“เสื้อผ้ากันแดด” เป็นอะไรที่เข้ากับประเทศไทยอย่างมากเลยครับ สิ่งเดียวที่ทำให้เรารู้สึกอยากออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งน้อยลงเรื่อยๆ ต้องยกให้แดดเป็นปัจจัยแรกเลยแหละ ดังนั้นเสื้อผ้า ณ ปัจจุบันจึงเริ่มใส่ Technology เกี่ยวกับการป้องกันแดดเข้าไปในเสื้อผ้า ทำให้เสื้อผ้าตัวดังกล่าวสามารถ “สู้แดด” ได้ แต่คุณเคยสงสัยมั้ยครับว่า เสื้อผ้าจำพวก UV-Protection นั้น สามารถกันแดดได้จริงๆ หรือไม่อย่างไร
-รังสี UV มีอยู่ทุกที่ คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คุณป้องกันได้-
เสื้อผ้า UV Protection กันแดดได้เท่าไรกันแน่?
น่าจะเป็นคำถามที่หลายคนอยากได้คำตอบถูกมั้ยครับ เพราะต่อให้พูดว่าเป็นเสื้อ UV Protection / เสื้อแสง UV หรืออะไรก็ตาม สิ่งที่เราอยากรู้มากกว่านั้นก็คือ “มันกันได้เท่าไร” บางแบรนด์อาจแจ้งว่า เสื้อผ้าของตนนั้น สามารถป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 90% ซึ่งแน่นอนว่ามันดีต่อผิวอยู่แล้วในความคิดแว๊ปแรกของผู้บริโภค แต่ทำว่า “สูงถึง 90%” นั้น อาจเป็นคำพูดเชิงการตลาดหรือไม่
“ลดสูงสุดถึง 90%” อาจไม่ได้หมายความว่าทุกชิ้นนั้นลดราคา 90% จริงมั้ยครับ กล่าวคือบางชิ้นอาจลดเพียง 30% / 50% ก็เป็นได้
ถ้าเสื้อผ้าของแบรนด์ต่างๆ นั้นผสมสารที่ช่วยป้องกันแดด ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็สามารถใช้คำว่า UV-Protection ได้แน่นอน แต่คุณทราบหรือไม่ครับว่า มีรหัสที่ใช้แจ้งรายละเอียดของเสื้อผ้าที่สามารถกันแดดซึ่งให้การรับรองจาก Skin Cancer Foundation อีกด้วย นั่นก็คือรหัส UPF (Ultraviolet Protection Factor) โดยรหัสดังกล่าวนั้นจะถูกตีค่าออกมาเป็นตัวเลขตั้งแต่ 15-50+ โดยเสื้อผ้าที่จะได้รับค่าตัวเลขดังกล่าวจะต้องผ่านการทดสอบและแปะป้าย UPF ให้ถูกต้องอย่างเป็นระบบ โดยจะมีระดับทั้งหมด 3 ระดับได้แก่
- UPF 15 – 24 | สามารถป้องกันรังสี UV ได้ในระดับดี ราว 93.3% – 95.9% ของรังสีทั้งหมด
- UPF 25 – 39 | สามารถป้องกันรังสี UV ได้ในระดับดีเยี่ยม ราว 96.0% – 97.4%
- UPF 40-50+ | สามารถป้องกันรังสี UV ได้ในระดับสูงสุด ราว 97.5% – 98+%
แปลว่า “ถ้าเสื้อผ้าของคุณมีรหัสดังกล่าว คุณจะสบายใจขึ้นแน่นอน” เพราะขนาดตัวเลข UPF ที่ 15-24 ก็สามารถกันแดดได้สูงถึง 93.3% เป็นอย่างน้อยละครับ ไม่ต้องกังวลกับคำพูดที่ว่า “สูงสุดถึง 90%” ให้วุ่นวายใจอีกต่อไป
-เสื้อผ้าจาก Columbia รุ่น Silver Ridge มีค่า UPF สูงถึง ระดับ 40-50+ เลยทีเดียว-
หากวันนี้กรุงเทพฯ ต้องเจอกับแสงแดดที่แผดเผาจนร้อนเป็นไฟแบบนี้ คุณยิ่งต้องมีเสื้อผ้าที่สามารถกันรังสี UV ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ได้อย่างปลอดภัย ห่างไกลจากโรคมะเร็งผิวหนังครับ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ยิ่งเสื้อผ้าของคุณกันรังสี UV ได้มากเท่าไร คุณก็จะรู้สึกร้อนและแสบผิวน้อยลงเท่านั้น เอาเป็นว่า ลองกลับไปพลิกดูเสื้อผ้าที่บ้านครับว่า เสื้อผ้าของคุณแจ้งค่า UPF ไว้เท่าไร? หากไม่มีค่าดังกล่าว ลองมองหาเสื้อผ้าที่มีค่า UPF ชี้แจงอย่างชัดเจนเก็บไว้สักตัว เผื่อเวลาต้องออกแดดเป็นเวลานาน จะได้ป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