หลากหลายครั้งที่ MDs ได้รับข่าวอันน่าเศร้าจากเพื่อนฝูง / ญาติสนิท หรือแม้แต่คนในครอบครัวนั้นจากไปอย่างไม่มีวันกลับ สิ่งหนึ่งที่เราคิดทันทีหลังจากที่ได้รับข่าวนั้นๆ ก็คือความโศกเศร้าเสียใจร่วมไปกับคนสนิทของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แต่อีกอย่างที่เรากังวลต่อมาก็คือ “เราจะไปร่วมงานอย่างไรดี” “แต่งตัวแบบไหนถึงจะเหมาะสม” วันนี้ MDs ขอหยิบเอาการร่วมงานศพ และการแต่งกายแบบฉบับสากลมาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันในวันสำคัญของบุคคลที่ล่วงลับ และเพื่อเคารพต่อญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย
พิธีรดน้ำศพ
ถือเป็นพิธีที่สำคัญมากในงานศพคนไทย เพราะถือเป็นพิธีเริ่มต้นเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ตาย และมักจะเชิญญาติสนิท / คนใกล้ชิด / คนที่รู้จักกันเป็นเวลานาน และคนที่ทางครอบครัวให้ความเคารพไปรดน้ำศพนั่นเองเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ที่ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อไปถึงพิธี สิ่งที่ควรปฏิบัติคือการทักทายและกล่าวแสดงความเสียใจกับคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิติ จากนั้นให้นั่งลงรอการจัดเตรียมลำดับการรดน้ำศพ ซึ่งทางเจ้าภาพจะเป็นคนเชิญให้ท่านไปยังบริเวณที่ตั้งศพเพื่อรดน้ำศพแก่ผู้ที่ล่วงลับ สิ่งที่ควรทำต่อมาก็คือ ควรเคารพศพและระลึกถึงสิ่งดีๆ ที่ท่านได้ประสบร่วมกับผู้ล่วงลับก่อนจะเทน้ำอบที่ทางงานเตรียมไว้ให้ลงบนฝ่ามือและอโหสิกรรมให้กับผู้ที่ล่วงลับ
ท่านไม่จำเป็นต้องทำทุกขั้นตอนอย่างเร่งรีบ เราแนะนำให้ท่านค่อยๆ ปฏิบัติอย่างช้าและสงบ ซึ่งในทุกขณะที่ท่านกำลังแสดงความเคารพศพ หรือรดน้ำศพนั้น ท่านควรนึกถึงแต่เรื่องราวดีๆ สิ่งดีๆ ที่ท่านได้รีบจากผู้ที่จากไป และเนื่องจากพิธีรดน้ำศพเป็นพิธีที่จะเชิญเฉพาะบุคคลใกล้ชิดเท่านั้น ถ้าท่านถูกเชิญนั่นหมายความว่าท่านคือบุคคลสำคัญจริงๆ จึงควรให้ความเคารพกับพิธีนี้เป็นพิเศษ
พิธีสวดอภิธรรม
งานสดอภิธรรมหรืองานสวดศพ คืองานที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับ พร้อมกับระลึกถึงคุณความดี ด้วยการเชิญพระมาสวดบทอภิธรรมที่มีความหมายเกี่ยวกับสัจธรรมของชีวิต ส่วนมากมักจัดเป็นงานจำนวน 7 วัน และมักจัดในช่วงเวลากลางคืน ท่านสามารถเลือกไปงานพิธีสวดอภิธรรมในวันที่ท่านสะดวกได้ รวมถึงสามารถเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพได้อีกด้วย
สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อมายังวัดที่ตั้งศพคือ ควรเข้าไปกล่าวทักทายและแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้ที่ล่วงลับ หลังจากนั้นให้กราบพระพุทธรูปก่อนด้วยการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ หลังจากนั้นให้จุดธุป 1 ดอกเพื่อไหว้เคารพศพตามธรรมเนียมดังนี้
หากผู้ตายเป็นผู้สูงอายุ ให้กราบ 1 ครั้งแบบไม่แบมือ
หากผู้ตายเป็นพระภิกษุสงฆ์ ให้กราบเบญจางคประดิษฐ์
หากผู้ตายอยู่ในวัยเดียวกัน ให้ยืนคำนับหรือนั่งไหว้
หากผู้ตายเป็นผู้น้อยหรืออายุน้อยกว่า ให้ยืนหรือนั่งในท่าสงบ
