กางเกงยีนส์ (Jeans)
อย่างแรกเลยที่เรานึกถึง และเป็นอะไรที่ชัดเจนอย่างมากนั่นคือ “กางเกงยีนส์” นี่แหละครับ ยีนส์ยุคแรกเกิดขึ้นในช่วง “ตื่นทอง” ของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยุค 1870 และยีนส์ยี่ห้อแรกของโลกอย่าง Levi’s ก็ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้นี่เอง ด้วยความทนทานของเนื้อผ้าทำให้คนงานเหมืองทองนิยมใส่กันแพร่หลายในยุคนั้น กาลเวลาผ่านไป 100 กว่าปี กางเกงยีนส์ก็มีวิวัฒนาการและผ่านวัฒนธรรมหลากหลายในแต่ละยุคสมัย แต่ความคลาสสิคของกางเกงยีนส์ไม่เคยหายไปไหน ทุกวันนี้กางเกงยีนส์ยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆในการแต่งตัวผู้ชายทุกวัย และ MenDetails เชื่อว่ามันจะยังเป็นเช่นนี้ไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว เผลอๆ “ยีนส์” อาจไม่มีวันตายไปจากโลกนี้เลยก็เป็นได้นะครับ
เสื้อฮู้ดดี้ (Hoodie)
ใครที่เคยดูหนังย้อนยุคของทางฝั่งตะวันตกคงจะพอเคยเห็นชุดของเหล่า “นักบวช” ในศาสนาคริสต์สมัยยุคกลางที่มีเรื่องราวของเหล่ากษัตริย์และอัศวินทั้งหลายกันมาบ้าง ชุดของนักบวชเหล่านี้จะมี “ผ้าคลุมศีรษะ” ติดอยู่กับตัวเสื้อด้านหลัง เพื่อให้สามารถดึงขึ้นมาคลุมศีรษะของนักบวชได้ นั่นแหละครับคือที่มาของเสื้อที่เรียกว่า “ฮู้ดดี้” (Hoodie) หรือเสื้อสเวตเตอร์กันหนาวที่มีฮู้ดด้านหลัง ซึ่งถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมาเป็นหลายร้อยปีแล้ว แต่เสื้อแบบนี้ยังคงได้รับความนิยมจากผู้คนในปัจจุบัน เนื่องด้วยประโยชน์ในการใช้สอยที่สามารถดึงมากันแดดกันฝนเบาๆ ได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องพกร่มนั่นเอง

นักบวชในยุคกลาง กับเสื้อ Hoodie ที่พวกเขาใส่กัน
รองเท้าผ้าใบ (Plimsoll, Sneaker)
ประวัติศาสตร์ของรองเท้าผ้าใบพื้นยาง ย้อนไปตั้งแต่ยุคราวทศวรรษ 1870 ใกล้เคียงกับการกำเนิดขึ้นของกางเกงยีนส์ โดยเริ่มแรกในฝั่งยุโรปเรียกรองเท้าแบบนี้ว่า “พลิมโซล” (Plimsoll) ซึ่งหมายถึงเส้น Water line บนเรือเดินสมุทรที่เป็นจุดสูงสุดที่น้ำจะขึ้นได้ถึง หากน้ำเลยจุดนี้ไปก็มีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าเรือ คล้ายกับรองเท้าผ้าใบที่หากเหยียบน้ำที่ลึกเกินไปก็จะทำให้น้ำซึมเข้าสู่เท้าได้นั่นเอง ต่อมาเมื่อรองเท้านี้แพร่หลายสู่สหรัฐอเมริกา ทางอเมริกาเรียกรองเท้าแบบนี้ว่า “สนี้กเกอร์” (Sneakers) เนื่องจากคนที่ใส่รองเท้าผ้าใบพื้นยางจะเดินได้เงียบมากจนเหมือนการย่องเบา (Sneaking in) เมื่อเทียบกับคนที่ใส่รองเท้าหนังนั่นเอง รองเท้าผ้าใบยี่ห้อแรกๆของโลกอย่าง Keds และ Converse เริ่มผลิตรองเท้าผ้าใบออกขายราวต้นศตวรรษที่ 1900 สิ่งที่เหลือหลังจากนั้นคือความอมตะของ “รองเท้าผ้าใบ” ที่ครองใจผู้ชายทุกยุคทุกสมัยมาจนถึงทุกวันนี้แม้เวลาจะผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วก็ตาม

