หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คลั่งไคล้ในโลกแห่งความเร็วก็น่าจะเคยเห็นรหัส Type R และโลโก้ H สีแดงผ่านตากันมาบ้าง นี่คือสองสิ่งที่บอกว่ารถ Honda ตรงหน้าคุณนั้นไม่ใช่รถบ้านธรรมดาทั่วไป แต่มันคือสัญลักษณ์ของพละกำลังและสมรรถนะขั้นสูงที่มีจุดเริ่มต้นจากประสบการณ์ด้านการมอเตอร์สปอร์ตในช่วงยุค 90 รหัส Type R ถูกใช้ครั้งแรกกับ Honda NSX ในปี 1992 และถูกส่งต่อมาถึง Honda Civic ซึ่งเป็น Type R เพียงโมเดลเดียวที่ยังทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน
กว่า 26 ปี กับ 6 เจเนอเรชันที่ Civic Type R โลดแล่นอยู่บนถนนสายยานยนต์ สายพันธุ์นี้ไม่เคยลืมตัวตนดั้งเดิมคือเครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า และส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา สามอย่างนี้เปรียบเสมือนเอกลักษณ์ประจำตัวที่ส่งมอบความตื่นเต้นเร้าใจให้กับทุกคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ในฐานะที่ Civic Type R เป็นหนึ่งในยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่มีแฟนคลับติดตามอยู่ไม่น้อย MenDetails อยากชวนมาทำความรู้จัก ประวัติ Honda Civic Type R ตั้งแต่เจเนอเรชันแรกถึงปัจจุบันให้มากขึ้นกันครับ รับประกันว่าถ้าได้รู้จัก คุณจะหลงรักรถตระกูลนี้มากขึ้นแน่นอน
Honda Civic Type R EK9 (1997 – 2000)
ประวัติศาสตร์ของ Civic Type R เริ่มต้นในปี 1997 โดย Honda ได้จับเอา Civic EK ตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูมาปรับแต่งหน้าตาภายนอกให้ดูสปอร์ตขึ้น ใส่เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร 182 hp จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 สปีด พ่วงด้วยเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป (LSD) ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 1,050 กก. EK9 จึงเป็นแฮทช์แบ็กตัวเล็กที่ปราดเปรียวมาก ๆ ทั้งยังให้สมรรถนะสุดเร้า เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 225 กม./ชม.
ภายในของ EK9 ตกแต่งแบบสปอร์ตโดยมากับเบาะ Recaro สีแดง พวงมาลัย MOMO พรมปูพื้นสีแดง และหัวเกียร์สีเงิน นี่คือรถ JDM ขนานแท้เพราะผลิตและขายในญี่ปุ่นเท่านั้น โดยตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นแรร์ไอเทมที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวัน และยังมีการพูดถึงอยู่เรื่อย ๆ แม้จะยุติการผลิตไปตั้งแต่ปี 2000 แล้วก็ตาม
Honda Civic Type R EP3 (2001 – 2005)
Civic Type R เจนฯ 2 เปิดตัวในปี 2001 พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หน้าตาและขนาดตัวรถให้ใหญ่ขึ้น และย้ายฐานการผลิตจากญี่ปุ่นบ้านเกิดมาสู่โรงงานประกอบในเมืองสวินดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อผลิตและส่งออกไปตลาดทั่วโลก รุ่นนี้มากับเครื่องยนต์ใหม่รหัส K20A ความจุ 2.0 ลิตร 197 hp สำหรับตลาดยุโรป และ 212 hp สำหรับเวอร์ชันส่งกลับไปขายที่ญี่ปุ่น จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด พ่วงระบบเฟืองท้าย LSD เช่นเดียวกับรุ่นพี่ ขณะเดียวกันก็มีการปรับปรุงตัวถังให้มีความแข็งแกร่งกว่าเดิม อัปเกรดระบบเบรกใหม่ กันสะเทือนหน้า-หลังแบบใหม่ และพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ส่วนห้องโดยสารยังตกแต่งแบบสปอร์ตเหมือนรุ่นพี่
EP3 มีการปรับโฉม 1 ครั้งในปี 2003 นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันพิเศษออกมาอีกหลายตัวก่อนจะสิ้นสุดสายการผลิตไปในปี 2005 พร้อมตัวเลขการผลิตทั้งหมด 25,798 คัน
Honda Civic Type R FD2 / FN2 (2007-2011)
Civic Type R เจนฯ 3 ถูกแบ่งเป็น 2 เวอร์ชันคือ FD2 ตัวถังซีดาน 4 ประตูสำหรับตลาดญี่ปุ่นและเอเชีย กับ FN2 ตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูสำหรับตลาดยุโรปและภูมิภาคอื่น
