที่ศาลเจ้านี้จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาขอพรกันครับ
Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีประวัติย้อนกลับไปถึงปีค.ศ. 711 ก่อตั้งมาก่อนที่ญี่ปุ่นจะย้ายเมืองหลวงมาเป็นกรุงเกียวโตในปีค.ศ. 794 เสียอีก และหลังจากนั้นมันก็ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประวัติศาสตร์และกาลเวลา ได้รับการปรับปรุง ซ่อมแซมหลายครั้ง จนในปัจจุบันถือเป็นสมบัติของชาติ เป็นสถานที่ทางศาสนา และสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังไป
ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ที่ตีนเขา Inari และมีทางเดินทอดยาวขึ้นไปถึงยอดเขา โดยระหว่างทางก็จะมีศาลเจ้าเล็ก ๆ มากมาย และทางนี้เดินนี้ก็เป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่หลายคนนิยมมาเดินเช่นเดียวกันครับ โดยหากจะเดินขึ้นไปถึงยอดเขาต้องใช้เวลาราว 2 – 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ใครที่เดินไม่ไหวก็สามารถหันหลังกลับได้ทุกเมื่อ
ได้ชื่อว่าเป็นศาลเจ้าหลักที่บูชาเทพ Inari ที่เป็นเทพจิ้งจอก ดังนั้นเราจะเห็นรูปปั้น ภาพวาดของเหล่าจิ้งจอกอันเป็นเอกลักษณ์อยู่ทั่วไปหมด ซึ่งเจ้าจิ้งจอก หรือ Kitsune เหล่านี้ ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำสารของเทพ Inari ครับ รวมถึงในบริเวณศาลเจ้าร้านอาหารต่าง ๆ ก็จะขายเมนูอย่าง Inari Sushi (ซูชิเต้าหู้ทอด) หรือ Kitsune Udon (อูด้งที่ใส่เต้าหู้ทอด) เพราะเชื่อกันว่าเต้าหู้ทอดเป็นของโปรดของสุนัขจิ้งจอกครับ ก็เลยกลายเป็นการผูกชื่อกันมาตั้งแต่ไหนก็ไม่ทราบ
เอกลักษณ์ที่ทำให้ศาลเจ้านี้โด่งดัง และเป็นจุดถ่ายรูปของผู้มาเยือน คือ โทริอิสีแดงนับพันต้น ที่ตั้งเรียงกันเป็นทาง ดูสวยงาม และดูลึกลับน่าค้นหาไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งโทริอิเหล่านี้จะมีชื่อของผู้บริจาค หรือบริษัทที่บริจาคเขียนอยู่ด้วย โดยมีการเริ่มบริจาคกันมาตั้งแต่ยุคเอโดะ เมื่อคำขอพรของคนเหล่านั้นเป็นความจริง ในปัจจุบันก็ยังมีการบริจาคโทริอิกันอยู่ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างไปตามขนาดของตัวโทริอิเริ่มต้นที่ราวสี่แสนเยน นอกจากนี้จุดไฮไลท์อีกจุดคือ ประตู Romon ที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าศาลเจ้า เป็นประตูเก่าแก่ที่ถูกบริจาคโดย Toyotomi Hideyoshi ขุนศึกผู้โด่งดังในปี 1589 อยู่อีกด้วย
โดยปกติแล้ว เทพ Inari เป็นเทพแห่งข้าว การเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเหล่าพ่อค้าก็หันมาบูชาเทพ Inari ด้วยเช่นกัน เพราะเชื่อว่าจะทำให้ค้าขายร่ำรวย ในปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีผู้คนมาขอพรต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่เรื่องการงานการค้าขาย สุขภาพ ไปจนถึงเรื่องการเรียน และความรักครับ
Toyokawa Inari (ไอจิ)
