คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่สามารถที่จะเลือกแนวทางการดำเนินชีวิตของตัวเองได้ และสำหรับใครก็ตามที่ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยมั่งคั่งตั้งแต่แรก ก็ขออย่าได้รู้สึกเสียกำลังใจหรือโทษโชคชะตาเพียงอย่างเดียว เพราะเราสามารถที่จะเลือกทางเดินให้ชีวิตของตัวเองที่จะนำไปสู่ความร่ำรวยได้โดยไม่ต้องพึ่งมรดก จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ลองติดตามอ่านบทความนี้ของ MenDetails ดูได้ครับ
ใช้จ่ายให้น้อยกว่าที่หาได้
นี่คือกฎทองสู่ความมั่งคั่งที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่ง หากคุณทำข้อนี้ไม่ได้ก็อย่าเพิ่งหวังที่จะไปสเต็ปต่อไป แล้วก็เลิกหวังที่จะมีความมั่งคั่งร่ำรวยในอนาคตได้เลย ใครที่ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยตั้งแต่ต้น ก็ควรขยันหมั่นเพียรทำงาน เมื่อได้รายได้มาก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้จ่ายให้น้อยกว่ารายได้ของตัวเองเพื่อให้มีเงินเหลือเก็บให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นจึงนำเงินที่เหลือนั้นไปจัดการให้มีดอกผลงอกเงบต่อไปในอนาคต หากคุณเป็นคนที่ “มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด” แล้วจะไปเอาเงินจากที่ไหนมาสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยในอนาคตกันล่ะครับ ดังนั้นจำไว้ว่าเราต้องใช้จ่ายให้น้อยกว่าที่หาได้เสียก่อนเป็นอันดับแรกสุดครับ
หยุดคิดสักนิดก่อนที่จะสร้างหนี้สิน
โลกเราทุกวันนี้หลีกเลี่ยงความรู้สึกอยากได้อยากมีอย่างคนอื่นเขาได้ยากมากนะครับ ยิ่งมี Social Media ทั้งหลายแหล่ที่บรรดาคนรวยๆ ไฮโซๆ ต่างออกมาโพสต์รูปโชว์ความรวยของตัวเองกันเป็นประจำ แน่นอนว่าเราเองก็ต้องมีความรู้สึกอยากจะได้ อยากจะมีแบบเขาบ้าง แต่ถ้าถึงขนาดจะต้องไปกู้ยืม หรือผ่อนส่ง เพื่อหาซื้อสิ่งของแพงๆ หรือไปพักโรงแรมหรูๆที่เมืองนอก แล้วสุดท้ายต้องมาเสีย “ดอกเบี้ย” ให้กับธนาคารเป็นจำนวนมหาศาล MenDetails มองว่าเส้นทางนี้ไม่สามารถที่จะนำไปสู่ความมั่งคั่งในอนาคตได้แน่นอน ดังนั้นขอให้หยุดคิดสักนิดก่อนที่จะก่อหนี้สินใดๆก็ตามเพียงเพื่อสนองความต้องการเพียงชั่วคราวของตัวเองนะครับ จำไว้ว่าถ้าคุณมีเงินเหลือมากขึ้น หนทางสู่ความมั่งคั่งก็จะสดใสขึ้นครับ
มี “เกราะป้องกันทางการเงิน” เผื่อกรณีฉุกเฉินเสมอ
“โลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน” คำพูดนี้สามารถท่องเอาไว้เตือนใจตัวเองได้เสมอ อย่าได้วางใจว่าเรามีงานที่มั่นคง มีรายได้ที่แน่นอน แล้วมันจะต้องเป็นแบบนี้เสมอไปนะครับ เราควรที่จะมีเกราะป้องกันทางการเงินเผื่อไว้ยามฉุกเฉิน อาจจะเป็นการตกงาน หรือการล้มป่วยลงกระทันหัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งสิ่งที่จะเป็น เกราะป้องกันทางการเงิน ให้เราได้ก็เช่น เงินฝากในธนาคารที่เราควรมีเผื่อไว้พอใช้จ่ายได้ประมาณ 6 เดือนในกรณีที่เราไม่มีรายได้ หรือประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่เราควรจะซื้อเก็บไว้พอประมาณเพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นในชีวิต เช่นเกิดอุบัติเหตุ หรือป่วยเป็นโรคร้ายแรงเป็นต้นครับ ถ้าหากคุณไม่มีเกราะ หรือกองหลังเหล่านี้เลย เมื่อสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น คุณก็จะไม่มีเงินมาช่วยเหลือคุณได้เลย และเมื่อนั้นความลำบากยากจนก็จะมาหาคุณทันทีครับ ดังนั้นจำไว้ว่า “มีเกราะป้องกันทางการเงินไว้เสมอ” นะครับ
สร้างหรือซื้อทรัพย์สินที่จะสร้างรายได้ให้เรา
เมื่อเราทำตามสเต็ปทั้งสามข้างต้นได้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “การมีเงินเหลือ” แต่มีเงินเหลืออย่างเดียวนั้นไม่พอ เราต้องรู้จักนำเงินที่เหลืออยู่นั้นออกไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้เงินนั้นงอกเงยเพิ่มพูนหรือที่เรามักเรียกวิธีการแบบนี้ของคนที่มีฐานะดีว่าการ “ใช้เงินต่อเงิน” เราอาจจะเริ่มต้นด้วยเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่น แต่การเริ่มต้นด้วยก้าวเล็กๆย่อมดีกว่าการไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักหาความรู้ทางการเงินและการลงทุนมาติดตัวไว้ เพราะการลงทุนนั้นย่อมมี ‘ความเสี่ยง’ อยู่ภายในด้วยเสมอ ซึ่งความรู้ของเราจะช่วยทำให้ผลกระทบจากความเสี่ยงเหล่านั้นลดลง คนที่เสี่ยงที่สุดคือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังลงทุนกับอะไรอยู่ ซึ่งทรัพย์สินที่จะสามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับเราได้นั้นมีอยู่มากมาย เช่น หุ้นกู้ หรือพันธบัตรที่จ่ายดอกเบี้ย, กองทุนรวมทั้งตราสารหนี้ และตราสารทุน ไปจนถึงขั้น Advance อย่าง หุ้นสามัญ หรือ การซื้อบ้าน,คอนโดฯ เพื่อให้เช่า สำคัญที่สุดคือการมีวินัยทางการเงิน และการหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้เราประสบความสำเร็จในการลงทุนครับ
คนที่ไม่ได้เกิดมา “รวย” ตั้งแต่ต้นนั้น ย่อมจะต้องอาศัยความขยันหมั่นเพียรและความความมีวินัยอย่างต่อเนื่องยาวนานในการสร้างฐานะและสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง เราเชื่อว่าผู้ชายที่ได้อ่านถึงตรงนี้ทุกคนจะรับรู้ได้ถึงกำลังใจ และแรงผลักดันที่ MenDetails อยากจะส่งผ่านไปให้ และหวังว่าผู้ชายทุกคนที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวจะลองนำสเต็ปเหล่านี้ไปปรับใช้กับชีวิตของตัวเองเพื่อพัฒนาให้ตัวเองเป็น “ผู้ชายที่ดีขึ้นกว่าเดิม” กันทุกคนนะครับ