หากพูดถึงถนน Savile Row ใน London ประเทศอังกฤษแล้ว เชื่อว่าผู้ชายหลายคนคงคิดถึงร้านตัดสูทที่เรียงราย โดยเฉพาะร้านตัดสูทแบบ Bespoke ที่แต่ละร้านเต็มไปประวัติความเป็นมายาวนาน คุณภาพที่เยี่ยมยอด ควรค่าแก่การได้เป็นเจ้าของชุดสูทสักชุด แต่ในบรรดาร้านสูทเหล่านั้น ก็มีร้านที่ถือว่าเป็น “ตำนาน” เก่าแก่ที่อยู่คู่ถนนสายนี้มาช้านาน หนึ่งนั้นคือร้านตัดสูทที่ชื่อว่า Henry Poole & Co ที่มีประวัติย้อนกลับไปได้ราว ๆ 2 ศตวรรษ
วันนี้ MenDetails จึงขอนำทุกท่านเดินทางไปรู้จักกับเรื่องราวของร้านสูทเก่าแก่ร้านนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร รวมถึงผลงานเด่นในวงการแฟชั่นผู้ชายอย่างการให้กำเนิด Dinner suit หรือ Tuxedo ที่เราใช้กันในปัจจุบันครับ พร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางไปยังถนน Savile Row ในปี 1806 กันครับ
กว่าจะมาเป็น Henry Poole & Co
เรื่องราวของ Henry Poole & Co เริ่มต้นขึ้นในปี 1806 เมื่อชายชื่อ James Poole จากเขต Shropshire เดินทางเข้ามาในกรุง London เพื่อเริ่มอาชีพขายผ้าในร้านใกล้จัตุรัส Brunswick Square แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มตัดเย็บเสื้อทหารสำหรับเหล่าทหารในสงคราม Napoleonic Wars (1803 – 1815) ด้วยความช่วยเหลือจาก Mary ภรรยาของเขาแทน จนในปี 1815 ที่สงครามจบลงหลังความพ่ายแพ้ของนโปเลียนในศึก Battle of Waterloo ตัว James Poole และร้านของเขากลายเป็นร้านที่มีชื่อเสียงจากการตัดเย็บชุดทหาร
ในปี 1846 James Poole เสียชีวิต ธุรกิจครอบครัวตกไปอยู่ในการดูแลของ Henry Poole ลูกชายของ James ตัว Henry เป็นคนที่มีเสน่ห์ เขาสามารถทำให้ตัวเองกลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังจากการเป็นช่างตัดเสื้อชื่อดังในขณะนั้น ชื่อของ Henry กลายเป็นชื่อที่คนในสังคมชนชั้นสูงรู้จักเป็นอย่างดี และเป็นในปีนี้เองที่ร้านของ James ย้ายมาอยู่บนถนน Savile Row ถือเป็นร้านเก่าแก่ และเป็นร้านแรกที่มาอยู่ทำเลนี้ และมีส่วนช่วยให้มันกลายเป็นถนนที่มีชื่อเสียงในการตัดสูท Bespoke ในเวลาต่อมา
ชื่อเสียงของร้าน Henry Poole ทำให้เขามีโอกาสรับใช้จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 และ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และได้รับ Royal Warrant หรือ ตรารับรองพระราชทาน แสดงถึงคุณภาพของสินค้าที่เชื้อพระวงศ์มั่นใจเลือกใช้บริการจากทั้งสองพระองค์ในปี 1858 และ 1869 ตามลำดับ ซึ่งตลอด 2 ศตวรรษของร้านสูทร้านนี้ พวกเขาได้รับตราพระราชทานจากกษัตริย์และเชื้อพระวงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Aleksandr III แห่งรัสเซีย (1881), สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (1976), สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 (1940) หรือแม้แต่กษัตริย์ไทยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เป็นลูกค้าของร้านนี้ แม้จะไม่ได้มีการออก Royal Warrant ก็ตาม
ไปจนถึงคนมีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Winston Churchill, Bram Stoker (ผู้แต่งนิยาย Dracular), Ulysses S. Grant (ประธานาธิบดีคนที่ 18 ของสหรัฐอเมริกา) และคนมีชื่อเสียงอีกมากมายเกินจะกล่าวในช่วง 2 ศตวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทั้งตะวันตกหรือตะวันออกก็เคยสั่งตัดสูทจากร้านนี้ครับ
ตำนานบนถนน Savile Row
เหตุการณ์ที่ถนน Savile Row ได้รับการผลักดันให้กลายเป็น social hub และกลายเป็นถนนแห่งสูท Bespoke ในเวลาต่อมา เป็นฝีมือลูกชายของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง Prince of Wales ก่อนจะได้รับตำแหน่งสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในเวลาต่อมา เขาต้องการที่จะตั้ง social hub รอบ ๆ ร้านของ Henry รวมถึงแต่งตั้งให้ Henry เป็นผู้นำแฟชั่นในยุคนั้น Savile Row จึงเริ่มสร้างชื่อเสียงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้ชายหลายคนใฝ่ฝันอยากไปเยือน
Henry เสียชีวิตในปี 1876 กิจการร้านสูทไปอยู่ในการดูแลของ Samuel Cundey ญาติของ Henry ในขณะนั้นร้านสูทของเขามีลูกค้าจากทั่วทุกสารทิศ รวมถึงขยายสาขาไปเปิดใน Paris, Vienna และ Berlin เรียกได้ว่าเป็นการวางรากฐานธุรกิจตัดสูทระดับโลก ทุกอย่างที่ Henry เริ่ม และ Samuel Cundey มาสานต่อ ทำให้ในช่วงต้นยุค 1900s ร้านสูทนี้เป็นร้านสูทที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีช่างทำสูท 300 คน และช่างตัดเย็บ 14 คน และในตลอดช่วงศตวรรษที่ 20 ก็ทำการขยับขยายธุรกิจไปทั่วโลก รวมถึงยังเป็นร้านสูทร้านแรกจากถนน Savile Row ที่เข้าไปทำการตลาดในประเทศญี่ปุ่นในปี 1964
ปัจจุบันกิจการอยู่ในการดูแลของตระกูล Cundey มาถึง 5 รุ่น ในตอนนี้มี Angus Cundey และ Simon ลูกชายที่ดูแลสานต่อเจตนารมณ์ในการตัดเย็บสูทแบบดั้งเดิมของ Henry Poole ต่อไปในฐานะร้านสูทร้านแรกบนถนน Savile Row ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน คอยต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่าน
ผู้ให้กำเนิด Dinner suit ในยุคปัจจุบัน
นอกจากมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแล้ว อีกหนึ่งผลงานที่ร้านสูทแห่งนี้มีต่อวงการแฟชั่นผู้ชายคือการให้กำเนิด Dinner suit ครับ เรื่องนี้ต้องให้เครดิตสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในสมัยยังมียศเป็น Prince of Wales ด้วย
อังกฤษช่วงยุค 1860s ความนิยมในการพบปะสังสรรค์นอกสถานที่นั้นมีมากขึ้นในชนชั้นกลางและสูง ผู้ชายเลยหาชุดที่เป็นทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการใส่ Tailcoat ทุก ๆ เย็น จนในปี 1865 Prince of Wales สั่งตัด smoking jacket สี Midnight blue จากผ้าไหมพร้อมกางเกงที่เข้าคู่กันจาก Henry Poole & Co เพื่อใช้ใส่ไปงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบไม่เป็นทางการที่ Sandringham คฤหาสน์ของราชวงศ์อังกฤษ ทำให้การแต่งกายสไตล์นี้ ค่อย ๆ พัฒนากลายเป็น Dress code แบบ Black tie ในปัจจุบัน และเกิดคำว่า Dinner suit ขึ้นครับ
ความนิยมของมันยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังสหรัฐอเมริกา มีเรื่องเล่าว่า ชายชื่อ James Potter จากหมู่บ้าน Tuxedo Park รัฐ New York เดินทางไปยัง London และได้รับคำเชิญจาก Prince of Wales ให้ไปพักที่ Sandringham เขาถูกใจเสื้อ Dinner Jacket ของ Prince of Wales มาก จึงไปสั่งตัดจากร้าน Henry Poole & Co มาหนึ่งตัว พอกลับไปยังบ้านเกิดเขาก็ใส่ชุดนี้ไปโชว์ที่ Tuxedo Club ทำให้สมาชิกคนอื่น ๆ เริ่มใส่ตามกลายเป็นชุดใส่กินอาหารค่ำแบบไม่ทางการของเหล่าสมาชิก และความนิยมนี้ก็ค่อย ๆ ขยายไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่มาของชื่อ Tuxedo อีกด้วย
นี่คือเรื่องราวความเป็นกว่า 2 ศตวรรษของร้านสูทระดับตำนานคู่ถนน Savile Row ให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ เรียกได้ว่าถ้าไม่มีร้านนี้ถนน Savile Row อาจไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ก็ได้
Henry Poole & Co ยังคงตั้งใจในการมอบประสบการณ์การตัดสูทที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคนจากทั่วโลก รวมถึงบริการให้คำแนะนำ ไปจนถึงสินค้าเครื่องประดับต่าง ๆ และเราคิดว่าหากใครมีโอกาสได้ตัดสูทกับร้านบนถนน Savile Row สักร้าน ร้านของ Henry Poole เป็นหนึ่งในร้านอันดับต้น ๆ ที่ต้องนึกถึงเลยครับ