ปรัชญาชีวิตสแกนดิเนเวีย เป็นอีกหนึ่ง ปรัชญาชีวิต ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกปัจจุบัน ไม่แพ้ ปรัญชาชีวิตญี่ปุ่น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ชาวสแกนดิเนเวียน อย่าง เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ และ ฟินแลนด์ ต้องใช้ชีวิตกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บตลอดปี พื้นดินขาวโพลนปกคลุมไปด้วยหิมะ ยากต่อการทำเกษตร หน้าร้อนมีแสงแดดถึงเที่ยงคืน ขณะที่ฤดูหนาวแทบจะไม่เห็นดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า แต่พวกเขาก็ต่อสู้และเรียนรู้ที่จะอยู่กับพื้นที่ซึ่งเป็นบ้านเกิด รวมถึงสามารถมีความสุขกับมันได้ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อมีการจัดอันดับ เมืองน่าอยู่ของโลก ประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลก จะมีชื่อของเมืองและประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียติดอยู่ในลิสต์เสมอ
ปรัชญาชีวิต อะไรที่ทำให้พวกเขารับมือและเข้าใจ ธรรมชาติได้อย่างดี แถมมองเห็นแง่งามของชีวิต มาดูกันเลย
ฮุกกะ (Hygge) ปรัชญาชีวิต สร้างความสุขฉบับเดนมาร์ก
ฮุกกะ คือ ปรัชญาชีวิต มาจากภาษานอร์เวย์ แปลว่า การอยู่ดีมีสุข แต่เป็นแนวคิดที่แพร่หลายในประเทศเดนมาร์ก โดยเน้นไปที่ศิลปะในการสร้างความใกล้ชิดผูกพัน ความรู้สึกผ่อนคลายในจิตวิญญาณ การหาความสุขจากสิ่งรอบตัวในปัจจุบัน หรือ ศาสตร์ความสุขที่ว่าด้วยเรื่องการอยู่ร่วมกับสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้
ทั้งนี้ ในปี 2016 ปรัชญาและวิถีความสุขของชาวเดนิชที่กลายเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลก จนพจนานุกรมอ๊อกซ์ฟอร์ดยังยกให้เป็น 1 ใน 10 คำศัพท์แห่งปี ซึ่งชาวเดนมาร์กมีวิถีชีวิตด้วยการหาความสุขจากสิ่งเล็กๆในชีวิตประจำวัน ด้วยการสร้างบรรยากาศ สร้างสุนทรียะ ขึ้นมาเอง เช่น การดื่มเครื่องดื่มร้อนๆหน้าเตาผิง การทำอาหารอร่อยๆทานเองที่บ้าน การนั่งดูหนังกับครอบครัว การนั่งอ่านหนังสือในพื้นที่สบายๆ การได้ดื่มด่ำมื้ออาหารกับคนคุ้นเคยท่ามกลางแสงเทียนวูบไหว เป็นต้น เพราะมนุษย์เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม จึงต้องเลือกที่จะอยู่กับมันอย่างมีความสุข
ในหนังสือ ปรัชญาความสุขฉบับเดนมาร์ก (The Little Book of Hygge, The Danish Way to Live Well) ผู้เขียน ไมก์ วิกิง ที่เป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยความสุขของเดนมาร์ก หนึ่งในประเทศมหาอำนาจแห่งความสุข ได้ถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับวิถี ฮุกกะ ในหลายแง่มุม ตั้งแต่อาหาร การตกแต่งบ้าน การคบหาสมาคม ไปจนถึงมุมมองความคิดที่ชี้ชวนให้คุณมองหาความสุขในสิ่งละอันพันละน้อยรอบตัว เพื่อสร้าง ฮุกกะ ในแบบของคุณเอง ใครสนใจอยากรู้ลึกถึงปรัชญา ฮุกกะ ลองหาซื้อมาอ่านดูนะครับ
ลากอม (Lagom) ปรัชญาชีวิต สมดุลแห่งความพอดีของสวีเดน
ลากอม เป็น ปรัชญาชีวิต หรือ เทรนด์การใช้ชีวิตที่มาแรงพอสมควร สิ่งที่ ลากอม พูดถึงการปรับสมดุลในชีวิต การแสวงหาความพอดีที่ลงตัว ซึ่งชาวสวีดิชยึดถือมายาวนาน แต่เพิ่งมีการเผยแพร่แนวคิดนี้ออกไปทั่วโลกไม่นาน โดยเมื่อเทียบกับ ฮุกกะ ที่ให้ความสำคัญเรื่องห้วงอารมณ์หนึ่ง เช่น ความรู้สึกสบายใจ ทว่า ลากอม เป็นวิถีที่ใช้กับภาพใหญ่ เพื่อปรับปรุงชีวิตเราให้เข้าที่เข้าทาง
ความหมายของ ลากอม แปลได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น ความพอประมาณ ความเป็นเหตุเป็นผล ความเหมาะสม ความยั่งยืน ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ซึ่งมาจากสุภาษิตของสวีเดนที่ว่า Lagom är bäst หรือ ความพอดีนั้นดีที่สุด ตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย คือวัฒนธรรมการจับจ่ายทั้งสินค้าแฟชั่นและของกินของใช้ เสื้อผ้าของชาวสวีดิชก็จะโดดเด่นที่ความเรียบง่ายแต่ดูดี โทนสีขาวสว่างหรือเอิร์ธโทน ผลิตจากวัตถุดิบออร์แกนิค ใช้งานได้จริง เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และราคาจับต้องได้
