ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราเชื่อว่าเป็นเป้าหมายในการท่องเที่ยวต่างประเทศของใครหลายคน ส่วนใครที่ไปแล้วมักอยากกลับเที่ยวอีก ด้วยความหลากหลายของธรรมชาติ วัฒนธรรมที่น่าหลงใหล สภาพอากาศ ผู้คน ไปจนถึงเรื่องอาหารการกินที่แต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาคมีไม่เหมือนกัน สำหรับ MenDetails จังหวัด นางาซากิ เป็นสถานที่ที่มีโอกาสได้ไปเยือนหลายครั้งในต่างวาระ เรามีความประทับใจมากมายที่นั่น หนึ่งในนั้นคืออาหารท้องถิ่นที่เรียกว่า จัมปง (Champon) ครับ
สำหรับคนไทย จัมปง คงเป็นชื่อของอาหารที่ไม่คุ้นหูนัก โดยเฉพาะใครที่ไม่ได้สนใจในเรื่องอาหารการกินของญี่ปุ่น แต่จัมปงเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ที่เราอยากให้ทุกท่านมีโอกาสลองกินดูสักครั้ง เพราะถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของนางาซากิ ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับจัมปงให้มากขึ้น รวมถึงพาทุกท่านไปกินจัมปงโดยไม่ต้องบินไปไกลถึงนางาซากิครับ
จัมปง อาหารจานเส้นจากนางาซากิ
อย่างที่เราบอกไปตอนต้นว่า จัมปงเป็นอาหารขึ้นชื่อจากนางาซากิ และโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น ถึงขนาดที่เราพูดได้ว่า หากมาเยือนนางาซากิแล้ว ไม่ได้แวะไปกินจัมปง คงเรียกว่ามาถึงได้ไม่เต็มปากครับ
จังปงคืออาหารจานเส้นที่อุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารและพลังงาน นอกจากเส้นแล้วยังครบเครื่องทั้งผักอย่าง ถั่วงอก เห็ดหูหนู กะหล่ำปลี อาหารทะเล เนื้อหมู / ไก่ พร้อมด้วยน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกหมู / ไก่ ออกมาเป็นสีขาวขุ่น ไปจนถึงครีม มาเป็นจัมปงให้เราได้ลิ้มลองกัน
รสชาติจัมปงจะออกมันเค็ม จากซุปกระดูก มีรสชาติหวานของผักกะหล่ำปลี และรสชาติจากอาหารทะเลในชาม ผสมกันอย่างลงตัว ทั้งเส้นทั้งเครื่องที่ให้มาจนล้นชาม รับรองว่าเมื่อกินจนหมดแล้วนอกจากจะอิ่มแล้ว ยังได้พลังงานเต็มที่
หลายร้านอาจมีการปรับสูตรของน้ำซุปให้ต่างกันบ้าง รวมถึงเครื่องที่ใส่ อย่างร้านที่เรามีโอกาสได้ไปกินใน China town ของนางาซากิ จะจัดเต็มในการใส่อาหารทะเลมาก ทั้งกุ้ง ลูกชิ้นปลา หอย ในขณะที่บางร้านก็จะใส่กุ้งมาเป็นพิธี เน้นที่เนื้อหมูกับผัก ก็ถือเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านครับ แต่หัวใจหลักของจัมปงไม่ต่างไปจากนี้แน่นอน
จัมปง อาหารที่มีต้นกำเนิดจากพ่อครัวชาวจีน
ถึงจะบอกว่าจังปงเป็นอาหารขึ้นชื่อของนางาซากิ แต่ถ้าขุดลงไปถึงต้นกำเนิดแล้ว จัมปงคืออาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมของจีนกับญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน เพราะผู้ที่ให้กำเนิดอาหารจานนี้ กลับเป็นพ่อครัวชาวจีนที่มาเปิดร้านอยู่ในนางาซากิครับ
