ถือเป็นบทความต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ซึ่ง MenDetails พาทุกท่านไปเลือกผ้าและแนะนำห้องเสื้อจากฮ่องกงแห่งนี้ ให้ได้รู้จักกัน ครั้งนี้ จะเป็นการลองตัวครั้งแรก กับ Jacket และกางเกงของ The Coller ฮ่องกง หลังจากที่เรารอการตัดเย็บขึ้นโครงโดยรวมมาประมาณ 2-3 เดือนด้วยกัน จนได้เห็นทรง Jacket ครั้งแรก รวมถึง จะได้ลองตัว เพื่อปรับรายละเอียดต่าง ๆ ให้เข้ากับร่างกายเรามากขึ้น เพราะแน่นอนครับว่า ฟิตติ้งรอบแรกนั้น อาจไม่พอดีตัวสักเท่าไรนัก แต่ถ้าใครไม่อยากอ่านจนจบ เราขอ Spoil ล่วงหน้าเลยก็ได้ครับว่า นี่ถือเป็น Fitting ที่ลงตัวมากเลยทีเดียว และออกมาสวมงามกว่าทีคิดไว้เยอะเลยครับ ส่วนใครอยากอ่านต่อ เลื่อนตามลงมาได้เลย
Holland & Sherry Fabric
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเลือกตัดเป็นผ้าจาก Holland & Sherry เพราะเคยเลือกตัดผ้าจากเล่ม Crispaire มาก่อนหน้านี้ ซึ่งค่อนข้างชื่นชอบ Texture รวมถึงความยับยากของตัวเนื้อผ้า แต่เล่มที่เรายังไม่เคยได้มีโอกาสลองใช้งานเลย น่าจะเป็นผ้าจากเล่ม Crystal Spring ซึ่งถือเป็นเล่มผ้าสุดพิเศษของทางแบรนด์ และผลิตออกมาในจำนวนจำกัดอีกด้วย ซึ่งตอนนี้เราได้เห็นจากเล่มผ้านั้น ตัวผ้ามีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่พอกลายเป็นเสื้อทั้งตัวแล้ว ยิ่งออกมาสวยงามกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ส่วนผ้าสำหรับกางเกงนั้น ได้รับคำแนะนำให้เลือกเป็น Crispaire เพราะด้วยน้ำหนักและผิวสัมผัส เหมาะกับการตัดเป็นกางเกงมากทีเดียว
กางเกงเอวสูง พร้อมจีบคู่
สำหรับกางเกงนั้น เราเลือกเป็นผ้า Crispaire ซึ่งมีน้ำหนักที่ค่อนข้างดี อยู่ทรง และทางแบรนด์ก็ตัดมาได้เข้าทรงประมาณหนึ่งเลยครับสำหรับ Fitting แรก ซึ่งแน่นอนว่ารอบแรกของทุก ๆ เจ้า ไม่ได้หมายความว่าจะพอดีเสมอไป อย่างเช่นตัวนี้ของทาง The Coller ก็จะมีจุดที่ต้องปรับอยู่ในมุมมองส่วนตัวเช่น ความตึงของช่วงขาด้านนอกที่อาจจะหย่อนไปสักหน่อย หรือปริมาณผ้าที่หย่อนช่วงสะโพกจนส่งให้ช่วงเป้ามีรอยยับเล็กน้อย และความยาวที่อาจจะยาวเกินไปสักนิด แต่โดยรวมถือว่าตัดมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ สำหรับ First Fitting
สิ่งหนึ่งที่ทางแบรนด์เลือกเพิ่มเติมคงเป็นช่วงความกว้างของปลายขา ที่ทาง The Coller อยากปรับให้กว้างขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ตัวกางเกงมีความสมส่วนมากขึ้นอีกนิด เพราะตอนนี้ดูจะสอบเกินไปสักหน่อย
Florentine Cut
สำหรับการตัดแบบ Florentine Cut นั้น หลาย ๆ ท่านน่าจะพอทราบกันอยู่บ้างแล้วว่า การตัดเย็บได้จะมีเส้นเกล็ดด้านหน้า เหมือนกันกับสไตล์ Neapolitan Cut แต่จะเป็นการตีเกล็ดบริเวณด้านข้างลำตัวแทน หรือที่เราเรียกกันว่า Side Dart ซึ่งจะมีผลมากเป็นพิเศษ เมื่อเราตัดกับผ้าที่มีลวดลายค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นจึงเหมาะกับผ้าที่เราเลือกค่อนข้างมาก กับลาย Houndstooth ขนาดใหญ่ ทำให้ได้เห็นลายผ้าแบบเต็ม ๆ ตา ไม่มีการต่อลายจากด้านหน้าให้ขัดใจ
บอกเลยว่า การต่อลายของ The Coller นั้น ทำได้ค่อนข้างเนียนตามาทีเดียวครับ ยิ่งด้านหน้าไม่มี Front Dart ด้วยแล้ว ยิ่งสบายตาขึ้นไปอีก ส่วนที่เราค่อนข้างชื่นชอบคือช่วงหัวแขนและความ Slope ของช่วงไหล่ ที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ตั้งแต่ Fitting แรก แต่อาจมี Drape ช่วงอกเยอะไปสักนิด ทว่า โดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ นะครับสำหรับ First Fitting ที่มีลายเยอะขนาดนี้
Fitting เดียวน่าจะเพียงพอ
หากดูจากภาพรวมของงานที่เห็นในรอบนี้ ถือว่า Fitting แค่ครั้งเดียว น่าจะเพียงพอต่อการส่งมอบได้เลยนะครับ ยิ่งเส้นสายช่วงอกไปสู่ปลายหัวไหล่ กับสไตล์แบบ Extended Shoulder ตามแบบฉบับ Florentine Cut นั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างดี (สังเกตความโค้งของช่วง Lapel กับเส้นโค้งของช่วงหัวแขน จะมีองศาที่สอดรับกันพอดี) เรียกว่าเป็น Fitting ที่น่าประทับใจ แต่ในรอบนี้ ยังไม่มีการแปะชิ้น Chest Canvas มานะครับ เลยไม่ได้เห็นทรงของ Jacket แบบ 100% แต่เชื่อลึก ๆ ครับว่า น่าจะออกมาดีแน่นอน เพราะในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ทาง The Coller ได้ปรับเปลี่ยนรายละเอียดงานตัดเย็บ และพัฒนาร่วมกับทาง Lucamuseo ซึ่งเห็นความต่างได้พอสมควรเลยครับ จากช่วงแรก ๆ ของทางร้าน จนถึงปัจจุบัน และตัวที่เราได้ลอง Fitting ในครั้งนี้ ก็ได้ Know How ของ Lucamuseo มาผสมผสาน จนกลมกล่อมเลยทีเดียว
ถือเป็นอีกหนึ่งห้องเสื้อจาก ฮ่องกง ที่น่าสนใจมาก ๆ นะครับกับ The Coller ซึ่งจะเปิดรับ Order จาก Trunk Show ที่จัดในไทย ทุก ๆ 2-3 เดือนเสมอ ๆ หากใครสนใจก็ลองทัก DM ไปใน Instagram ของทางร้านได้เลยนะครับ หรือรอติดตามตารางการ Trunk Show บน Instagram ได้เช่นเดียวกัน ไว้จะเอาภาพ Final Product มาฝากกันนะครับ บอกเลยว่าอยากได้มาใส่ละ