ออกตัวก่อนเลยว่า MenDetails ไม่ค่อยได้มีโอกาสลองขับสัญชาติอิตาลีบ่อยเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะค่ายตรีศูลอย่าง Maserati ที่เราไม่เคยสัมผัสเลย ทำให้เราตื่นเต้นกับการได้ลองขับ Maserati Grecale คันนี้พอสมควร
ซึ่งเจ้ารถคันนี้เป็นน้องใหม่ล่าสุดจาก Maserati เป็นรถ SUV ที่ขนาดเล็กลงมาจาก Levante เพื่อมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความหรูหรา ความทันสมัย และสมรรถนะที่เร้าใจอัดแน่นเต็มเปี่ยม เพื่อมาแข่งกับรถของเจ้าอื่นใน Segment เดียวกัน เพราะที่ผ่านมา Maserati ไม่เคยมีรถใน Segment นี้มาก่อน และจากที่ได้ลองนั่ง ลองขับ ลองสัมผัสระบบต่าง ๆ เราก็บอกได้เลยว่ารถคันนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งจะมีอะไรบ้าง บทความนี้เราสรุปมาไว้ให้แล้วครับ
Maserati Grecale SUV น้องใหม่ ที่พร้อมมาท้าชนในตลาดรถยนต์
ในตอนที่ Grecale เปิดตัวครั้งแรกปล่อยปีก่อน เกิดเสียงฮือฮาอยู่ไม่น้อย เพราะขนาดมันไม่ต่างจาก Levente มากนัก ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามันจะมาแทนกันหรือเปล่า แต่ทาง Maserati ก็ออกมายืนยันว่ามันจะเป็นรถที่จะมาเสริมใน Segment ของ SUV มาพร้อมกับแนวคิดสุดหรูหราว่า Everyday Exceptional หรือการทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในทุก ๆ วัน ซึ่งก็ถูกสะท้อนออกมาผ่านรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นรถที่ขนาดเล็กลงมาจาก Levente ที่บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันมีขนาดเทอะทะไปสำหรับใช้งานในเมือง ทำให้กลุ่มลูกค้าที่จะมาซื้อน้อยลงไป ไปจนถึงการออกแบบภายในที่กว้างขวาง ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัยมากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่ามาพร้อมกับราคาที่น่าคบหามากยิ่งขึ้น ที่ 6.49 ล้านบาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น
แต่เมื่อมองดูแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด ใน Segment เดียวกัน เราจะพบว่ารถ SUV ขนาดเล็กสำหรับขับในเมืองของ Maserati ถือว่ามาช้ากว่าเพื่อนไปมาก ทำให้ทางแบรนด์ต้องพยายามแก้ทางด้วยการใส่ฟังก์ชันต่าง ๆ มาอย่างจัดเต็มนั่นเอง
สำหรับรุ่น Grecale นั้นทำการในประเทศไทย 2 รุ่น คือ รุ่นเล็กสุดอย่าง GT กับรุ่นใหญ่สุด Trofeo ที่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด อย่างขนาดล้อกับสีเบรค ที่ GT ล้อจะมีขนาด 19 นิ้ว เบรคสีเงิน ส่วน Trofeo ขนาดล้อ 21 นิ้ว และเบรคสีแดง นอกจากนี้ก็ยังมีพวกรายละเอียดชุดแต่งและสีตัวรถเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต่างกัน อย่าง Trofeo จะมีชุดแต่งจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งทั้งสองรุ่นก็สามารถปรับแต่งสีรถ สีเบาะ ระบบขับขี่บางอย่างเพิ่มเติมได้ในราคาที่เพิ่มขึ้น
สำหรับเครื่องยนต์ GT ตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 300 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. ถือว่ามีความแรงอยู่ไม่หยอกเหมือนกัน ส่วน Trofeo อยู่ที่ 530 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 285 กม./ชม. ขับเคลื่อนสี่ล้อทุกรุ่นย่อย แต่เป็นแบบ Auto ที่จะกระจายกำลังขับแบบอัตโนมัติ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 แบบ คือ Comfort ให้ความนุ่มนวล Sport เพิ่มความเร้าใจ และ GT โหมดทั่วไปสำหรับขับในเมือง
จากข้อมูลคร่าว ๆ จะเห็นว่า Grecale เป็นรถยนต์ที่เป็นคำตอบจากค่ายตรีศูล ที่ใส่ทุกอย่างที่คนเมืองต้องการ และทำให้ผู้ขับรู้สึกพรีเมี่ยมมากขึ้นจากรายละเอียด และความหรูหรา ในสไตล์รถยนต์อิตาลี ในการมาท้าชนคู่แข่งเจ้าอื่นในตลาดรถยนต์ SUV ขนาดเล็กครับ แม้ว่าเอาจริง ๆ จะไม่ได้เล็กกว่ารุ่นพี่ของมันสักเท่าไหร่นักก็ตาม
ความทันสมัยมากขึ้น แต่ไม่ทิ้งความหรูหราแบบอิตาเลี่ยน
สิ่งหนึ่งที่ Grecale หยิบยกมาอย่างชัดเจน คือ กลิ่นอายของ MC20 ที่ทางแบรนด์เพิ่มความทันสมัยให้กับรถรุ่นต่อ ๆ มามากขึ้น เป็นการเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ จากที่เคยโดนครหามาตลอดว่าข้างในรถดูเก่า ไม่ทันสมัย แถมยังหน้าตาเหมือน ๆ กันไปหมด ซึ่งกลิ่นอายที่ถูกหยิบมาใช้อย่างเช่น มือจับประตูที่ต้องล้วงมือเข้าไปกดปุ่ม ปุ่มเปิดประตูจากด้านใน ไปจนถึงหน้าจอสั่งการต่าง ๆ ภายในที่อัพเกรตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของ Grecale ครับ
สิ่งที่โดดเด่นภายในรถ คือ หน้าจอสั่งการใหม่ 2 จอ แบบ Digital ทั้งหมด โดยหน้าจอบนเรียกว่า Central Display ที่เป็นเหมือนหน้าจอสั่งการ เชื่อมต่อข้อมูลและบอกข้อมูลต่าง ๆ แบบในรถสมัยใหม่ ส่วนจอล่างเรียกว่า Comfort Display ซึ่งเอาไว้ปรับสิ่งต่าง ๆ ภายในและภายนอกรถ เช่น เบาะ ไฟหน้า อุณหภูมิ ที่เราชอบมาก ๆ คือ เวลาที่เราต้องการปรับความแรงของแอร์ และอุณหภูมิ เราแค่เอานิ้วจิ้มให้โดนจอ Comfort Display แล้วเลื่อนซ้าย-ขวา เพื่อเพิ่มลดความแรง หรือขึ้น-ลง เพื่อปรับอุณหภูมิได้เลย ทำให้เวลาขับคนเดียวเราไม่ต้องละสายตาจากถนน
Grecale ยังถือเป็นรถคันแรกของ Maserati ที่ทำการเปลี่ยนเอาเกียร์จากคันโยก ให้มาเป็นปุ่มกดในหน้าจอ Comfort Display เพื่อให้บริเวณที่เป็นคันเกียร์กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ให้สามารถเก็บของและชาร์จโทรศัพท์ได้ ตัวจอฝั่งคนขับเองก็กลายเป็น Digital ด้วยเช่นกัน ทำให้สามารถปรับแต่งการแสดงผลของเข็มหน้าปัดได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้นตามความชอบของผู้ขับ
พวงมาลัยของ Grecale ก็เรียกได้ว่าไปเอาพวงมาลัยของ MC20 มาแบบทั้งดุ้น ทำให้ได้ความรู้สึกเท่และทันสมัยมากขึ้น ทั้งปุ่มสตาร์ทรถที่ย้ายมาอยู่บนพวงมาลัย ปุ่มคำสั่งต่าง ๆ รวมไปถึง แป้นกดสำหรับเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วก็อยู่ตรงบริเวณพวงมาลัยด้วย นอกจากนี้นับเป็นแรกในรอบ 117 ปี ที่แบรนด์ทำการเปลี่ยนนาฬิกาที่อยู่เหนือจอ Central Display ให้มาเป็นแบบ Digital และยังสามารถปรับแต่งการแสดงผล หรือจะเปลี่ยนจากนาฬิกาไปเป็นเข็มทิศ หรือจะเป็นมาตรวัดแรง G ได้อีกมากมาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เป็นการดันขีดความสามารถของรถให้ก้าวไปอีกขั้น และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
และรถคันนี้จะไม่สามารถทำให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่แสนพิเศษได้เลย หากไม่มีความใส่ใจในรายละเอียดแบบอิตาเลี่ยน ที่ทางแบรนด์ยังคงใช้คอนเซ็ปต์ The real material is the true beauty ทำให้วัสดุภายในที่ใช้ตกแต่งไม่ว่าจะเป็นหนัง ไม้ ล้วนเป็นของจริงทั้งสิ้น เพื่อให้ความสวยที่ยั่งยืนกว่า ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายกับสิ่งที่ได้ ทำให้รถคันนี้จัดว่าคุ้มราคาสำหรับรถใน Segment เดียวกันครับ
ประสบการณ์ Everyday Exceptional ที่ตอบโจทย์คนเมือง
พูดถึงข้อมูลต่าง ๆ ของรถมาพอสมควรแล้ว ก็ได้เวลามาพูดถึงประสบการณ์ของเราตอนที่ได้ลองนั่ง ลองขับ Grecale กันแล้วครับ โดยเราได้ลองขับตัว GT รุ่นเริ่มต้น ที่มีออฟชั่นเสริมเบื้องต้นมาแล้ว ทำให้เราเห็นภาพรวมของรถคันนี้ได้ว่าเมื่อเสริมออฟชั่นเบื้องต้นแล้วจะมีอะไรบ้าง
หลังจากเราได้ฟังข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ ก็แอบกังวลเล็กน้อยว่าจะขับเข้ามือไหมในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่หลังจากที่นั่งหลังพวงมาลัย จับนั่นนี่ก่อนออกเริ่มออกรถ และฟังทาง Maserati สอนคร่าว ๆ ด้วยระบบสั่งการต่าง ๆ ที่สะดวกสบายทำให้ไม่นานก็เริ่มคล่องมือ ลองลุยท้องถนนกรุงเทพในสภาพการจราจรจริงได้เลย
พูดกันในมุมมองส่วนคนขับกันก่อน รถคันนี้ถือว่าควบคุมง่ายและให้ความคล่องตัวที่ดี ทำให้แม้จะขนาดจะเล็กกว่า Levente ไม่มาก แต่ก็สามารถขับในสภาพการจราจรที่มีรถเยอะ ๆ ได้อย่างไม่อึดอัด จะเลี้ยว จะเปลี่ยนเลน ก็ง่าย แถมมีระบบต่าง ๆ คอยช่วยเตือน นอกจากการควบคุมกับระบบแล้ว โหมดการขับขี่ก็ยังมีผลต่อความรู้สึกเวลาขับด้วยเช่นกัน ตอนแรกเราขับในโหมด GT ที่เป็นโหมดปกติ ก็เป็นโหมดที่ขับในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อลองเปลี่ยนเป็น Sport นี่เรียกได้ว่าเร้าใจขึ้นมาทันที เพราะรถพร้อมจะทะยานออกไป ออกปุ๊บติดปั๊บ ขับสนุกสนานทีเดียว
ในส่วนของคนนั่ง รถคันนี้มีที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบายไม่อึดอัด ซึ่งทางแบรนด์เคลมไว้ว่าห้องโดยสารของ Grecale มีความกว้างมากที่สุดในรถ Segment เดียวกัน และยังมีที่ใส่สัมภาระด้านหลังอีกมากพอสมควร ตัวเบาะนั่งสบายเพราะเป็นหนังแท้ ด้วยการตัดเย็บและหมุดปักให้ความรู้สึกหรูหราและความประณีตแบบอิตาเลี่ยน ระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อตามมาตรฐาน แต่มีออฟชั่นให้เราจ่ายเพิ่มเปลี่ยนเครื่องเสียงในรถเป็น Sonus Faber ได้ ทำให้ได้เครื่องเสียงที่ถึงใจยิ่งขึ้น
สำหรับรถราคา 7 หลักกับสิ่งที่ได้ ถือว่า Maserati Grecale เป็นน้องใหม่ที่น่าสนใจ จะมาท้าชนกับแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด Segment เดียวกันได้อย่างสนุก เป็นรถอเนกประสงค์ที่สามารถขับในเมืองได้ในทุก ๆ วัน หรือสามารถไปออกทริปครอบครัวได้ในช่วงวันหยุด พร้อมกับให้ความรู้สึกหรูหรา ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของไลฟ์สไตล์คนเมือง มาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่ทำให้ขับได้ทั้งแบบนุ่มนวล หรือการขับที่เร้าใจ เพื่อให้ทุกวันเป็น Everyday Exceptional ตามที่ทางแบรนด์ตั้งใจ ใครที่สนใจสามารถไปดูรถคันจริงได้ที่โชว์รูม Maserati ได้ด้วยตัวเองเลยครับ