FD2 เป็น Type R รุ่นแรกและรุ่นเดียวที่เป็นตัวถังซีดาน 4 ประตู หน้าตาจะคล้าย Civic FD ที่ขายในบ้านเราแต่มีการปรับให้ลุคดูสปอร์ตขึ้น ขุมพลังเป็น K20A ที่ได้รับการปรับเพิ่มพลังเป็น 222 hp จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด พ่วงเฟืองท้าย LSD ตามธรรมเนียม มาพร้อมเบรก Brembo และมีการปรับปรุงช่วงล่างใหม่ ขณะที่ภายในห้องโดยสารมาในโทนสีดำ-แดงที่คุ้นเคยแต่เปลี่ยนจากเบาะ Recaro และพวงมาลัย MOMO ไปใช้ของทาง Honda เองทั้งหมด
FN2 มากับหน้าตาที่ไม่ค่อยจะถูกใจสาวกสักเท่าไรแถมน้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นจาก EP3 ถึง 100 กก. แต่รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับแพลตฟอร์มตัวถังใหม่ที่ย้ายถังน้ำมันไปไว้ใต้เบาะหน้า เครื่องยนต์เป็นรหัส K20Z4 2.0 ลิตร 198 hp จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีดพร้อมเฟืองท้าย LSD ตามมาตรฐาน มีการอัปเกรดระบบเบรกและกันสะเทือนหลังใหม่ ติดตั้งล้อ18 นิ้ว ส่วนภายในมาในโทนสีดำ-แดงที่คุ้นเคยพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้นตามมาตรฐานของรถยุโรป
Civic Type R FD2 มีเวอร์ชันพิเศษออกมาไม่เยอะ ผิดกับ FN2 ที่มีตามออกมาหลายตัวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการปรับเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและการตกแต่งภายนอกมากว่าการปรับเรื่องขุมพลังเครื่องยนต์ Type R ทั้ง 2 เวอร์ชันสิ้นสุดสายการผลิตพร้อมกันในปี 2011 พร้อมกับตัวเลขการผลิต 14,062 คัน และ 29,039 คันตามลำดับ
Honda Civic Type R FK2 (2015 – 2017)
Civic Type R เจนฯ 4 เว้นช่วงจากเจนฯ ก่อนหน้าระยะหนึ่ง เปิดตัวในปี 2015 โดยใช้พื้นฐานของ Civic เจนฯ 9 เวอร์ชันยุโรป และเป็นครั้งแรกที่มากับตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตู และเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ หน้าตาของ FK2 ดุเอาเรื่อง เด็ดไปกว่านั้นคือพละกำลังระดับ 300 แรงม้า ส่งลงสู่ล้อหน้าผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมสมรรถนะสุดโหด เร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนใหม่ทั้งหมด และมาพร้อมระบบเบรก Brembo
ท่ามกลางข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดทำให้ Honda จำเป็นต้องยอมแหกประเพณีดั้งเดิมของตัวเองด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์เทอร์โบให้กับ FK2 แต่ผลตอบรับนั้นดีเกินคาดทั้งในแง่สมรรถนะและการขับขี่จนได้รับการยอมรับในวงกว้าง นอกจากนี้รถยังประสบความสำเร็จในการแข่งขันชื่อดังหลาย ๆ รายการอีกด้วย FK2 มีอายุค่อนข้างสั้น มันยุติการผลิตในปี 2017 และขึ้นแท่นเป็นแรร์ไอเทมอีกรุ่นเพราะผลิตออกมาจำนวนไม่เยอะ
Honda Civic Type R FK8 (2017 – 2021)
Honda ไม่เว้นช่วงนานอีกแล้วโดยส่ง FK8 ลงตลาดต่อทันทีในปี 2017 รุ่นนี้มากับตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่อยู่บนพื้นฐานของ Civic Hatchback เจนฯ 10 ที่มีขายในบ้านเรา หน้าตาดุดันพร้อมการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน จุดเด่นอยู่ที่สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่และปลายท่อไอเสียยิงออกกลางกันชนหลัง นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ชุดแต่งทั้งหมดยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกได้เป็นอย่างดี ในส่วนของเครื่องยนต์เป็นรหัส K20C1 2.0 ลิตร เทอร์โบ เวอร์ชันยุโรปและญี่ปุ่นจะได้แรงม้า 316 hp ส่งกำลังลงล้อหน้าผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พ่วงเฟืองท้าย LSD ตามมาตรฐาน ซึ่งมันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 272 กม./ชม.
