ในความเป็นจริงนั้น ‘Gentleman’s Club’ หรือการรวมตัวกันของกลุ่มสุภาพบุรุษที่ใส่ใจในสไตล์การแต่งกายและบุคลิกภาพของตัวเองในรูปแบบที่ Classic และมีความเป็นทางการนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด แต่สิ่งที่พิเศษสำหรับ Gentleman’s Club ที่มีชื่อว่า ‘Mr.Erbil’ ที่ MenDetails เลือกหยิบมาพูดถึงในวันนี้นั่นเพราะ Mr.Erbil ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในดินแดนที่ยังคงคุกรุ่นไปด้วยไฟสงครามอย่างประเทศอิรักนี่แหละครับ พวกเขาทำได้อย่างไร? และพวกเขามีจุดประสงค์อะไร? ไปค้นหาคำตอบกับเราได้เลยครับ
กำเนิด ‘Mr.Erbil’
‘สงครามไม่เคยสร้างประโยชน์ใดให้ผู้คนโดยส่วนรวม’ มีเพียงคนกลุ่มเล็กๆ และบรรดานายทุนผู้ขายอาวุธเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์แบบอิ่มหมีพีมันจากสงคราม ทิ้งให้คนส่วนใหญ่ต้องเผชิญความยากลำบาก, ความอันตรายจากการสู้รบ และเศรษฐกิจที่ตกต่ำในภาวะสงคราม ไม่เว้นแม้แต่ผู้คนในเมืองเออบิล (Erbil) ที่ตั้งอยู่ในเขตปกครองของชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของประเทศอิรักที่ต้องเจ็บปวดกับการสู้รบกันอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบสุขอย่างถาวรสักที
แต่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ชายชาวเคิร์ดในเมืองเออบิลที่อยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น และอยากจะใช้ “ธุรกิจแฟชั่น” เข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพของเมืองให้ดีขึ้นกว่านี้ จึงเกิดการรวมตัวกันของผู้ชายที่รักการแต่งกายและการพัฒนาบุคลิกภาพตามแบบ Classic Gentleman ขึ้นที่นี่ และตั้งชื่อกลุ่มว่า ‘Mr.Erbil’ โดยเริ่มต้นจากสมาชิกเพียง 22 คนจนตอนนี้คาดว่าสมาชิกน่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยแล้ว
ณ วันที่ MenDetails เขียนถึง Mr.Erbil อยู่ในตอนนี้ Instagram ของ Mr.Erbil มียอดคน follow ไปแล้วกว่า 72,000 คนและน่าจะยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆท่ามกลางเสียงชื่นชมในความกล้าคิดกล้าทำของสุภาพบุรุษกลุ่มนี้แม้จะติดอยู่ภาวะสงครามด้วยกันก็ตาม
Mr.Erbil ‘A Kurdish Gentleman’s Club in Iraq’ photo : Mr.Erbil / dailymail.co.uk
วัตถุประสงค์ของ ‘Mr.Erbil’
การรวมตัวกันเป็น Mr.Erbil ไม่ได้เป็นเพียงการจับกลุ่มกันอวดเสื้อผ้าสวยๆ รองเท้าดีๆ ที่ต่างคนต่างงัดมาโชว์กันเพียงอย่างเดียว แต่ Mr.Erbil ต้องการจะใช้กลุ่มที่ตั้งขึ้นนี้เพื่อแสดงภาพลักษณ์ที่ดีของชาวเคิร์ดในอิรักออกไปสู่สายตาชาวโลก รวมถึงอยากที่จะให้กลุ่มนี้เป็นช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่สินค้าแฟชั่นและเครื่องแต่งกายที่ผลิตในประเทศ เพื่อส่งเสริมธุรกิจและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอีกทางหนึ่งด้วย เรียกได้ว่าคิดการณ์ใหญ่กันพอตัวเลยทีเดียว ไม่ได้เน้นโชว์กันไปวันๆแต่อย่างใด พวกเขาอยากจะพัฒนาให้กลุ่ม Mr.Erbil เป็นเหมือนงาน Pitti Uomo ในอิตาลี่ ที่ผู้ชายจากทุกมุมโลกมารวมตัวกันเพื่อแสดงออกในเรื่องของการแต่งกาย รวมถึงเป็นตลาดการซื้อขายสินค้าแฟชั่นที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแฟชั่นของสุภาพบุรุษอีกด้วย
แล้วประเทศไทยล่ะ?
มอง Mr.Erbil แล้วย้อนกลับมาดูตัวเองที่เป็นประเทศที่ปราศจากสงครามอย่างประเทศไทยกันบ้าง (แม้เราจะทะเลาะกันเองบ้างเป็นครั้งคราวก็ตาม) เท่าที่ MenDetails พอรู้นั้น ประเทศไทยมี Gentleman’s Club อยู่น้อยมาก และมักจะมีจำนวนสมาชิกที่น้อยอีกทั้งไม่ได้รับความสนใจจากสังคมทั่วไปเท่าที่ควร อาจจะด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่ทำให้การรวมตัวกันเป็น Gentleman’s Club ไม่ได้รับความนิยมนักในบ้านเรา อย่างแรกน่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศ ซึ่งการแต่งกายแบบ Classic Gentleman อันที่มาจากเมืองหนาวในโลกตะวันตก จะมีเครื่องแต่งกายหนาๆ อย่างชุดสูท, ทักสิโด้ หรือเสื้อโค้ทหนาๆที่ไม่เหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนๆอย่างบ้านเรา ทำให้ผู้ชายไทยไม่ได้มีความสนใจหรือเอาใจใส่ที่จะเลือกใส่เสื้อผ้าแบบนี้อย่างละเอียดเท่าที่ควร
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือค่านิยมของสังคมไทยส่วนใหญ่ที่เหมารวมว่าผู้ชายที่ดูแลเอาใจใส่รายละเอียดในการแต่งตัวอย่างดีนั้นมักจะเป็น “ชายที่ไม่สมชาย” เท่าไหร่นัก และเสี่ยงที่จะถูกตราหน้าว่าเป็น “ผู้ชายเยอะ” หรือ “กระแดะอยากเป็นผู้ดี” ซึ่งให้ความหมายในแง่ลบไปแทน ผู้ชายไทยจึงต้องท่องสโลแกนว่า “เป็นผู้ชายต้องไม่เยอะ และต้องทำตัวง่ายๆ แต่งตัวง่ายๆ อะไรแบบไหนก็ได้” ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นบริบทที่ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการก่อตั้ง Gentleman’s Club ในเมืองไทย เพราะรับรองว่าต้องถูกหมั่นไส้เอาง่ายๆแน่นอน ดังนั้นการแต่งกายด้วยชุดสูท และกางเกง dress pants จึงถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่จำเป็นต้องใส่ เช่นกลุ่มคนทำงานระดับสูง หรือเหล่าบรรดาชนชั้นสูงในสังคม นั่นทำให้ ‘สูท’ และเครื่องแต่งกายที่เกี่ยวข้องกับมันกลายเป็นเครื่องหมายของความ “ไฮโซ” ในไทย ที่ผู้ชายไทยส่วนใหญ่อาจรู้สึกตะขิดตะขวงใจ และไม่อยากจะถูกเรียกเป็นแบบนั้น
จะมีกลุ่มอย่าง Mr.Erbil ในไทยได้หรือไม่ในอนาคต?
MenDetails คงไม่บังอาจที่จะทำนายอนาคตของแวดวงการแต่งกายของผู้ชายในไทย แต่ Mr.Erbil ในอิรักได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า การแต่งกายให้ดูดี ดูภูมิฐานอย่างสุภาพบุรุษ ไม่ใช่เรื่องที่เราจำเป็นจะต้องฟุ่มเฟือย หรือจะต้องเป็นชนชั้นสูงผู้มั่งมีเสียก่อนจึงจะทำได้อย่างทีผู้ชายไทยอาจจะคิดกันแบบนี้เป็นการทั่วไป เพราะผู้ชายชาวเคิร์ดที่รวมตัวเป็น Mr.Erbil นั้นแต่ละคนไม่ได้มีฐานะที่ร่ำรวยหรือเป็นชนชั้นสูง ทุกๆคนก็ถูกไฟสงครามเล่นงานกันอ่วมถ้วนหน้า บางคนไม่ได้เงินเดือนจากการทำงานมาหลายเดือนแล้วด้วยซ้ำไป แต่สมาชิกของ ‘Mr.Erbil’ ทำให้เราได้เห็นว่า การที่ผู้ชายจะเอาใจใส่การแต่งตัวให้ภูมิฐานและดูดีได้นั้นไม่ได้จำกัดว่าคุณจะต้องเป็นผู้รากมากดี หรือมีฐานะร่ำรวยเท่านั้นจึงจะทำได้ และถ้าประเทศที่ยังอยู่ในภาวะสงครามแย่างอิรักยังทำได้ ทำไมประเทศไทยจะทำไม่ได้ จริงไหมครับ
เหตุผลข้างต้นอาจจะยังไม่พอที่จะทำให้สถานการณ์ของแฟชั่นชายในไทยนั้นดูดีขึ้น แต่ MenDetails ก็อยากที่จะขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้เรื่องการแต่งกายและพัฒนาบุคลิกภาพของผู้ชาย ตลอดจนข้อมูลข่าวสารต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ผู้ชายชาว MenDetails ได้อ่านและรู้สึกคุ้นเคยกับการแต่งกายให้ดูดี เพื่อสักวันหนึ่งที่เรามีกลุ่มผู้ชายที่เอาใจใส่ในบุคลิกภาพของตัวเองมากขึ้นกว่านี้ เราก็อาจจะมี Mr.Erbil ในเวอร์ชั่นไทยบ้างก็เป็นได้ครับ
Mr.MDs หวังว่าทุกคนจะติดตามเรากันไปเรื่อยๆนะครับ