จัมปง มีต้นกำเนิดมาจากอาหารของมณฑลฝูเจี้ยน หรือที่เราเรียกว่าฮกเกี้ยน ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่มีความเบา แต่เต็มไปด้วยรสชาติ ใช้วัตถุดิบจากทั้งทะเลและป่าเขา แถมขึ้นชื่อเรื่องการทำซุปแบบสุด ๆ และ ฝูโจว เมืองหลวงของมณฑลนี้ ยังเป็นบ้านเกิดของ Chin Heijun ผู้ให้กำเนิดจัมปงอีกด้วย
Chin Heijun เป็นพ่อครัวชาวจีนที่เดินทางเข้ามานางาซากิในสมัยเมจิ (กลางศตวรรษที่ 19 ถึง ต้นศตวรรษที่ 20) ในขณะนั้นญี่ปุ่นเพิ่งเปิดประเทศ ทำให้นางาซากิเป็นเมืองท่าที่มีชีวิตชีวามาก ทั้งในแง่การค้า และการหลั่งไหลเข้ามาของผู้คนจากประเทศต่าง ๆ ในเมืองนางาซากิแห่งนี้ เขาตัดสินใจเปิดร้านอาหารชื่อว่า Shikairo ขึ้น และกลายเป็นหนึ่งในร้านเก่าแก่ที่ยังเปิดให้บริการมาจนถึงทุกวันนี้ หากใครมีโอกาส สามารถแวะไปกินจัมปงจากร้านต้นกำเนิดได้ครับ ในร้านยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติจัมปงให้เข้าชมฟรีด้วย
ในยุคนั้น นางาซากิเต็มไปด้วยนักเรียนชาวจีนที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนหนังสือ นักเรียนหลายคนฐานะไม่ดีนัก ทำให้ไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วน Chin Heijun จึงต้องการช่วยเหลือนักเรียนเหล่านั้น ด้วยการคิดค้นอาหารที่ราคาถูก ให้พลังงานเยอะ อยู่ท้อง เกิดเป็น “Shina (China) Udon” หรือ อูด้งจีน ที่ในภายหลังเรียกกันว่าจัมปง
อาหารของ Chin Heijun ไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนชาวจีน เพราะความอร่อยของมัน ทำให้ชาวเมืองนางาซากิหลงรักมันไปด้วย ชื่อเสียงของจัมปงจึงโด่งดัง เกิดร้านอาหารจีนที่ขายจัมปงขึ้นมากมาย มีหลายร้านที่เอาไปปรับสูตรจนเกิดเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้จัมปงกลายเป็นอาหารท้องถิ่นและอาหารขึ้นชื่อของนางาซากิไปในที่สุด
จัมปงของญี่ปุ่น มีญาติห่าง ๆ ที่คล้ายกัน และมีต้นกำเนิดจากจีนเหมือนกัน คือ จัมปง (Jjamppong) แต่ จัมปงเป็นอาหารหลู่ และจะใช้น้ำซุปสีแดงที่มีรสเผ็ด แต่เครื่องอย่างผักและอาหารทะเลเหมือนกัน แม้จะออกเสียงคล้ายกันก็จริง แต่เป็นอาหารคนละอย่างนะครับ
จัมปง ซาราอูด้ง เมนูจากนางาซากิที่เราอยากให้คุณได้ลอง
สถานการณ์โลกในช่วงปีนี้อาจจะไม่เอื้ออำนวย ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศไม่สะดวกนัก หลายคนที่อยากสัมผัสการไปเที่ยวต่างประเทศ ทำได้เพียงเสาะแสวงหาร้านอาหารของประเทศนั้น ๆ มากินเพื่อลดความอยากไปเที่ยวได้บ้าง สำหรับ MenDetails ก็ไม่มีข้อยกเว้นครับ เมื่อเราอยากกินจัมปงขึ้นมา จึงมุ่งหน้าไปยังร้าน Ringer Hut ร้านแฟรนไชน์ส่งตรงจากนางาซากิที่มีจุดเด่นเรื่องนี้โดยเฉพาะ และร้านอยู่ในตัวเมือง ง่ายต่อการเดินทางของเรา
สาขาที่เราเลือกมาฝากท้องครั้งนี้ คือสาขาธนิยะ ย่านที่มีคนญี่ปุ่นพลุกพล่านอยู่แล้ว ลงจาก BTS ศาลาแดง เดินลงมาฝั่งอาคารธนิยะ มองเข้าไปในซอยจะเห็นร้านอยู่สุดซอยครับ เยื้องกับ ภัตตาคาร แกรนด์เชียงการี