หลังจากนั้นก็จะเป็นการทำบุญด้วยพิธีทอดผ้าบังสุกุลและถวายของจตุปัจจัยให้แก่พระสงฆ์ แล้วจึงทำการกรวดน้ำให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ จึงเป็นอันเสร็จพิธีสวดอภิธรรมในแต่ละคืน
พิธีฌาปณกิจ
ถือเป็นพิธีกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายแก่ผู้ที่ล่วงลับ โดยปกติแล้วช่วงเช้าจะเป็นพิธีที่ให้ญาติหรือลูกหลานช่วยกันหามโลงศพเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ตาย โดยวนซ้ายของเมรุจำนวน 3 รอบ เปรียบเสมือนการเวียนว่ายตายเกิดในสามภพคือ โลก นรก และสวรรค์ ซึ่งก่อนการทำพิธีฌาปณกิจ มักจะมีการกล่าวถึงชีวประวัติของผู้ล่วงลับหรือคุณงามความดีต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ตระหนักถึงสัจธรรมของชีวิต แล้วจึงทอดผ้าบังสุกุล
หลังจากนั้นเจ้าภาพจะให้ท่านนำธูปเทียนและดอกไม้จันทน์สำหรับขอขมาศพที่ทางเจ้าภาพจัดเตรียมไว้ ค่อยๆ เดินขึ้นเมรุเผาศพ จากนั้นนำดอกไม้จันทน์วางใต้เชิงตะกอนสำหรับจุดไฟ หรือวางหน้าพานศพ อาจไหว้เคารพเป็นครั้งสุดท้าย และให้ระลึกถึงผู้ที่ล่วงลับตลอดพิธี
ระหว่างการทำพิธีตั้งแต่เดินรอบเมรุ (หากท่านถูกเชิญให้ไปร่วมงานในช่วงเช้าด้วย) แนะนำให้อยู่ในอาการสำรวม และให้เกียรติผู้ที่ล่วงลับไปแล้วตลอดพิธี ไม่พูดคุยกันเสียงดัง และปฏิบัติทุกขั้นตอนด้วยความสงบ
ข้อควรปฏิบัติ และการแต่งกาย
สิ่งที่ท่านควรปฏิบัติทุกครั้งที่ไป “งานศพ” ไม่ว่าจะใครก็ตาม เราแนะนำให้ท่านร่วมงานด้วยอาการสำรวมเสมอ ไม่พูดคุยหยอกล้อกันเสียงดัง หากท่านมีลูกเล็กไปด้วย แนะนำให้นั่งใกล้กับทางเดินเผื่อเวลาลูกของท่านส่งเสียงดัง ก็จะได้สามารถพาเดินออกจากพิธีได้โดยง่าย และไม่ควรขอของกินในปริมาณมากเกินเหตุจนหน้าเกลียด แนะนำให้ทานพอเป็นพิธี (นอกเสียจากทางเจ้าภาพอยากให้ท่านทานเป็นพิเศษ) และตลอดเวลาจากร่วมพิธีศพไม่ว่าจะเป็นพิธีใดก็ตาม MDs อยากให้ท่านปิดโทรศัพท์มือถือของท่าน ไม่ให้มีเสียงดัง และหากมีสายเรียกเข้า ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรหยิบขึ้นมาคุยในงานศพครับ
การแต่งกาย ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ คุณควรแต่งกายให้สุภาพ โดยหลักสากลแล้วนั้นเรานิยมใส่สูทผูกไทไปงานศพกัน และควรเป็นสูทสีดำ (หากไม่มีให้ใส่สีเข้มเช่นสีเทา หรือสีน้ำเงินเข้มเท่านั้น) จับคู่กับกางเกงเข้าชุด ใส่กับเสื้อเชิ๊ตสีขาวสะอาดตา และเน็คไทสีดำสนิทไม่มีลวดลาย ไม่ควรใส่รองเท้าผ้าใบ / รองเท้า Trainer / Tennis Shoes ไปร่วมงานครับ ควรใส่รองเท้า Dress Shoes เสมอและถุงเท้าสีดำสนิทไร้ลวดลายทรงสูงเพื่อปกปิดสีผิวช่วงข้อเท้าให้เรียบร้อย
เท่านี้การไปร่วม “งานศพ” ก็ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไปครับ สิ่งสำคัญก็คือการที่คุณเลือกแต่งตัวให้เหมาะสม เหมือนเป็นการเคารพพิธีและให้เกียรติแก่ครอบครัวผู้ที่ล่วงลับ ด้วยการแต่งกายที่ดี ไม่ใส่รองเท้าแบบ Casual ไปงานหรือใส่เสื้อยืด เสื้อโปโลเหมือนจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงนั่นเอง เพราะความเป็นสุภาพบุรุษ เริ่มต้นที่การวางตัวที่เหมาะสมในงานสำคัญต่างๆ นั่นเอง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะเดินทางไปร่วม “งานศพ” ของคนสำคัญนะครับ
Credit : funeralsforamoment / dwr.go.th / telegraph