แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (Harry Maguire) กลายเป็นนักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตลาดซื้อขายฟุตบอลประจำซัมเมอร์ปี 2019 หลังนักเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ย้ายจาก สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ที่มีกลุ่มคิงส์เพาเวอร์ บริษัทของชาวไทยเป็นเจ้าของ ไปสู่อ้อมกอดของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัวที่สูงถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,982 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการทำลายสถิติโลกของกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ย้ายจากทีม เซาธ์แธมป์ตัน ไปยังทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (2,795 ล้านบาท) เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา
ล่าสุด แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เพิ่งลงประเดิมสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีกให้กับทีมผีแดง และช่วยให้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี ในบิ๊กแมตช์ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดไป 4-0 ซึ่ง แม็คไกวร์ ได้รับคำชมอย่างมากในเรื่องของฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่ง คุมแนวรับของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม จนแมนฯยูสามารถเก็บคลีนชีท (ไม่เสียประตู) ได้สำเร็จ ทำให้แฟนบอลจำนวนมากของทีมผีแดง เชื่อว่า แม็คไกวร์ คือหนึ่งในจิกซอว์ที่จะช่วยให้ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังมีฟอร์มการเล่นที่ยํ่าแย่มาหลายฤดูกาล ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง ค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ของเขาก็ถือว่าไม่แพง และคุ้มค่ากับการลงทุนมากๆ
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ แม็คไกวร์ กองหลังค่าตัวสถิติโลกคนใหม่ก่อนดีกว่า
เจค็อบ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (Jacob Harry Mcguire) เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1993 ที่เมืองเชฟฟีลด์ ประเทศอังกฤษ มีส่วนสูงถึง 1.94 เมตร โดยเขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับ ทีมเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ระหว่างปี 2011–2014 ลงเล่น 134 ทำไป 9 ประตู เขาเคยเล่นตำแหน่งกองกลางมาก่อนสมัยที่เป็นนักเตะเยาวชน ก่อนจะถูกจับมาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กตอนขึ้นทีมชุดใหญ่ ต่อมา แฮร์รี่ ย้ายมาร่วมทีม ฮัลล์ซิตี้ ระหว่างปี 2014–2017 ลงสนามไป 54 แมตช์ ยิงไป 2 ประตู ซึ่งเขาเคยถูกปล่อยให้ยืมตัวไปเล่นกับ ทีมวีแกนแอธเลติก ในฤดูกาล 2015 ผลงานลงไป 16 นัด ยิงไป 1 ประตู
จุดเปลี่ยนในชีวิตของ แม็คไกวร์ น่าจะเป็นการที่แมวมองของทีมเลสเตอร์ซิตี้ตาแหลม มองเห็นความสามารถของเขา จึงขอซื้อตัว แม็คไกวร์ มาจาก ฮัลล์ซิตี้ ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ ในปี 2017 ซึ่งต่อมาไม่นาน แม็คไกวร์ ก็ยึดตำแหน่งกองหลังตัวจริงของทีมจิ้งจอกสีน้ำเงินได้ และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 รวมถึงกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่เนื้อหอม มีแต่ทีมใหญ่ต้องการตัวหลังจบฟุตบอลโลก ส่วนผลงานของเขากับทีมเลสเตอร์ซิตี้ ลงเล่นไป 69 แมตช์ ยิงไป 5 ประตู
ชีวิตที่พลิกผันจากโอกาสในการเป็นนักธุรกิจหรือนักบัญชี สู่ นักฟุตบอลอาชีพ