FK8 เคยสร้างชื่อในฐานะรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่เร็วที่สุดในสนาม Nürburgring Nordschleife กับสถิติ 7 นาที 43.80 วินาที ก่อนจะถูกทำลายลงในเวลาต่อมา นอกจากนี้ FK8 ยังเป็น Type R รุ่นแรกที่บุกตลาดอเมริกาอย่างเป็นทางการ มันคว้ารางวัลจากสื่อยานยนต์ชั้นนำมาประดับบารมีมากมายและได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน Civic Type R ที่ดีที่สุดของตระกูลก่อนจะสิ้นสุดสายการผลิตไปในปี 2021
Honda Civic Type R FL5 (2022 – ปัจจุบัน)
Civic Type R เจเนอเรชันล่าสุดเปิดตัวในปี 2022 มากับตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูพื้นฐานจาก Civic Hatchback เจนฯ 11 หน้าตามีความทันสมัยแฝงความดุดันอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ รวมถึงกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างที่ออกแบบมาให้จัดการกับแอโรไดนามิกได้ดีขึ้น เครื่องยนต์ยกมาจาก FK8 ทั้งชุดพร้อมการปรับปรุงเทอร์โบใหม่เพื่อเพิ่มบูสต์ ทำให้รถมีอัตราเร่งดีขึ้น แรงบิดมากกว่าเดิม ส่งกำลังลงสู่ล้อหน้าผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมสมรรถนะที่จัดจ้านไม่เบา เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 5.4 วินาที
ความยอดเยี่ยมของ FL5 พิสูจน์ให้เห็นได้จากการทำลายสถิติสนาม Suzuka Circuit ด้วยเวลา 2 นาที 23.120 วินาที เมื่อปี 2022 และล่าสุดกับการทำลายสถิติของ FK8 รุ่นพี่ที่สนาม Nürburgring Nordschleife ระยะทาง 20.8 กม. กับตัวเลข 7 นาที 44.881 วินาที เมื่อเดือนเมษายนปี 2023 ที่ผ่านมา ขึ้นแท่นเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าที่เร็วที่สุดใน The Green Hell ณ เวลานี้
ตลอดระยะกว่าเวลา 26 ปีของ ประวัติ Honda Civic Type R แสดงให้เห็นแล้วว่ามันคือยนตรกรรมที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและได้กลายเป็นจุดสูงสุดทั้งในด้านสมรรถนะและการขับขี่ รหัส Type R ยังคงเต็มไปด้วยมนต์ขลังจากอดีตถ่ายทอดมาสู่ปัจจุบัน มันยังคงน่าหลงใหลอยู่เสมอและเป็นเหมือนแรงดึงดูดที่ชวนให้สาวก Honda และคนรักความเร็วทั่วโลกได้มาสัมผัสสักครั้งในชีวิต ชื่อของ Civic Type R จะเดินหน้าต่อไปพร้อมกับการไล่ล่าความสำเร็จใหม่ ๆ ในอนาคต ข่าวดีคือตอนนี้คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของ Civic Type R ได้แล้วด้วย Honda Civic Type R FL5 นี่คือรถที่ว่ากันว่าเป็น Civic Type R ที่ดีที่สุดของตระกูลในตอนนี้ ถ้าอยากสัมผัสจิตวิญญาณแห่ง Type R ที่แท้จริง โอกาสมาถึงแล้ว รีบคว้ากุญแจไปสตาร์ทเครื่องแล้วขับออกไปสนุกกันได้เลย