หนึ่งในเจ้าพ่อด้านการออกแบบเสื้อผ้า Streetwear ที่เริ่มต้นออกแบบเสื้อยืดครั้งแรกตั้งแต่อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ด้วยการนำเอารูปเพื่อนของเขาไป Photoshop และวางขายในโรงเรียนจนได้ฉายาว่า “Mike Merchandise” ก่อนที่จะเริ่มก้าวเข้าสู่วงการเสื้อผ้า Streetwear ด้วยไอเดียที่ไม่เหมือนใครอย่างการหยิบเอาวัสดุสะท้อนแสงมาจับยัดลงในเสื้อผ้าและถุงเท้าจนถือกำเนิดเป็นแบรนด์นามว่า “ICNY” แต่กลับถูกบีบให้ออกจากแบรนด์ของตัวเองในเวลาต่อมา แต่แน่นอนครับว่า “ผู้ชายคนนี้สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น” เขาเลยกลับมาอีกครั้งด้วยแบรนด์ใหม่ และยิ่งใหญ่กว่าเดิมในชื่อว่า “Chinatown Market”
อะไรคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Chinatown Market
Mike Cherman : มันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมถูกบีบให้ออกจากแบรนด์ที่ตัวเองสร้าง ผมเลยย้ายตัวเองมาอยู่ฝั่ง West Coast (California) ซึ่ง ณ เวลานั้น เพื่อนผมอยากจะผลิตเสื้อยืดสักตัวที่ไม่เหมือนใคร เรานั่งประชุมกันแล้ว Chinatown Market ก็คลอดออกสู่ตลาด
แล้วทำไมต้องตั้งชื่อว่า Chinatown Martket ด้วยหล่ะ
MC : เพราะงานออกแบบของผมส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่ผมพบเจอมาก่อนหน้า ซึ่งส่วนมากผมก็มักจะเจอใน Chinatown Martket ที่ถือเป็นแหล่งขายของที่เยอะมากที่สุดแห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด “I LOVE NY” หรือของหลุด QC ต่างๆ คล้ายๆ ตลาดนัดในกรุงเทพฯ สักที่ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ละ แต่นั่นแหละ Chinatown คือที่ที่สร้างแรงบันดาลใจในงานออกแบบของผมมากที่สุด แต่ผมไม่ได้หยิบเอา Culture ของชาวจีนมาใส่ในงานออกแบบนะ เพราะตัวผมพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ให้มากที่สุดอยู่แล้ว แค่หยิบเอากลิ่นไอและบรรยากาศของ Chinatown มาใส่ในตัวผลงานเท่านั้น ซึ่งถ้าดูจากผลงานส่วนใหญ่ของแบรนด์ คุณจะรู้เลยว่า มันไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกับความเป็น “จีน” สักเท่าไรเลย
ช่วงหลังมานี้ เราได้เห็นผลงานการออกแบบที่หยิบสิ่งต่างๆ ในประเทศไทยไปวางในตัวสินค้า เราจะได้เห็นอะไรแบบนั้นในงานของคุณบ้างมั้ย
MC : แน่นอนว่า “ไม่” ผมจะไม่หยิบอะไรในประเทศไทยไปใส่ในตัวงานแบบตรงๆ แน่นอน แต่ผมเห็นความเจ๋งอย่างหนึ่งนะ วันก่อนผมเดินทางไปที่ตลาดรถไฟ พ่อค้าแม่ค้าที่นั้นถือว่าสุดยอดเลยนะ เขารู้เกือบทุกอย่างที่ผมรู้ ไม่ว่าจะเรื่องใครออกแบบ ราคากลางที่ขายกันใน eBay มันเจ๋งมากๆ ที่โลกใบนี้กำลังจะหลอมรวมกันเพราะ Internet สิ่งนี้คือสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมจริงๆ นะ ไม่ใช่พวกถุงสายรุ้งอะไรนั่นหรอก
เราเห็นงานออกแบบที่ไม่เหมือนใครจากคุณมามากพอตัว เช่นการหยิบเอาโลโก้ Nike มาวางบนรองเท้า Converse รวมถึงโลโก้ Smiley Face มันมีความหมายลึกๆ ที่คุณอยากจะบอกหรือป่าว
MC : สิ่งที่ผมทำคือการหยิบเอา 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่มาควบรวมกัน ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจจะวางขายที 2-3 พันคู่อยู่แล้ว แต่เราต้องการสร้างกระแสอะไรบางอย่าง ทำให้ผู้คนจดจำเรา และตัวผมเองจริงๆ แล้วอยากกระตุ้นให้ทุกคนออกมาทำอะไรด้วยตัวเอง ลงสร้างอะไรใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นด้วยมือของคุณเอง แต่ก็นั่นแหละ เราสร้างกระแสจนมีของปลอมออกมาวางขายเรียบร้อยละ (ฮาๆ) สิ่งที่ผมอยากจะหยิบยื่นให้กับคนอื่นๆ ก็คือ “สร้างแรงบันดาลใจให้แต่ละคนออกมาทำในรูปแบบของตัวเอง”
อนาคตของวงการเสื้อผ้าในมุมมองของคุณคืออะไร
MC : จริงๆ ไม่มีใครกล้าออกมาพูดได้เต็มปากเต็มคำหรอกครับว่า อนาคตของวงการเสื้อผ้าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่สำหรับผมแล้ว “มันคือการสร้างไอเดียใหม่ๆ” มากกว่า เราสร้างไอเดียใหม่ๆ แล้ววางขายออกไปสู่ตลาด มันอาจจะเป็นเพียง 1 ชิ้น หรือ 2 ชิ้นก็ได้ แต่มันเป็นการสร้างกระแส ขายไอเดียที่สดใหม่ ที่ไม่มีใครนึกถึงมาก่อน แน่นอนมันมีความสนุกในแนวคิด แต่ก็มีข้อจำกัดอะไรหลายๆ อย่างด้วยเช่นเดียวกัน
เราจำได้ว่าคุณเคยพูดถึงแบรนด์ Chinatown Market ว่า มันอาจจะหายไปจากโลกใบนี้ก็เป็นได้ เลยอยากรู้ว่า “ถ้ามันหายไปจริงๆ คุณจะไปทำอะไร”
MC : ง่ายมาก “ผมจะสร้างแบรนด์ใหม่” และถ้าแบรนด์ใหม่ของผมล้มลงอีก ผมก็จะสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาอีก เพราะมันคือสิ่งที่ผมรัก ผมจะล้มแล้วลุกขึ้นใหม่และทุกครั้งที่ลุกขึ้น ผมจะแกร่งกว่าเดิม นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกกับเด็กรุ่นใหม่ทุกๆ คนครับว่า “อย่ากลัวที่ล้มเหลว และอย่ากลัวที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก” โดยเฉพาะเด็กๆ ในแถบเอเชีย เพราะส่วนมากจะอยู่กับครอบครัว และมีพ่อแม่เป็นคนคอยชี้นำเสมอๆ ดังนั้นถ้าคุณอยากเรียนรู้ อยากสร้างอะไรเจ๋งๆ บนโลกใบนี้ “อย่ากลัวที่จะล้ม”
กับผู้ชายที่สะกดคำว่า “แพ้” ไม่เป็นครับ เพราะไม่ว่าเขาจะล้มลงอีกกี่ครั้งก็ตาม เขาก็จะยังคงทำในสิ่งที่เขารักตั้งแต่อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น แต่ก็นั่นแหละครับ “คุณค้นหาสิ่งที่คุณรักเจอแล้วหรือยัง” และถ้าคุณค้นเจอแล้ว เราแนะนำให้คุณพุ่งชนมันให้สุดตัวไปเลย
บทสัมภาษณ์ครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยครับถ้าไม่ได้ทีม SEEK Thailand เป็นผู้จัดสรรเวลาอันมีค่าของ Mike Cherman มาให้เรา ต้องขอบคุณอย่างยิ่งมา ณ ที่นี้ด้วย ส่วนใครที่ชื่นชอบแบรนด์เสื้อผ้าแนว Custom ก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้าน SEEK Thailand ได้เลย