ในช่วงวัยเรียน แม็คไกวร์ เรียนที่ เซนต์แมรี่ส์ คาธอลิกไฮสคูล เป็นนักเรียนดีเด่นทั้งเรื่องเรียนและกีฬา โดยครูที่โรงเรียนเล่าว่า เขาเป็นเด็กเรียนดี โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ที่ทำคะแนนสอบได้สูง จนครูทุกคนเชื่อว่า ในอนาคต แฮร์รี่ แม็คไกวร์ น่าจะศึกษาต่อด้านธุรกิจหรืออาจจะเป็นนักบัญชีที่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะเดินทางสายนักกีฬา และเป็นทางที่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันเพิ่งเซ็นสัญญา 6 ปีกับทีมผีแดง พร้อมรับค่าเหนื่อยมากถึง 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากกว่าอาชีพนักบัญชีหลายเท่า และมากกว่านักธุรกิจชาวอังกฤษวัยเดียวกันอีกมากมายแน่นอน
จากกองเชียร์ข้างสนามใน ฟุตบอลยูโร 2016 สู่การเป็นกองหลังทีมชาติอังกฤษใน ฟุตบอลโลก 2018
Harry Mcguire คือคนหลังสุดด้านบนในภาพ (credit joe.co.uk)
ช่วงที่ แม็คไกวร์ เริ่มมีชื่อเสียงในช่วงฟุตบอลโลกปี 2018 มีกระแสหนึ่งในโลกโซเชี่ยลก็คือการแชร์ภาพเขาในปี 2016 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงนักเตะที่ไม่มีชื่อเสียงของทีมฮัลล์ซิตี้ เขาได้เดินทางไปฝรั่งเศสกับเพื่อนๆและญาติๆในฐานะกองเชียร์ข้างสนามคนหนึ่งของทีมสิงโตคำรามอังกฤษ บ้านเกิดของเขา ใครจะเชื่อว่า เพียง 2 ปีให้หลัง แม็คไกวร์ จะโด่งดังเป็นพลุแตก และกลายมาเป็นหนึ่งในกองหลังตัวจริงของทีมชาติอังกฤษ ได้ร่วมลงเล่นในทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกอย่าง ฟุตบอลโลก ในปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
จุดนี้แสดงให้เห็นว่า แม็คไกวร์ คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีพัฒนาการเรื่องฟอร์มการเล่น ดีที่สุดคนหนึ่งในโลก โดยเขามีมีสองอดีตกองหลังชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง จอห์น เทอร์รี่ และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นไอดอล
ตั้งเป้าคว้าแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และปลุกทีมให้กลับมากลายเป็นทีมที่ดีที่สุดในอังกฤษอีกครั้ง
หลังจากที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีมวางมือในฤดูกาล 2012-13 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ประสบปัญหาฟอร์มตก ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกเลย นำมาซึ่งการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมบ่อย และละลายเงินไปในตลาดซื้อขายนักเตะหลายร้อยปอนด์อย่างไร้ประโยชน์ในหลายดีล เพราะได้นักเตะที่ราคาแพง แต่ความสามารถไม่ถึง หรือนัดกันฟอร์มตก ภายในทีมมีบรรยากาศแย่ มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในทุกฤดูกาล จนทำให้ทีมเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ซิตี้ สามารถแย่งตำแหน่งทีมที่ดีที่สุดบนเกาะอังกฤษไปครองได้ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา
กระทั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามา แฟนบอลเริ่มมีความหวังกับทีมมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ปัญหาเรื่องกองหลังไม่มีประสิทธิภาพของทีมผีแดง จนสโมสรเสียประตูและพ่ายแพ้บ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กลายเป็นนักเตะที่ตอบโจทย์ที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์หลังเปิดตัวกับทีมว่า “พวกเราเป็นทีมคนหนุ่ม มีความทะเยอทะยานอย่างสูงในอนาคต ผมคิดว่าเราจะกลับมาคว้าถ้วยแชมป์ได้อีกครั้งหนึ่ง และนั่นเป็นสิ่งที่กุนซือต้องการนำกลับมาสู่สโมสรของเรา”
ต้องรอดูกันต่อไปว่าเส้นทางการไล่ล่าแชมป์ของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และทีมปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นอย่างไร รวมถึงในอนาคต สถิตินักฟุตบอลตำแหน่งกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกนี้ จะอยู่ต่อไปอีกนานเท่าไหร่ และใครจะมาทำลายสถิตินี้