รองเท้าผ้าใบยุคแรกๆ จาก Lacoste

James Dean กับรองเท้า Converse Jack Purcell อันโด่งดัง
รองเท้าหนังอ๊อกซ์ฟอร์ด ( Balmoral shoes, Oxford shoes)
MenDetails ได้เคยพูดถึงประวัติความเป็นมาของรองเท้าหนังทรง Oxford หรือ Balmoral กันไปแล้ว และเราก็ยังอยากจะขอย้ำกันอีกสักครั้งว่า นี่คือรองเท้าหนังที่มีความสุภาพและมีสไตล์ที่เหมาะสมที่สุดที่ผู้ชายจะสวมใส่สำหรับงานที่เป็นทางการ เช่นงานแต่งงาน งานรับปริญญา ฯลฯ Balmorals หรือ Oxfords คือรองเท้าที่มีประวัติความเป็นยาวนานย้อนไปตั้งแต่ศตวรรษ 1800 เริ่มตั้งแต่ที่ Scotland และ Ireland ไปจนได้รับความนิยมเป็นวงการในหมู่นักศึกษารั้วมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ กระทั่งแพร่เข้าสู่อเมริกาในเวลาต่อมา และรองเท้าชนิดนี้ก็ยังคงเป็นรองเท้าหนัง Dress Shoes ยอดนิยมในระดับสากลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นผู้ชายคนไหนที่คิดหรือกำลังมองหารองเท้าหนัง dress shoes ดีๆที่มีรูปทรงที่ถูกต้องตามหลักสากลนิยมแล้วล่ะก็ MenDetails เชื่อว่ารองเท้าหนังทรงสุภาพอย่าง Oxford Cap Toe คือรองเท้าหนังที่คุณควรมีครับ

กษัตริย์เอ๊ดเวิร์ด ที่7 ฉายพระรูปหน้าปราสาท Balmoral

Oxford Cap Toe Shoes จาก Mango Mojito

Oxford Cap Toe Shoes จาก Mango Mojito
หมวกแก๊บ (Baseball Cap)
มีเสื้อ มีกางเกง มีรองเท้า แล้วก็ต้องมี “หมวก” ให้ครบเครื่องแต่งกายตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเลย และหมวกชนิดที่ผู้ชายเรายังคงนิยมใส่กันอยู่แพร่หลายในปัจจุบันมากที่สุดก็คงจะเป็น Baseball cap หรือ หมวกแก๊บ ที่เราคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี หมวกแก๊บแบบนี้มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ราวปี 1860 โดยเรียกกันว่า “Brooklyn-style” ซึ่งเริ่มต้นใส่โดยทีมเบสบอล Excelsior of Brooklyn ในยุคนั้น ต่อมาก็มีวิวัฒนาการ และได้รับความนิยมใส่กันในหมู่ทีมเบสบอลทั่วอเมริกา จนมาถึงปัจจุบันผ่านไปร้อยกว่าปีแล้ว แต่หมวกแก๊บหรือ Baseball Cap ก็ยังคงเป็นหมวกที่ผู้ชายคุ้นเคยมากที่สุดและใส่ได้สะดวกสบายที่สุด ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ไม่เคยล้าสมัย สามารถใส่ได้ในวันสบายๆได้แทบทุกโอกาส ล่าสุดหมวกแก๊บยังเป็นหมวกที่ร่วมในแคมเปญรณรงค์ “Make America Great Again” ของ Donald Trump อีกด้วย

Excelsior Brooklyn Baseball Club with ‘Brooklyn -Style’ cap
ความจริงยังมีเสื้อผ้าของผู้ชายอีกมากมายหลายชนิดที่มีอายุเกินร้อยปีกันแล้วในปัจจุบัน แต่ผู้ชายเราก็ยังสามารถหยิบจับมาเป็น “สไตล์” ได้โดยไม่มีคำว่าล้าสมัย สำคัญคือการรู้จัก Mix&Match ให้ได้ส่วนผสมที่ลงตัวกับตัวเอง ใส่แล้วมั่นใจในตัวเอง นั่นแหละครับคือสิ่งที่สำคัญในการแต่งตัวของผู้ชาย MenDetails นะครับ