ในช่วงเวลาเกือบ ๆ 20 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่ามนุษย์มีการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ Platform Social Media ต่าง ๆ ที่ทำให้มนุษย์สื่อสารกับได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางและเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้คนจากซีกโลกตะวันตกกับตะวันออกสามารถพูดคุยกันได้อย่างง่ายดาย แต่การเติบโตขึ้นของ Social Media ในช่วงปีหลัง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระบาดทั่วโลกในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนเริ่มมองเห็นอีกหนึ่งอันตรายที่อยู่ในพื้นที่ออนไลน์ และกำลังส่งผลต่อคนรุ่นใหม่ นั่นคือ Social Media Toxic หรือ โซเซียล มีเดีย เป็นพิษนั่นเอง
ในบทความนี้ของ MenDetails จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเรื่องนี้คร่าว ๆ รวมถึงผลกระทบต่อคนรุ่นใหม่ ที่ Social Media มีอิทธิพลอย่างมาก และวิธีการรับมือความเป็นพิษในโลกออนไลน์อย่างง่ายครับ
Social Media Toxic ความเป็นพิษในโลกออนไลน์
เราเคยพูดถึงลักษณะของ คนเป็นพิษ (Toxic People) ไปแล้วว่าคนประเภทนี้เป็นอย่างไร แต่ในปัจจุบันที่เราพบเจอความ Toxic ไม่ใช่แค่ในชีวิตจริง แต่ยังลามมาถึงโลกออนไลน์ด้วย ที่พื้นที่ในโลกออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยพิษ เพราะคนเป็นพิษหลาย ๆ คนมาเจอกัน ทำให้ความเข้มข้นของพิษสูงมากขึ้น โดยเฉพาะในบาง Platform ที่มีผู้ใช้สูงอย่าง Facebook, IG, Twitter
ด้วยความที่ Social Media เป็นช่องทางที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้งานได้ (ถ้ามีอินเทอร์เน็ต) และหลาย ๆ ครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ทำให้หลาย ๆ คนแสดงนิสัยแบบ Toxic ออกมาโดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเองมากนัก ไม่ว่าจะเป็น Cyber Bully, การสร้างข่าวปลอมโจมตีผู้อื่น, การแสดงทัศนคติแย่ ๆ, การเหยียดคนอื่น, การใช้คำหยาบคายโจมตี, การแสดงความเห็นส่วนตัวที่ตรรกะผิดเพี้ยน ไปจนถึงการสร้างกระแสแปลก ๆ ในโลกออนไลน์ แต่ก็น่าแปลกใจที่มีคนบางกลุ่มที่เห็นดีเห็นงามด้วยมาสนับสนุนกันเอง
สุดท้ายเลยทำให้หลาย ๆ คน ตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมเป็นพิษเหล่านี้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม บางคนก็ค่อย ๆ ซึมซับความเป็นพิษเหล่านี้แล้วมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่การกระทำเหล่านี้ทำให้เกิดความเป็นพิษในโลกออนไลน์ขึ้นมา
ผลกระทบต่อคนรุ่นใหม่
คนรุ่นใหม่ในที่นี้หมายถึงคนที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีเหล่านี้เลย อย่างคน Gen Z และ Alpha พวกเติบโตมากับ Social Media การใช้ Smart Phone ทำให้พวกเขาใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์เหล่านี้ไปโดยปริยาย พฤติกรรมหลาย ๆ อย่างจึงถูกซึมซับมาจากช่องทางเหล่านี้
ในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดจนทำให้คนออกจากบ้านน้อยลง การมีปฏิสัมพันธ์แบบเห็นหน้าก็น้อยลงไป หลาย ๆ คนใช้ช่องทางออนไลน์ในการติดต่อกันมากขึ้น นั่นรวมถึงคนกลุ่มนี้ด้วย เพราะเพื่อนของเขาอยู่ในโลกออนไลน์กันหมด และในโลกออนไลน์ก็เป็นเรื่องยากที่จะมีคนมาคอยหยุดการกระทำที่เป็นพิษเหล่านั้น ทำให้คนรุ่นใหม่หลาย ๆ คนที่รวมตัวกัน เกิดเป็น Echo Chamber ขึ้นมา นั่นคือคนที่คิดอะไรเหมือน ๆ กัน มาอยู่ด้วยกัน พอมีความคิดแบบเดียวกันก็เลยคิดว่าเรื่องที่ตัวเองคิดมันถูกต้อง ไม่ได้มองคนอื่น ๆ หรือมองความเป็นจริงอื่น ๆ
ทำให้เรามักเห็นตรรกะความคิดแปลก ๆ ไปจนถึงเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นดราม่า แต่ก็เป็น ไปจนถึงการสร้างกระแสแปลก ๆ ที่ไม่น่าจะเข้าท่า แต่กลับมีคนทำตามมากมาย เช่น พวกกระแสกินของดิบหรือเล่นพิเรนทร์ต่าง ๆ ใน Tiktok เป็นต้น นอกจากจะส่งผลในโลกออนไลน์ มันยังส่งผลต่อตัวคนในชีวิตจริงด้วย โดยเฉพาะระบบความคิด ทั้งหมดเป็นผลมาจากการได้รับพิษใน Social Media ทั้งสิ้น
วิธีการรับมือพิษใน Social Media เบื้องต้น
โลกออนไลน์เป็นอะไรที่ควบคุมยาก ดังนั้นเราคงไม่บอกว่าให้เลิกเล่นสื่อออนไลน์เพราะคงเป็นไปไม่ได้ในยุคนี้ ครั้นจะท่องโลกออนไลน์โดยไม่เจอพวกพิษเหล่านี้ก็ทำได้ยาก แต่ถ้าให้แนะนำเบื้องต้น คือ หากเจอพิษมาก ๆ เราอาจต้องเลิกเล่นในช่วงเวลานั้น ๆ ไปทำกิจกรรมอย่างอื่น หรือถ้าเราได้รับพิษมากจนทำให้เครียด ทั้งเรื่องตรรกะของคน กระแสแปลก ๆ ไปจนถึงการโต้เถียงกับคนในออนไลน์ การทำ Social Media Detox หรือการออกจากโลกออนไลน์ไปสักระยะก็พอช่วยได้
สำหรับคนที่ท่องโลกออนไลน์ ใช้ Social Media เป็นประจำ เราก็อาจจะต้องใจเย็นลงสักหน่อย เพราะบางเรื่องมันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นประเด็น อย่างพวกแฮชแท็กเซฟอาหารต่าง ๆ ที่คนไทยชอบตั้งกัน บางทีก็มาจากความคิดของคนคนเดียว เช่น มีคนไม่ชอบกินชานมไข่มุก ก็มีคนไปตั้ง #เซฟชานมไข่มุก กัน ทั้งที่จริง ๆ ความชอบก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไปจนถึงพยายามเสพข่าวให้รอบด้าน อย่าเพิ่งฟังความด้านเดียว อย่างเรื่องเวลามีดราม่าดาราคนไทยก็จะออกมาแสดงความเห็นกันอย่างเผ็ดร้อน ด่ากันจนโดนหมายฟ้องขึ้นโรงพัก แต่สุดท้ายพอคดีพลิกก็หน้าแตกกันไปตาม ๆ กัน รวมถึงการพยายามยอมรับความหลากหลาย ฟังความเห็นของคนอื่นด้วย เพราะความคิดของเราไม่ได้ถูกเสมอไป การเปิดใจยอมรับฟัง รับความหลากหลายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีครับ
สุดท้าย เวลาจะทำอะไรในโลกออนไลน์ เราอยากให้ไตร่ตรองให้ดีว่าที่ทำอยู่มันเข้าท่าไหม มันจะสร้างความเดือดร้อนให้ใครหรือไม่ อย่าทำเท่สร้างกระแสแปลก ๆ ให้คนอื่นทำตามแล้วเกิดผลเสีย เพราะปัจจุบันโลกออนไลน์ เราไม่ได้ถูกตามตัวยากเหมือนก่อนแล้ว มี Digital footprint ให้ตามตัวเจอ มันจะกลายเป็นตราบาปติดตัว เราเห็นตัวอย่างของคนที่หมดอนาคตจากการทำอะไรไม่คิดในโลกออนไลน์กันมาเยอะแล้ว
ในโลกที่ Social Media เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่สำหรับเราคิดว่าการได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนจริง ๆ ก็จำเป็นไม่แพ้กัน เพราะมันทำให้เราเรียนรู้มารยาทการพูดคุยกับคนจริง ๆ ที่ต่างจากในโลกออนไลน์ ก็จะช่วยลดความ Toxic ลงได้ แต่สุดท้ายการเสพข้อมูลให้รอบด้าน กับให้ใจเย็นขึ้น น่าจะเป็นเกราะป้องกันความเป็นพิษไม่ให้เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี