ความรักของมนุษย์มีความสลับซับซ้อนมากกว่าสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ นั่นเพราะเรามีเรื่องของศีลธรรม, ความซื่อสัตย์ และกฎเกณฑ์ของสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ชายทุกคนย่อมคาดหวังว่าเมื่อเรามีคู่รัก เราย่อมเป็น “เจ้าของ” คนรักของเราด้วย และคงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ถ้าหากผู้หญิงที่เป็นคู่รักของเราจะนอกใจหรือแอบไปออกเดตกับคนอื่นโดยที่ยังมีเราอยู่
แต่ทว่าความเข้มข้นของความคาดหวังนั้นย่อมแตกต่างกันไปในตัวผู้ชายแต่ละคน หากความคาดหวังนั้นสูงมากก็อาจส่งผลให้เรากลายเป็น “ผู้ชายขี้หึง” ในความคิดของผู้หญิง ซึ่งนั่นอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่นัก วันนี้ MenDetails จะมาพูดถึงเรื่องของความขี้หึงของผู้ชายและวิธีการปรับตัวเองให้เป็นคนขี้หึงให้น้อยลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อมุ่งหวังให้เราเป็นผู้ชายที่ดีขึ้นกว่าเดิมกันนะครับ
ผู้ชายที่ “ขึ้หึงขั้นสุด” ลึกๆแล้วไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
แรกเริ่มต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ผู้ชายหวงแฟน” กับ “ผู้ชายขี้หึง” นั้นแตกต่างกันนะครับ ผู้ชายที่ขี้หึงมากๆ จะคอยกำหนดว่าแฟนตัวเองต้องรายงานตัวกับเขาเป็นประจำ ต้องบอกเสมอว่าอยู่ที่ไหนทำอะไร กลับผิดเวลาเป็นไม่ได้เด็ดขาด และต้องมีข้อมูลของเพื่อนร่วมงานทุกๆคนที่ฝ่ายหญิงคบค้าสมาคมด้วย และอื่นๆอีกมากมายเพื่อคอย “เช็ค” ฝ่ายหญิงทุกฝีก้าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ “มากเกินไป” จนอาจทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกอึดอัด ยิ่งถ้าเมื่อไหร่เธอเกิดพลาดการรายงานตัวไป แล้วโดนผู้ชายขี้หึงระเบิดอารมณ์ใส่หาว่าเธอนอกใจ ก็จะยิ่งพาลให้สถานการณ์เลวร้ายกันเข้าไปอีก
อันที่จริงผู้ชายที่มีนิสัยขี้หึงสุดๆนั้น ลึกๆแล้วเพราะเขารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง และมีความภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem) ที่น้อยเกินไป เขามักกลัวว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นมันไม่ดีพอที่จะทำให้ฝ่ายหญิงซื่อสัตย์ต่อตัวเขาได้โดยไม่ต้องโดนควบคุม แต่หารู้ไม่ว่า ยิ่งควบคุมฝ่ายหญิงมากเท่าไหร่ กลับจะยิ่งทำให้พวกเธอสะสมความอึดอัดและความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีมนุษย์ที่ไหนที่ชอบให้ใครมาควบคุมเรามากเกินไป นิดๆหน่อยๆนั้นพอได้ แต่ต้องไม่มากเกินไปครับ
ลดความขี้หึง ด้วยการมุ่งพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น
“เพราะความขี้หึงต้องใช้เวลา” ผู้ชายขี้หึงมักจะมีเวลาว่างที่จะคอยนึกถึงเรื่องราวหรือสถานการณ์ที่ฝ่ายหญิงจะมีโอกาสนอกใจ หรือแอบไปจิ๊จ๊ะกับผู้ชายอื่น รวมทั้งมีเวลาว่างที่จะวางแผนว่าจะต้องเช็คยังไงให้รอบคอบที่สุด เพื่อที่จะฟินกับความขี้หึงของตัวเองให้ได้ ซึ่งนั่นแปลว่าจุดร่วมหนึ่งที่ผู้ชายขี้หึงมักมีด้วยกันนั่นก็คือ พวกเขามักมี “เวลาว่าง” มากเกินไป
ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่ไม่ได้รู้สึกว่าความขี้หึงจะเป็นปัญหาอะไร คุณสามารถหยุดอ่านบทความนี้ไปเลยก็ได้ แต่หากคุณเป็นผู้ชายที่รู้ตัวว่าความขี้หึงของตัวเองกำลังทำร้ายชีวิตคู่ และอยากที่จะลดความขี้หึงของตัวเองให้น้อยลง เทคนิคง่ายๆที่ MenDetails อยากให้คุณทำก็คือ “ใช้เวลามุ่งพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม” ด้วยการเอาเวลาว่างไปทำอย่างอื่นที่มีสาระและจะพัฒนาตัวเองให้มีคุณค่ามากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เช่น ตั้งใจทำงานให้ดีขึ้น, มุ่งมั่นกับเป้าหมายการสร้างธุรกิจของตัวเอง, ศึกษาค้นคว้าหาวิธีการลงทุนใหม่เพื่อฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น, เล่นดนตรีหรือกีฬาให้เก่งขึ้น และอื่นๆอีกมากมาย คุณจะพบว่าคุณไม่มีเวลาว่างมานั่งฟุ้งซ่านกับความขี้หึงของตัวเอง และที่สำคัญคือจะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น พัฒนาขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มความมั่นใจในตัวเองไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ลดความขี้หึง ด้วยการท่องคำว่า “ช่างมันเถอะ” ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
“ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีทุกข์” เราเชื่อว่าทุกๆคนคงเคยได้ยินประโยคนี้กันเป็นอย่างดี แต่น่าแปลกที่น้อยคนนักที่จะเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ เมื่อเกิดความทุกข์ขึ้นกับตัวเอง “ความขี้หึง” ก็คือความทุกข์ประเภทหนึ่งที่เกิดจากการมีความรัก ผู้ชายที่รู้สึกหึงหวงจะมีความรู้สึกไม่สบายใจ, กระวนกระวายใจ และเฝ้าคิดวนเวียนว่า เธออยู่ไหน? เธอทำอะไร? เธออยู่กับใคร? สุดท้ายก็ไประเบิดอารมณ์เดือดดาลใส่คนรักของตัวเองเมื่อเธอทำตัวไม่ถูกใจหรือไม่คอยรายงานตัวกับคุณอย่างที่คุณต้องการ ซึ่งนั่นไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว
การมุ่งพัฒนาตัวเองคือหนทางที่จะทำให้คุณมีเวลาว่างมานั่งขี้หึงน้อยลง แต่อีกจุดหนึ่งคือในใจของเราจะต้องรู้จักที่จะท่องคำว่า “ช่างมัน” ให้บ่อยขึ้น ปล่อยวางความคิดฟุ้งซ่านต่างๆให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ทำความเข้าใจว่าความพยายามควบคุมคนอื่นนั้นไม่ได้ส่งผลดีอะไรกับชีวิตคู่เท่าไหร่นัก และหันมาทำสิ่งดีๆให้ตัวเองและชีวิตคู่ของตัวเอง เพื่อให้เธอรู้สึกดีและอยากที่จะอยู่กับคุณตลอดไปจนไม่รู้สึกว่าจะต้องนอกใจคุณไปไหนจะดีกว่าครับ
หวงแฟนแบบน่ารักกำลังดี
อย่างที่เราได้บอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่า “ผู้ชายหวงแฟน” กับ “ผู้ชายขี้หึง” นั้นแตกต่างกัน แม้การเป็นคนขี้หึงมากเกินไปนั้นไม่ใช่เรื่องดี แต่การที่จะเป็นผู้ชายที่ “ไม่หวงแฟนเลยแม้แต่นิดเดียว” ก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน (บอกแล้วว่าเป็นคนน่ะมันยาก) สิ่งที่เราทำได้ก็คือเลือกเดินทางสายกลาง ด้วยการแสดงความ “หวง” ฝ่ายหญิงบ้างในโอกาสที่เหมาะสม เช่น หากเธอพูดชมผู้ชายคนอื่นให้คุณได้ยิน ก็ลองบอกให้เธอรู้ว่าคุณน้อยใจที่เธอชมผู้ชายอื่นมากเกินไป หรือโทรเช็คบ้างเป็นครั้งคราวในเวลาที่เธอกลับบ้านค่ำ ให้เธอรู้ว่าคุณเป็นห่วง เป็นต้น การกระทำที่บ่งบอกให้เธอรู้ว่าคุณหวงและเป็นห่วงเธอแบบพอดีๆ เช่นนี้ ถือเป็นการเลือกเดินทางสายกลางที่ดูดีกว่า “ไม่หวงเลย” หรือ “ขี้หึงสุดๆไปเลย” นั่นเองครับ
บทสรุป
ความคาดหวังต่อความซื่อสัตย์ในความรักนั้นเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ทุกๆคนนั้นมีอยู่ แต่ถ้าหากว่าเรามีมากเกินไป อาจกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายชีวิตรักของตัวเองได้ในที่สุด รวมทั้งอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณมีความภาคภูมิใจและความมั่นใจในตัวเองน้อยเกินไปอีกด้วยครับ MenDetails เชื่อว่าความขี้หึงที่มีมากเกินไป ไม่ได้ช่วยทำให้ผู้หญิงอยากอยู่กับคุณมากขึ้นแต่อย่างใด กลับกันจะยิ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและอยากจะไปจากคุณมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เราจึงอยากแนะนำให้ผู้ชายขี้หึงหันมาโฟกัสในเรื่องของการพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ชายที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มคุณค่าและความมั่นใจในตัวเองในระยะยาว และเปลี่ยนตัวเองจาก “ผู้ชายขี้หึง” กลายเป็นผู้ชายที่หวงแฟนแบบน่ารักๆจะเป็นการดีกว่ากันเยอะเลยครับ