เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นนอกจากไปกินอาหาร และดูสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้ว การไปแช่น้ำพุร้อน หรือ ออนเซ็น ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายคนนึงถึงและอยากทำ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นก็มีเมืองออนเซ็นมากมายกระจายตัวอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ และเกาะคิวชูเองก็เป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่มีเมืองออนเซ็นอยู่มากมาย เป็นจุดหมายในการแวะเที่ยว แวะพักแช่ออนเซ็นของทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ สำหรับบทความนี้ MenDetails อยากแนะนำ 3 เมืองออนเซ็นในคิวชู แต่เป็นเมืองออนเซ็นที่คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อ สำหรับใครที่กำลังมองหาเมืองออนเซ็นใหม่ ๆ ไม่เหมือนใคร หรือต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ สำหรับทริปคิวชูครั้งหน้าครับ ถึงชื่ออาจจะไม่คุ้น แต่ประสบการณ์ที่ได้เกินคุ้ม
Harazuru Onsen (ฟุกุโอกะ)
เมืองออนเซ็นแรกที่เราจะแนะนำอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ ออกจากตัวเมืองฟุกุโอกะมาไม่ไกลมาถึงเมือง Asakura ที่มีแม่น้ำ Chikugo ไหลผ่าน และที่เมืองนี้เป็นที่ตั้งของ Harazuru Onsen เมืองออนเซ็นที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดของฟุกุโอกะ ที่ค่อย ๆ ได้รับความนิยมจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ที่นี่มีโรงแรมเรียวกัง (โรงแรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) มากถึง 14 แห่ง ด้วยธรรมชาติที่โอบอ้อม ห่างไกลจากตึกสูง และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์จากยุคโอโดะ ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย คล้ายเวลาของเมืองหยุดนิ่งตั้งแต่สมัยเอโดะ
จุดเด่นของออนเซ็นที่นี่ ที่ไม่เหมือนใคร คือ น้ำมีความเป็นด่างและมีส่วนผสมของกำมะถันที่เหมาะสม ซึ่งทั้งสองอย่างนี้หาได้ยากมากที่จะอยู่ในออนเซ็นแหล่งเดียวกัน และทั้งสองอย่างนี้ส่งผลต่อผิว ทำให้ผิวสวย สุขภาพดีทั้งคู่ เป็นที่มาของฉายา “Double Bihadano-yu” หรือ ออนเซ็นที่ทำให้ผิวสวยแบบดับเบิ้ลครับ และนอกจากออนเซ็นแล้ว เมืองยังมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ เช่น การตกปลาด้วยนกกาน้ำแห่งแม่น้ำชิคุโกะ, ศาลเจ้า Ukiha Inari ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและสามารถเห็นวิวของที่ราบ Chikugo ได้ทั้งหมด ด้วยประตูโทริอิที่ตั้งเรียงรายและวิวที่สวยงาม ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าแวะไปชมหากมาพักที่ออนเซ็นแห่งนี้ นอกจากนี้ในเมือง Asakura ยังมีสิ่งก่อสร้างเก่าสมัยยุคเอโดะที่สภาพสมบูรณ์อีกมากมาย
Ureshino Onsen (ซากะ)
ถ้าพูดถึงจังหวัดซากะ หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่าจังหวัดนี้มีสถานที่อะไรบ้าง และเป็นจังหวัดที่หลายคนเวลาไปเที่ยวเกาะคิวชูมักจะมองข้ามไป แต่จริง ๆ แล้ว ซากะ ยังมีสถานที่น่าสนใจเชิงธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ไปจนถึงงานเทศกาลและกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย
และที่จังหวัดนี้ยังมีเมืองน้ำพุร้อนชื่อดังของคิวชูและญี่ปุ่นอยู่หนึ่งแห่ง ชื่อว่า Ureshino ที่ออนเซ็นแห่งนี้นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณของแร่ธาตุในน้ำพุร้อนที่ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ทำให้สาวญี่ปุ่นรวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติอยากมาแช่ออนเซ็นที่นี่แล้ว เมืองนี้ยังเป็นแห่งผลิตชาเขียวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้เกิดการเอาของสองอย่างที่เป็นของดีเด่นประจำเมืองมารวมกัน กลายเป็นน้ำพุร้อนที่ผสมใบชาลงไป เชื่อกันว่าเมื่อแช่แล้วทำให้นอนหลับฝันดี เป็นประสบการณ์ที่หากมาที่นี่ต้องลองสักครั้ง
