เมื่อพูดถึงสหรัฐอเมริกา เมือง New York City น่าจะเป็นหนึ่งในเมืองที่หลาย ๆ คนรู้จักมากที่สุด ทั้งในแง่ของเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีวัฒนธรรมและ Landmark ที่น่าสนใจ ยังไม่นับการปรากฏตัวเป็นฉากหลังของภาพยนตร์และเกมต่าง ๆ อีกมากมาย เป็นเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้คน และหากใครที่เป็นนักดื่ม NYC ก็ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะ Cocktail ชื่อดังหลายตัวก็มีต้นกำเนิดในเมืองนี้ ในบรรดา Cocktail เหล่านั้นมีอยู่ 5 อย่างที่ถูกตั้งชื่อตามเขตทั้ง 5 ของ NYC ที่ในบทความนี้ MenDetails จะพาไปรู้จักกับมันครับ เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับการสั่งเครื่องดื่มแก้วต่อไปของทุก ๆ ท่าน
Manhattan
ในบรรดา Cocktail ทั้ง 5 แก้ว แก้วนี้น่าจะเป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงและคนรู้จักมากที่สุด ตั้งชื่อตามเขต Manhattan ของ NYC โดยมีส่วนผสมคือ เหล้าวิสกี้ (ดั้งเดิมจะใช้เหล้า Rye แต่สามารถใช้วิสกี้ประเภทอื่นแทนได้), Sweet Vermouth และ Bitters คนให้เข้ากัน เสิร์ฟในแก้ว Cocktail และตกแต่งด้วยเชอร์รี่ ปัจจุบันก็มีการปรับสูตรเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปตามบาร์แต่ละแห่ง แต่มันก็ถือเป็น Cocktail ที่ Timeless และคลาสสิกไม่เปลี่ยนแปลง
แม้จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของมันหลายเรื่อง มีมูลความจริงบ้าง เป็นเรื่องแต่งบ้าง แต่เราก็พอจะรู้ว่ามันถือกำเนิดขึ้นในเขต Manhattan ตามชื่อของมัน ในช่วงปี 1860s – 1880s และได้รับความนิยมเรื่อยมา มีการกล่าวถึงในหนังสือเกี่ยวกับ Cocktail หลายเล่มทั้งในยุคนั้นและยุคต่อ ๆ มา โดยการกล่าวถึงที่เก่าที่สุด คือ ช่วงปี 1884 ในหนังสือ American and other Drink ของ Charlie Paul และ The Modern Bartender’s Guide ของ O.H. Byron แม้เราไม่อาจทราบต้นกำเนิดที่แท้จริง แต่ความนิยมของเครื่องดื่มแก้วนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
Queens
มาถึง Cocktail ประจำเขต Queens เขตที่ใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากที่สุดของ NYC แม้ Cocktail นี้อาจไม่คุ้นหูคนทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่อาศัยในเขต Queens แล้ว Cocktail ตัวนี้ไม่ได้หายากหรือแปลกประหลาดแต่อย่างใด
ความหลากหลายของเชื้อชาติในเขต Queens ก็ถูกบอกเล่าผ่านน้ำสับปะรดที่มาผสมกับ Perfect Martini (Martini ที่ใช้ Sweet กับ Dry Vermouth ในสัดส่วนที่เท่ากัน) นำส่วนผสมทั้งหมดมาเขย่าในแก้ว Shaker แล้วเทเสิร์ฟในแก้ว Cocktail ที่แช่เย็นไว้ก่อน อาจมีการตกแต่งด้วยชิ้นสับปะรด เป็นการนำความหลากหลายที่ดูแตกต่างมาผสมรวมกันอย่างลงตัว กลายเป็น Queens แก้วนี้
เช่นเดียวกับ Manhattan มันเป็น Cocktail ที่ไม่มีต้นกำเนิดแน่ชัด รู้เพียงว่ามันถือกำเนิดก่อนปี 1930 เพราะ Cocktail แก้วนี้มีการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในหนังสือ The Savoy Cocktail ของ Harry Craddock บาร์เทนเดอร์ผู้โด่งดังแห่งยุคที่เขียนในปีนั้น แต่ในหนังสือเล่มนั้นกลับเรียกมันว่า Queen’s Cocktail หรือ Cocktail ของราชินี ส่วนสาเหตุนั้นไม่แน่ชัด ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเหลือเพียงชื่อ Queens และกลายเป็น Cocktail ประจำเขต Queens ไป แม้ว่ามันอาจไม่ได้ถูกคิดค้นในเขตนี้ก็ตาม