เมนูแรกที่เราสั่งไป แน่นอนว่าคือจัมปง ร้านจะมี 2 ขนาด คือ ขนาดปกติ (140.-) กับ ขนาดใหญ่ (200.-) ซึ่งเราเลือกสั่งขนาดปกติมา นอกจากนี้จัมปงของที่นี่ไม่ได้มีแค่ซุปจัมปงปกติ แต่มีจัมปงที่ใช้ซุปโชยุ กับซุปมิโซะแทนด้วย หรือหากใครชอบกินผักก็มีแบบผักเยอะพิเศษ และใครที่อยากได้รสชาติมัน ๆ ก็มีแบบ Corn Butter ที่ใส่ข้าวโพดกับเนยครับ แต่มาแล้วเราก็ขอกินแบบต้นตำรับแท้ ๆ ให้หายอยากครับ
ใครที่แวะมาฝากท้องช่วงเที่ยง ทางร้านมี Set จัมปงคู่กับข้าวผัดชาฮั่ง (ข้าวผัดจีนสไตล์ญี่ปุ่น ที่นิยมกินกับราเมง) ด้วยนะครับ แต่เรามาช่วงเย็นเลยไม่มี set นี้ให้สั่ง เราเลยตัดสินใจสั่งข้าวผัดชาฮั่ง (110.-) มาอีกจาน กินคู่กับจัมปง ข้าวผัดแบบเป็นจานจะมีซุปมิโซะมาให้ด้วยครับ
นอกจากจัมปงแล้ว นางาซากิยังมีอาหารท้องถิ่นอีกอย่างที่พัฒนาขึ้นมาหลังจัมปง และเป็นเมนูที่ร้านจัมปงต้องมีขายคู่กันเหมือน หอยทอด – ผัดไทยบ้านเรา เรียกว่า ซารา อูด้ง (Sara Udon) เป็นเส้นกรอบราดน้ำคล้ายราดหน้า จัดเต็มด้วยผักทั้งเห็ดหูหนู ถั่วงอก กะหล่ำปลี แครอท ข้าวโพด คู่กับลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น และกุ้ง มีขนาดปกติ (135.-) กับ ขนาดใหญ่ (170.-) ถ้ามาสองคนแล้วอยากแบ่งกัน ก็มีขนาดสำหรับสองคน (260.-) ด้วยครับ หากใครไม่ชอบแบบเส้นกรอบ ก็มีเส้นแบบจัมปง (หรือเส้นฟุโตเมง) ให้เลือกแทนครับ
สุดท้ายที่เราสั่งไป คือ เกี๊ยวซ่า ที่ถือเป็นเมนูเริ่มแรกของ Ringer Hut นอกจากจัมปง กับ ซารา อูด้งครับ เพราะมากันหลายคนเลยสั่งแบบ 10 ชิ้น (155.-) แต่ถ้ามาคนเดียวกลัวกินไม่หมด ร้านมีแบบ 3 ชิ้น กับ 5 ชิ้นขายนะครับ ต้องเตือนไว้ก่อนว่าเกี๊ยวซ่าเขาตัวใหญ่เต็มคำ 10 ชิ้นกินคนเดียวอาจมีจุกได้
เมนูที่พาเราหวนนึกถึงความหลัง เมื่อครั้งเยือนนางาซากิ
นั่งรอไม่นานนัก อาหารที่สั่งไปทั้งหมด ก็ยกมาเสิร์ฟถึงโต๊ะพร้อมกันในทีเดียว จากโต๊ะที่ดูโล่ง ก็แน่นขึ้นมาทันตาเห็น
เราเริ่มจากเกี๊ยวซ่าเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อน เกี๊ยวซ่าทอดร้อน ๆ กับซอสเปรี้ยว เกี๊ยวซ่าของร้านนี้จะทอดมาแบบกรอบด้านเดียว ทีเด็ดอยู่ที่ไส้ข้างในที่ไส้แน่น ฉ่ำ กินเพลินมาก
เมื่อน้ำย่อยในกระเพาะเริ่มทำงาน ก็ถึงเวลาของพระเอกในคราวนี้ นั่นคือจัมปงครับ น้ำซุปจัมปงของ Ringer Hut มีรสชาติที่นวล กลมกล่อม ไม่แรงเกินไป ให้ทุกคนสามารถกินได้ เส้นเหนียวนุ่มจับน้ำซุป กับรสชาติหวานของผัก ทำให้กินได้ไม่เลี่ยนครับ ในบางร้านที่เราเคยกิน รสชาติของทะเลจะออกมาชัด หรือ น้ำซุปบางร้านจะมีความมันที่มากขึ้น ทำให้หลายคนไม่ชอบ แต่ Ringer Hut จะทำรสชาติออกมานวล ๆ กลาง ๆ ให้เข้ากับลิ้นของทุกคนครับ
สำหรับคนนางาซากิ การกินข้าวผัดชาฮั่งคู่กับจัมปงเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป เราจึงกินคู่กันครับ จัมปงคำนึง ข้าวผัดคำนึง ตัวข้าวผัดชาฮั่งเป็นข้าวผัดญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดจากชาวจีนอพยพ ผัดในหม้อใบใหญ่ให้หอมกลิ่นกระทะ กับลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น ไข่ และผัก ทำออกมาได้รสชาติดีครับ