ลินเนีย ดันน์ ผู้เขียนหนังสือ LAGOM ความพอดีนี่แหละดีที่สุด (Lagom: The Swedish Art of Balanced Living) มีใจความหลักที่สื่อออกมาคือ ถ้ารู้ว่าเท่านี้คือ พอ จะต้องการมากขึ้นอีกทำไม สำหรับการอยู่แบบลากอม จะให้ความสำคัญกับการแสดงความคิดเห็น ไม่แบ่งแยกระดับขั้นทั้งยังมีช่วงเวลาพักดื่มกาแฟเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในสถานที่ทำงานด้วย ขณะเดียวกัน การกินแบบลากอม ก็จะเสาะหาวัตถุดิบจากธรรมชาติ เน้นปรุงอาหารเอง และกินอย่างพอประมาณ ด้านความรู้สึกแบบลากอม คือ รักชีวิตกลางแจ้ง เดินเท้าแทนการนั่งรถ ะมุ่งเข้าหาธรรมชาติ
และการเข้าสังคมแบบลากอม จะชอบเข้าสมาคม มีความไว้วางใจกันและกัน พูดตรงไปตรงมา รวมทั้งหลีกหนีโลกทุนนิยมที่ฟุ้งเฟ้อ เพื่อชีวิตที่สงบสุข เป็นต้น
ซิสุ (Sisu) ปรัชญาชีวิต เรื่องความพยายามจากฟินแลนด์
ซิสุ ได้ชื่อว่าเป็นปรัญชาชีวิตจากฟินแลนด์ที่ทรงอิทธิพลมาก เพราะทำให้ประเทศเล็กๆอย่าง ฟินแลนด์ สร้างสิ่งมหัศจรรย์เหนือความคาดหมายหลายครั้ง อาทิ การทำสงครามชนะมหาอำนาจรัสเซียท่ามกลางฤดูหนาวอันโหดร้ายทั้งๆ ที่มีกองกำลังน้อยกว่านับ 10 เท่า , การปฏิรูปการศึกษาจากเดิมที่มีคุณภาพเพียงค่าเฉลี่ยจนกลายมาเป็นชาติที่มีการศึกษาดีที่สุดในโลก และชาติที่มีประชากรเพียง 6 ล้านคนนี้ ยังสามารถสร้างสินค้าทางวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่าง มารีเมกโกะ (Marimekko) กับ มูมิน (Moomin) ขึ้นมาได้
แนวคิดเรื่อง ซิสุ หมายถึง การมีจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ แข็งแกร่ง และมีความมานะอุตสาหะ รวมถึงการใช้ชีวิตอย่างเข้าอกเข้าใจในเงื่อนไขอันเลวร้ายของสภาพอากาศ ภูมิประเทศ แต่ก็ไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัดต่างๆ เช่น ดอกป๊อปปี้สีแดงอันที่ชือว่า อูนิกโกะ ของแบรนด์มารีเมกโกะ สื่อถึงความพยายามที่จะตกแต่งบ้านและชีวิตให้ผ่านพ้นหน้าหนาวอันมืดมนอย่างสดใส และ การเดินทางของ มูมิน ตัวการ์ตูนขวัญใจคนทั่วโลกที่ออกสำรวจทะเลและป่าเขา ด้วยความสนุกสนาน เป็นต้น
ดังนั้น ซิสุ จึงมีความแตกต่างจาก ฮุกกะ และ ลากอม ตรงที่ ไม่ใช่การแสวงหาความสุข แต่เป็นการยอมรับว่าชีวิตเต็มไปด้วยความท้าทายและเป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ผ่านทั้งช่วงเวลาอันสวยงามและโหดร้ายได้อย่างดี ในหนังสือ Finding Sisu เด็ดเดี่ยวแม้โดดเดี่ยว (Finding Sisu: In Search of Courage, Strength and Happiness the Finnish Way) ของ Katja Pantza ระบุว่า แม้รากของ ซิสุ จะมาจากความมุ่งมั่นและเน้นการลงมือปฏิบัติแบบชาวนอร์ดิกที่อยู่ในดินแดนอันหนาวเย็น แต่ทุกคนสามารถค้นพบ ซิสุ ในแบบของตัวเองได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด นี่หมายความว่า คุณต้องไม่เลือกทางที่ง่ายที่สุดเสมอไป
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น “ฮุกกะ” “ลากอม” และ “ซิสุ” คือปรัชญาที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นสากล สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกคน หนุ่มๆที่สนใจลองเรียนรู้ ปรัชญาชีวิตสแกนดิเนเวีย ดู ไม่แน่ว่ามันอาจจะทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นได้ง่ายๆเลยครับ
และใครที่สนใจเรื่อง 5 ปรัชญาชีวิต ที่น่าสนใจของชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความสุขได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เข้าไปอ่านได้เลยที่ http://bit.ly/2k8FyBh