ถ้า Fushimi Inari เป็นศาลเจ้าใหญ่ของลัทธิชินโต Toyokawa Inari ก็เป็นวัดใหญ่ของศาสนาพุทธครับ แต่เป็นวัดของศาสนาพุทธที่มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะที่นี่มีองค์ประกอบหลายอย่างของทั้งศาสนาพุทธและชินโตรวมกัน มาจากการที่ในตอนที่สร้างวัดนี้ ปี ค.ศ. 1441 โดยพระชื่อ Tokai Gieki ศาสนาของญี่ปุ่นอยู่กันแบบผสมผสานกัน จนมาถึงยุคฟื้นฟูเมจิ ที่มีออกกฎให้สถานที่ทางศาสนา ต้องเลือกว่าจะเป็นของศาสนาไหนกันแน่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นวัดของศาสนาพุทธนิกายโซโตะไปแต่ในขณะเดียวกันก็มีเทพพิทักษ์เป็น Toyokawa Dakini Shinten เทพที่เกิดมาจากการผสมผสานความเชื่อของชินโตกับพุทธ และมีความคล้ายคลึงกับเทพ Inari เป็นเทพที่โด่งดัง และด้วยความเชื่อที่ผสมผสานกันอยู่ที่นี่เอง ทำให้กลายเป็นหนึ่งในศาลเจ้า Inari ใหญ่ของญี่ปุ่นไปด้วย ในที่ละปีก็มีคนจำนวนมากมาขอพรที่วัดแห่งนี้ตามความเชื่อที่ตนศรัทธา
นอกจากองค์ประกอบที่น่าสนใจแล้ว ไฮไลท์เด็ดอีกอย่างคือเนินที่อยู่ด้านหลัง ที่เต็มไปด้วยรูปปั้นจิ้งจอกผูกผ้าแดง ซึ่งเป็นเหมือนผู้ส่งสารไปยังเทพเจ้า คอยปกป้องรักษา และส่งคำขอของคนที่มาเยือนไปยังเทพเจ้าเพื่อให้เทพเจ้าช่วยบันดาลให้เป็นจริง และแน่นอนว่าอาหารเด็ดย่านนี้ก็หนีไม่พ้น Inari Sushi ที่เชื่อกันว่าเป็นของโปรดของเหล่าจิ้งจอกหินครับ
Yutoku Inari (ซากะ)
มาต่อกันที่จังหวัดซากะ จังหวัดที่เงียบสงบและมีจุดเด่นอยู่ที่ธรรมชาติ ที่คนไทยหลายคนมองข้ามไป ในจังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้า Yutoku Inari ศาลเจ้า Inari ที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 3 ของประเทศรองมาจาก 2 แห่งที่กล่าวไปด้านบน และเป็นวัดสำคัญของจังหวัดอีกด้วย
ศาลเจ้านี่ตั้งอยู่ในเมือง Kashima (ไม่ไกลจาก Ureshino เมืองออนเซ็นขึ้นชื่อของซากะที่เราเคยเขียนถึง ถ้าหากใครมาเที่ยวก็สามารถมัดรวมมาในทีเดียวได้เลย) แต่อาจจะมาลำบากสักหน่อย เพราะศาลเจ้านี่ไม่ได้อยู่ติดสถานีรถไฟ ทำให้ถ้าไม่ได้เช่ารถขับ เมื่อลงจากสถานีที่ใกล้ที่สุดแล้วต้องต่อรถบัส หรือแท็กซี่มาอีกสักนิดครับ แม้จะดูไกล แต่ก็ยังคงเป็นที่นิยมของทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและวันปีใหม่ที่คนจะแน่นเป็นพิเศษ
ศาลเจ้านี้ก่อตั้งในปีค.ศ. 1687 บริเวณทางลาดเนินเขา ตัวศาลเจ้าหลักอยู่บนระเบียงสูงจากพื้น 18 เมตร และจากตัวศาลเจ้าหลักจะมีทางเดินลึกเข้าไปในเนินหลังศาล ที่มีโทริอิเรียงรายอยู่จำนวนมาก หลังจากเดินไปได้สัก 10 นาที ก็จะเจอศาลเจ้าเล็ก ๆ และจุดชมวิวครับ นอกจากนี้บริเวณด้านล่างของศาลยังมีสวนญี่ปุ่นให้เราได้เดินเล่นอีกด้วย ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของเก่าแก่ของผู้ปกครองดินแดนสมัยก่อนมาจัดแสดงด้วย
หากใครมีโอกาสก็ลองไป ศาลเจ้าเทพ Inari ให้ครบทั้ง 3 ที่นี้ดูครับ เทพจิ้งจอกอาจดลบันดาลคำขอของคุณให้เป็นจริงก็ได้ ใครจะรู้?