อีกหนึ่งร้าน Casual Fine Dinning ที่ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย ถือเป็นร้านขนาดปานกลางที่อุดมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ กับทีมเชฟที่ผ่านประสบการณ์ การร่วมงานกับร้าน L’Atelier de Joël Robuchon Bangkok ร้านอาหาร Michelin Star 2 ดาว ที่เคยมาเปิดสาขาในไทย (ณ ปัจจุบัน ปิดให้บริการไปแล้ว) นำโดย เชฟเจย์ สายนิสา แสงสิงแก้ว ซึ่งร้าน Restaurant Stage (สตาช) นั้น ก่อตั้งมาครบ 2 ปี ซึ่งวันนี้ MenDetails ได้รับโอกาสพิเศษจากทางร้าน กับการได้ลองลิ้มรส Tasting Menu ใหม่ กับ ‘Stage 6.0’ ที่มาด้วยกันทั้งหมด 6 Courses ใครกำลังสนใจอยู่ ลองตาม รีวิว Restaurant Stage ของพวกเราไปพร้อม ๆ กันได้เลย
Modern Classic Vibe
ภายในร้านนั้น ถูกตกแต่งด้วยกลิ่นไอความ Modern Classic และถึงแม้ว่าร้านจะมีพื้นที่ไม่มาก แต่ตกแต่งด้วยการซ่อนกระจกไว้ตามจุดต่าง ๆ จนทำให้ตัวร้านดูใหญ่ขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ในส่วนครัวยังออกแบบให้สามารถมองเห็นได้จากพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้เราสามารถเห็นกระบวนการต่าง ๆ รวมไปถึงขั้นตอนในการเตรียม ซึ่งถือได้ว่า Restaurant Stage นั้น ให้ความสำคัญในการตระเตรียมเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับ Tasting Menu ‘Stage 6.0’ นั้น จะมาด้วยกันทั้งหมด 6 จานครับ แต่จะมี Snacks เพิ่มเติมให้ได้ปรับรสชาติในปาก ก่อนเปิดด้วยจานแรกนั่นเอง ซึ่ง Snacks นั้น มีมาด้วยกันทั้งหมด 3 คำครับ ได้แก่ Charcoal Chous ทาประกบด้วย Cream Cheese และ Pickled Radish / Trout Parfait และ Fried Caper / Alaskan Cod คลุกเข้ากับ Preserved Strawberries และ Turmeric Vinaigrette เพิ่มกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย Lemon ถือเป็นของทานเล่นที่รสชาติดี และช่วยปรับการรับรสในปากได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว
Tomato & Egg
ใช่ครับคุณอ่านไม่ผิด นี่คือมะเขือเทศที่นำมาทำเป็นเมนู Tomato Tartare สอดไส้ด้านในเป้น Chilled Yoghurt Sorbet เรียกว่าเปิดหูเปิดตามากจริง ๆ ครับ รสชาติมะเขือเทศคือหวานติดเปริ้ยวนิดหน่อย ซึ่งถือว่าเลือกใช้มะเขือเทศพันธุ์ดี คุณภาพสูง ตัดด้วย Yoghurt Sorbet ที่มีเจลเคลือบด้านนอกบาง ๆ อีกชั้นนึง ถือว่าเปิดโลกมาก ๆ ครับ จานนี้ ส่วนจานต่อไป เป็นเมนูที่เน้นเรื่องไข่ไก่ธรรมชาติจากจังหวัดลพบุรี
ในจานจะประกอบไปด้วย White Asparagus / Black Truffle / Peas Custard และของทอดชิ้นเล็กแบบ Crunchy สุด ๆ เคลือบด้านนอกด้วย Pamesan Cheese ซึ่งจากที่ลองทานแยกกันนั้น ไข่ไก่ถือว่าสดมาก ๆ ครับ ไม่มีกลิ่นคาวแต่อย่างใด พอทานทุกอย่างเข้าด้วยกัน ได้ทั้งความกรอบ ความหอมจากน้ำซอส พร้อม White Asparagus ที่ปรุงมาได้รสหอมมันกำลังทาน ซึ่งจานนี้ก็เหมือนเป็นการเปิดโลกเกี่ยวกับไข่ไก่ของเราไปอีกแบบด้วยเช่นเดียวกัน
Soup & Pork