Bronx
Cocktail แก้วนี้จะนับว่าเป็นญาติของ Queens ก็ได้ เพราะมันเป็น Perfect Martini ที่ถูกดัดแปลงเช่นกัน แต่แทนที่จะใช้น้ำสับปะรด Bronx จะใช้น้ำส้ม กับ bitters ส้มแทน
Cocktail แก้วนี้ในปี 1934 มันถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบ Cocktail ที่โด่งดังที่สุดในโลก เป็นอันดับ 3 รองจาก Martini และ Manhattan และในปีนั้นมันยังถูกกล่าวถึงในภาพยนตร์ The Thin Man ในฉากที่ตัวละคร Nick Charles ของนักแสดงหลักอย่าง William Powell เปรียบเทียบการเขย่าเครื่องดื่ม Martini, Manhattan และ Bronx ที่มีรายละเอียดต่างกัน
และเช่นเดียวกับเครื่องดื่มที่เราพูดถึงก่อนหน้า Bronx เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่มีการอ้างถึงต้นกำเนิดของมันที่หลากหลาย อย่างน้อย 3 เรื่อง และมีการกล่าวถึงครั้งแรก ๆ ในหนังสือ The World’s Drinks And How To Mix Them ของ William “Cocktail” Boothby ในปี 1908
Brooklyn
Cocktail แก้วนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ Manhattan แต่จะมีการเจาะจง bitters ที่จะใช้เลยว่าต้องเป็นอะไร ต่างกับ Manhattan ที่สามารถใช้ bitters ที่หลายอย่างกว่าในการผสม รวมถึง Brooklyn จะมีการใส่เหล้า Maraschino เพิ่มไปด้วย
มันถูกกล่าวถึงครั้งแรกในหนังสือ Jack’s Manual ของ J.A. Grohusko ในปี 1908 และถูกลืมเลือนไปหลังยุคการห้ามขายสุราในสหรัฐอเมริกาจบลง แต่ก็ฟื้นคืนชีพกลับมาในช่วงยุค 1990s และยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
Staten Island
New York City Cocktail แก้วสุดท้ายของเรา มาจากเขต Staten Island เขตที่หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ เพราะเป็นเขตที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อยที่สุด และ Cocktail ที่มีชื่อเดียวกับเขตนี้ ก็ไม่ได้ใช้ชื่อของเขตนี้ซะทีเดียว เพราะมันถูกเรียกว่า Staten Island Ferry ตามเรือเฟอร์รี่ที่คอยรับส่งคนข้ามฟากระหว่างเขต Manhattan กับ Staten Island
Cocktail แก้วนี้มีความคล้ายกับ Piña colada คือใช้น้ำสับปะรดกับเหล้า Malibu แต่จะไม่ใส่นมมะพร้าว ทำให้การทำง่ายกว่ากันมาก แค่คนให้เข้ากันแล้วเสิร์ฟ แม้จะไม่ได้รับความนิยมหรือเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางแต่ก็เป็นอีกหนึ่ง Cocktail ที่หลายคนติดใจ
การใช้ส่วนผสมที่คล้ายกับ Piña colada ก็แอบเป็นการเสียดสีเล็ก ๆ เพราะแม้ Staten Island จะเป็นเกาะ แต่ก็ห่างไกลจากบรรยากาศเกาะเขตร้อนที่มีผลไม้เมืองร้อนและมะพร้าว คนที่อยากได้บรรยากาศเกาะเขตร้อนจึงต้องผสม Cocktail ที่ให้ความรู้สึกแบบนั้นแทน
และนี่คือ 5 Cocktail ที่ถูกตั้งชื่อตามเขตต่าง ๆ ของ New York City ครับ อาจจะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมเวลาที่หลาย ๆ คนไปบาร์แล้วไม่รู้จะสั่งเครื่องดื่มอะไร ก็ลองเครื่องดื่มเหล่านี้ดูได้ และหากมีเรื่อง Cocktail หรือเครื่องดื่มอะไรที่น่าสนใจในอนาคต เราจะมานำเสนอให้ได้อ่านกันแน่นอน