ปีนี้ Samsung ไม่ได้เปลี่ยนด้าน Design มากนัก แต่เพิ่มเติมสิ่งที่ S6 และ S6 Edge ขาดเมื่อปีที่แล้วจนกลายมาเป็น S7 และ S7 Edge โดยทีมนักออกแบบได้เพิ่มส่วนโค้งด้านหลังเครื่องเพื่อให้การหยิบจับเป็นไปได้สะดวกและเหมาะมือมากกว่ารุ่นก่อน แถมกล้องก็ไม่ปูดออกมามากเท่ารุ่นที่แล้วอีกด้วย
ที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น S7 Edge ที่ Samsung ใส่หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วเข้ามาในรุ่นนี้ และเมื่อเทียบกับ iPhone (ตระกูล Plus) จะเล็กกว่าและสะดวกมากกว่าในการใช้งานมือเดียว (ต้องขอบคุณหน้าจอโค้งที่ช่วยทำให้ทุกอย่างดูดีขึ้นจริงๆ) และด้วยหน้าจอ quad HD Super AMOLED ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และสีสันที่สวย ทำให้หน้าจอดูโดดเด่นมากจริงๆ รองรับ SD Card และมาพร้อม IP68 คือกันน้ำได้ถึง 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที โดยตัวเครื่องยังคงใช้ Micro USB เป็นที่ชาร์ตเหมือนเดิม (ยังไม่เปลี่ยนเป็น USB Type-C)
S7 และ S7 Edge มีระบบประมวลผลคือ Snapdragon 820 ในอเมริกา และ Exynos ในประเทศอื่นๆ RAM ขนาด 4Gb (ถือว่าเยอะมาก) Battery ของ S7 มีขนาด 3,000mAh (ปรับขึ้นจาก 2,550mAh) และ S7 Edge ทีขนาด 3,600mAh (ปรับขึ้นจาก 2,600mAh ในรุ่นที่แล้ว) ความพิเศษคือกล้องที่มีตัว Sensor ที่ใหญ่ขึ้นสามารถรับแสงได้สูงขึ้น 56% ในที่มืด และ 95% สำหรับสภาวะปกติ และค่า f/1.7 ที่ทำให้ได้ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ S7 มาพร้อมความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และ 16 ล้านพิกเซลสำหรับ S7 Edge แถมท้ายด้วย Always On Display ที่ทำออกมาคล้าย Motorola Active Display
สั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2016 และเครื่องวางจำหน่ายจริงวันที่ 23 มีนาคม 2016 MDs’ ว่าเตรียมเก็บตังค์รอไว้ได้เลยครับผม แต่แนะนำ S7 Edge นะครับ
source : theverge