ถือเป็นหนึ่งเมนูที่เราชื่นชอบมาก ๆ จากทางร้าน กับ Artichoke Soup จานนี้คือดีมากจริง ๆ มีความ Creamy ที่สูง แต่รสชาติกลับลงตัว ตัดเลี่ยนด้วยของทอดที่วางคู่กันในจาน พร้อม Onion Sour Cream ทำให้จานนี้มีรสชาติที่ยอดเยี่ยม กลมกล่อม ถึงขนาดขูดจานกันเลยทีเดียว ตบท้ายด้วย Bafun Uni ที่เป็นขนมปังปิ้งกรอบ ๆ Top ด้วยไข่หอยเม้น ปิดจานได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
จานต่อมาคือ Pork Bourguignon โดยหลักแล้วเราจะเห็นเมนู Bourguignon เป็นเนื้อวัวเสียเป็นส่วนใหญ่ หากแต่ครั้งนี้เชฟเลือกใช้เป็นเนื้อหมู 3 ชั้นแทน ซึ่งรสชาติเข้มข้นดีครับ เสิร์ฟมาพร้อม Potato Espuma ฟองนุ่ม ๆ แล้ว Top ด้านบนด้วย Tuile เพิ่มความกรอบให้กับเมนูนี้ แนะนำให้ทานทุกอย่างในคำเดียวครับ จะได้ Texture ที่นุ่มละมุนของโฟมและเนื้อหมู พ่วงด้วยความกรอบ ซึ่งเข้ากันได้ดีทีเดียว
Quail & Sea Bass
ต่อมาเป็นเมนู Main Course ครับ ซึ่งใน Tasting Menu ‘Stage 6.0’ ครั้งนี้ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะทานเป็น Quail หรือ Sea Bass โดย Quail นั้นจะเสิร์ฟมาพร้อม Truffle Mousse ควบคู่กับ Baby Leek และ Confit Chestnut สำหรับตัวเนื้อนกกระทา หรือ Quail นั้น ทางร้านทำออกมาได้นุ่มมีมากครับ หนังกรอบกำลังทาน ซอสที่ราดมาในจาน รสชาติจัดจ้านดีทีเดียว ทานคู่กับ White Asparagus พร้อม Chestnut เรียกว่าเข้ากันได้
ส่วน Sea Bass จะเสิร์ฟมาพร้อมหอยเชลล์ตัวใหญ่ พร้อมด้วยซอสครีมด้านล่าง ตัวเนื้อปลาและหอยเชลล์นั้น สดมาก ๆ ครับ ชิ้นปลาคือนุ่ม ตัดแล้วมีความเป็นก้อน ส่วนหอยเชลล์ก็ Pan Seared มาได้ดีเลยทีเดียวครับ ทว่าหากบางท่านชื่นชอบรสที่จัดจ้านอีกนิด จานนี้อาจไม่ตอบโจทย์ หากแต่ทางร้านเน้นที่ความสดและรสหวานที่มีอยู่จากวัตถุดิบชั้นเลิศที่ทานร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดีนั่นเอง
Crêpes Suzette
ปิดท้ายด้วยเมนู Crepes Suzette ซึ่งถือเป็นของหวานสไตล์ฝรั่งเศสโดยผ่านการตีความแบบใหม่ให้น่าสนใจ และ Modern ขึ้นตามแบบฉบับ The Stage จากเชฟจ๋า ลิมปิชาติ โดยปรับจากแผ่น Crepes ขนาดใหญ่ เปลี่ยนเป็นแผ่นกลม ๆ แผ่นเล็ก ๆ เรียงอยู่ในจาน เสิร์ฟคู่กับ Yuzu & Yoghurt และส้มเชื่อม ตกแต่งจานให้น่าสนใจด้วยแผ่นน้ำตาลทรงกลม ให้เราได้กระเทาะเพื่อเผยให้เห็นส่วนประกอบด้านใน จานนี้เรียกว่าให้ความสดชื่น และมีความลุ่มลึกในรสชาติที่ดี แต่ยังคงให้ความ Classic ด้วยแผ่น Crepes ที่ทางเชฟทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
ถือเป็นอีกหนึ่งร้าน Casual Fine Dinning ที่ควรค่าแก่การไปลองครับกับ Restaurant Stage ตัวร้านเองตั้งอยู่ตรง Ekamai Complex บนซอยสุขุมวิท 63 โดย Tasting Menu ‘Stage 6.0’ 6 Course จะสนนราคาอยู่ที่ 2,900.++ (Wine Pairing 4 Glasses 1,700.++) โดยทางร้านจะเปิดบริการตั้งแต่วันจันทร์ – วันอาทิตย์ โดยให้บริการแบบ Private Lunch (กรุณาจองล่วงหน้า) และ Dinner ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน ใครอ่าน รีวิว แล้ว สนใจอยากไปลองทาน สามารถติดต่อสำรองที่นั่งได้ ที่ร้าน Stage ได้เลยครับ