ส่วนซารา อูด้ง อาจจะมีรสเค็มไปสักหน่อย เพราะเวลากินเขาจะกินกับวูสเตอร์ซอส (Worcestershire sauce) ที่มีรสเปรี้ยวช่วยตัดรสกันครับ ทุกโต๊ะมีขวดซอสวางอยู่ หรือไม่ก็ กินคู่กับมัสตาร์ดที่ใส่มาในจานซารา อูด้งครับ รสเปรี้ยวจะมาช่วยตัดรสความเค็มของเส้นกรอบ กับน้ำที่ราดมาได้ดี ทำให้รสชาติสมดุลกันพอดี แต่ใครที่ชอบกินรสเค็ม ถ้าจะไม่ใส่ก็ไม่ผิดครับ
เมื่อได้กินทั้งจัมปง และซารา อูด้ง ก็ชวนให้นึกถึงตอนที่เรามีโอกาสเดินเข้าร้านจัมปง แล้วสั่งทั้งสองจานมากิน ความรู้สึกและความทรงจำที่เหมือนได้เดินทางกลับไปนางาซากิอีกครั้ง บรรยากาศในร้านจัมปงในช่วงอากาศเย็น ๆ แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่เข้ามาหาอะไรอุ่น ๆ กินในร้าน กลิ่นของอาหารและไอร้อนที่ลอยอยู่ในอากาศ การพยายามสื่อสารกับเจ้าของในร้านในการสั่งอาหารต่าง ๆ ทำให้รู้สึกคิดถึงขึ้นมาเลยครับ
โดยเฉพาะซารา อูด้ง กับข้าวผัดชาฮั่ง ที่เราเคยกินในร้าน Ringer Hut ในนางาซากิมาแล้ว รสชาติของมันเหมือนพาเราย้อนเวลากลับไปที่โต๊ะสีเหลืองในร้านตัวนั้น กับความเก้ ๆ กัง ๆ ในการสั่งอาหารด้วยตัวเอง มากินกับเพื่อนชาวญี่ปุ่น พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เป็นรสชาติที่น่าคิดถึงมากจริง ๆ ครับ แม้จะมาเปิดสาขาในไทย แต่ยังคงรสชาติเดิมไว้ได้ไม่มีเปลี่ยน
ใครที่ไม่เคยลองจัมปง และซารา อูด้ง หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของนางาซากิ ที่เต็มไปด้วยพลังงาน สารอาหาร ราคาที่เป็นมิตรเทียบกับปริมาณที่ได้รับ และรสชาติแบบนางาซากิแท้ ๆ ร้าน Ringer Hut ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการทำความรู้จักจัมปงครับ ในไทยมีถึง 5 สาขา คือ เกตเวย์ เอกมัย, พร้อมพงษ์ สุขุมวิท, เซ็นจูรี่พลาซ่า, บ้านก้ามปู และที่ซอยธนิยะครับ ส่วนเวลาเปิดทำการจะแตกต่างกันไป ถ้าไปช่วง 11.00 น. – 20.00 น. ไม่ว่าสาขาไหนก็ได้กินแน่นอนครับ เรียกได้ว่าไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ก็สามารถกินอาหารขึ้นชื่อของนางาซากิได้
นอกจากจัมปงแล้ว ทางร้านยังมีข้าวหน้า อูด้ง ราเมง และเมนูอื่น ขายด้วยครับ ใครที่คิดถึงญี่ปุ่น และอยากกินอาหารญี่ปุ่นช่วงนี้ ลองแวะมากินจัมปงจากนางาซากิสักครั้ง ไม่แน่ว่ามันอาจจะทำให้แผนการไปญี่ปุ่นครั้งหน้าของใครหลายคน จุดหมายปลายทางอาจจะเป็นนางาซากิและแถบคิวชูก็เป็นได้ครับ
นอกจากนี้เรายังได้ข่าวว่า มีร้านชื่อ Kinshiro อีกร้านหนึ่ง ที่ขายอาหารจากนางาซากิ ทั้งจัมปง และซารา อูด้ง รสชาติเยี่ยม โดยเชฟญี่ปุ่นแท้ ๆ อยู่แถวบางนา สำหรับใครที่เดินทางเข้าตัวเมืองไม่สะดวก Kinshiro อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความรู้จักอาหารสไตล์นางาซากิ ร้านยังมีอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ ให้เลือกสั่งด้วย หากมีโอกาส MenDetails คงต้องแวะไปกินสักครั้ง เพราะจัมปงครั้งเดียว คงยังไม่พอที่จะดับความคิดถึงนางาซากิของเราได้ง่าย ๆ