Ureshio เป็นแหล่งออนเซ็นที่มีประวัติบันทึกไว้ยาวนานนับพันปี โดยการกล่าวถึงอยู่ในบันทึกชื่อว่า Hizen Fudoki ที่บันทึกเรื่องราวของเขตการปกครองและจังหวัดต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ถูกเขียนขึ้นช่วงปี 712 – 713 และเชื่อกันว่าชื่อ Ureshino นั้นมาจากคำพูดของจักรพรรดินีจิงกุ (Empress Jingu) ที่ปกครองญี่ปุ่นช่วงปี 201 – 269 ที่พบแหล่งน้ำพุร้อนหลังจากพากองทัพกลับจากสงครามเดินทางผ่านบริเวณนี้พอดี เมื่อทหารที่บาดเจ็บที่ลงแช่ ทำให้บาดแผลทุเลาลง จนทำให้จักรพรรดินีจิงกุพูดขึ้นมาว่า “มีความสุขจังเลย / ดีจังเลย” กลายมาเป็นชื่อพื้นที่แห่งนี้ว่า Ureshino ที่แปลว่ามีความสุข
พอมาถึงยุคเอโดะสถานที่แห่งนี้ก็เป็นจุดหยุดพักระหว่างทางที่มีชื่อเสียงบนถนน Nagasaki Kaido ถนนสายเก่าแก่ที่ทอดยาวจากฟุกุโอกะถึงนางาซากิ ทำให้สถานที่แห่งนี้เริ่มมั่งคั่งขึ้น เกิดโรงแรมที่พักต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย และอาคารโบราณ โรงแรมเก่าแก่หลาย ๆ แห่งก็ยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองนี้
นอกจากน้ำแร่ที่นี่มีผลดีต่อผิวแล้ว ยังสามารถนำมาดื่มได้ด้วย มีผลในการช่วยย่อยอาหารและไม่หนักท้อง โดยที่นี่มีเมนูขึ้นชื่อคือเต้าหู้ที่นำไปต้มในน้ำแร่ชื่อว่า Onsen yudofu เต้าหู้สัมผัสเนียนนุ่มละลายในปาก น้ำซุปจากนมถั่วเหลืองก็หอมเกินห้ามใจ หากใครมาเยือนในวันที่ 3 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีโอกาสได้เที่ยวเทศกาลประจำฤดูใบไม้ร่วงของเมืองด้วยครับ ในงานมีทั้งขบวนพาเหรด อาหารท้องถิ่นที่คนในเมืองช่วยกันทำ รวมถึงเนื้อซากะวากิว ของเด่นประจำจังหวัด แถมไม่ไกลจากเมืองยังมีศาลเจ้า Yutoku Inari ให้ได้ไปเที่ยว เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของจังหวัดซากะ และเป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าบูชาเทพอินาริ เทพจิ้งจอกตัวแทนแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เทียบเท่าศาลเจ้า Fushimi Inari ที่หลายคนรู้จักดีในเกียวโต
Unzen Onesen (นางาซากิ)
ปิดท้ายกันที่นางาซากิ จังหวัดที่หนึ่งในทีมงาน MenDetails ผูกพันมากที่สุด ที่นี่นอกจากจะสามารถเที่ยวในตัวเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และประวัติศาสตร์ ตั้งแต่การเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างชาติในช่วงปิดประเทศ การรับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาผสมจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงเรื่องราวความสูญเสียจากปรมาณู ให้เราได้ดื่มด่ำแล้ว หากขับรถ หรือนั่งรถบัสไปทางทิศตะวันออก เราจะเจอกับแหล่งน้ำพุร้อนที่ชื่อว่า Unzen Onsen เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเดินทางมาพักตากอากาศ ที่สำคัญคือสามารถมาได้ทั้ง 4 ฤดู และทุกฤดูจะให้อารมณ์ความรู้สึกที่ต่างกันไป
Unzen Onsen เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ใกล้ยอดเขา Unzen เดิมทีถูกพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งวัด แต่ในยุคเมจิเมื่อชาวตะวันตกเข้ามา มันค่อย ๆ กลายเป็นที่นิยมในฐานะเมืองตากอากาศไป แหล่งน้ำพุร้อนที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น “บ่อนรก” เพราะในอดีตมันเคยถูกใช้เป็นสถานที่ในการประหารชีวิตกบฏ และชาวคริสต์ในเหตุการณ์กบฏชิมาบาระ
นอกจากมาพักผ่อนแช่ออนเซ็นแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ทั้งการชมวิว การขึ้นอุทยานแห่งชาติ Unzen-Amakusa ที่เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น เดินป่า โดยช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้บนเขาเปลี่ยนสีสันสวยงาม แต่ว่าอย่างที่เราบอกไปตอนต้น ว่าที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูครับ
และนี่คือ 3 เมืองออนเซ็นในคิวชู ที่เราหยิบมาฝากในวันนี้ หลาย ๆ อาจจะเป็นที่รู้จักของคนญี่ปุ่น และโด่งดังในระดับประเทศ แต่สำหรับคนไทยหลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อ ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวแถบคิวชู โดยเฉพาะถ้าใครวางแผนจะอยู่แถวฟุกุโอกะ – นางาซากิ ลองพิจารณาดูครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน