นางาซากิ เป็นจังหวัดในภูมิภาค คิวชู ของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้น แต่เมืองนี้ เป็นเมืองท่าที่มีการติดต่อกับชาวโปรตุกีสมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 และในเวลาต่อมาในช่วงที่ปิดประเทศก็มีการติดต่อกับชาวเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ นางาซากิยังมีชุมชนชาวจีนที่ถือว่าเป็นชุมชนชาวจีนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้ในหน้าประวัติศาสตร์ของนางาซากิ มีการรับวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้ามา หลอมรวมไปกับวัฒนธรรมพื้นเมือง จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น สิ่งเหล่านี้ทำให้นางาซากิ มีอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย ที่หากใครมาเยือน ควรมาลองชิมสักครั้ง และบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับ 5 อาหารนางาซากิ ที่คุณไป “โดน” กันสักครั้งหากได้มีโอกาสไปเยือนจังหวัดที่เปี่ยมเสน่ห์แห่งนี้ในญี่ปุ่นนะครับ
จัมปง (Champon)
Photo : flickr.com
เป็นอาหารจำพวกเส้น คล้ายราเมง ที่มีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดนางาซากิ และยังเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของจังหวัด หาทานได้ทั่วไป ใครมาต้องมาลองกินให้ได้สักครั้ง
จัมปงมีต้นกำเนิดมาจากร้านอาหารจีนชื่อร้าน Shikairo ด้วยความต้องการของเจ้าของร้านในตอนนั้น ที่อยากให้นักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนที่มาเรียนในนางาซากิ มีอาหารที่ให้พลังงานสูง อร่อย และราคาไม่แพงได้กินกัน จึงเกิดมาเป็นจัมปง ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
จุดเด่นของจัมปง อยู่ที่น้ำซุป ที่มีสีออกขาวขุ่น หรือครีม ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน เป็นซุปที่เคี่ยวจากกระดูกหมู / ไก่ ใส่ผักและเนื้อปลา ทำให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ตัวน้ำซุปกลิ่นหอม รสออกมัน เค็ม มีความหวานนิดๆ จากผักกะหล่ำปลีและเนื้อปลา กุ้ง ลูกชิ้นปลา ที่ใส่มาจนเต็มชาม ส่วนเส้นของจัมปงก็ไม่ใช่เส้นแบบราเมงทั่วไป แต่จะเป็นเส้นแบบพิเศษที่มีความเหนียวนุ่ม น้ำซุปเกาะเส้นได้ง่าย ทำให้ทานได้ลื่นคอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในชามที่อัดแน่น ทำให้เมื่อทานหมดชามแล้วอยู่ท้องมาก
ข้าวตุรกี (Turkish rice หรือ Toruko rice)
Photo : matcha-jp.com
ถือว่าเป็น อาหารท้องถิ่น อีกหนึ่งจาน แม้จะไม่เป็นที่รู้จักเท่าจัมปง แต่อาหารจานนี้ก็มีความน่าสนใจ และอยู่ท้องไม่แพ้กัน เพราะนี่คือ อาหารที่รวมเอาทั้งข้าวแกงกะหรี่ สลัด และสปาเก็ตตี้เข้าไว้ด้วยกันในชามเดียว
ข้าวตุรกี ประกอบด้วยข้าวพิลาฟ ราดด้วยแกงกะหรี่และหมูทอดทงคัตสึ สลัด และสปาเก็ตตี้นาโปลิตัน ที่ช่วยเสริมรสชาติกันได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป แต่ละร้านเกิดการพัฒนาสูตรของตัวเอง ทำให้มีตัวเลือกใหม่ๆ เกิดขึ้น จากเดิมที่เป็นแกงกะหรี่ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นครีมซอสได้ จากเดิมที่เป็นหมูทอดทงคัตสึ ก็มีกุ้งทอด ไก่ทอด สเต็กแฮมเบิร์ก ไปจนถึงสปาเก็ตตี้ที่มีให้เลือกทั้งครีมซอส หรือโบโลเนส ให้เลือกสรรตามความชอบ และด้วยปริมาณที่คุ้มค่าในหนึ่งจาน ทำให้ข้าวตุรกีเป็นหนึ่งในอาหารเที่ยงยอดนิยมของชาวนางาซากิครับ
กุโซนิ (Guzoni)
Photo : japantravel.navitime.com
นอกจากในตัวเมืองนางาซากิแล้ว จังหวัดนางาซากิยังประกอบด้วยเมืองอื่นๆ อีก 13 เมือง และกุโซนิ คือของขึ้นชื่อของเมืองชิมาบาระ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นแห่งสายน้ำ
กุโซนิ คืออาหารที่มีความเป็นมาย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 17 โดยจะเป็นซุปใส ใส่ผักและปลา เป็นเหมือนการรวมเอาวัตถุดิบจากภูเขาและทะเลของชิมาบาระมารวมกันในหม้อเดียว นอกจากนี้ความพิเศษของกุโซนิคือ จะมีการใส่ก้อนโมจินุ่มๆ ลงไปด้วย รสชาติของซุปจะหวานผัก และมีกลิ่นหอมของปลาและโมจิที่ใส่อยู่ในหม้อ รสชาติที่นุ่มนวล ทานได้คล่องคอ มีประโยชน์ต่อสุขภาพและทำให้อิ่มท้องอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจอยากลองเยี่ยมชมเมืองชิมาบาระ ทางเราก็มีคำเเนะนำสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในการไป One Day trip ใน บทความนี้ ครับ
นางาซากิ มิลค์เชค (Nagasaki Milkshake)
Photo : matcha-jp.com
หากพูดถึงมิลค์เชค เราจะนึกถึงภาพของเครื่องดื่มของสหรัฐอเมริกา แต่สำหรับ อาหารนางาซากิ มิลค์เชคนี้ หากจะอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ต้องเอาออกเสียงว่า มิลค์ เซกิ เสียมากกว่า และมันแตกต่างจากภาพของมิลค์เชคที่เราคุ้นตา เพราะนางาซากิ มิลค์เชคนี้ เราใช้ช้อนในการทาน แทนการใช้หลอดดูดครับ มีต้นกำเนิดมาจากร้านอาหารชื่อ Tsuru chan ซึ่งถือว่าเป็นร้านคาเฟ่ที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะคิวชูอีกด้วย
นางาซากิ มิลค์เชค คือการนำนมข้นหวานไปปั่นกับน้ำแข็งให้ออกมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งละเอียด ตกแต่งด้วยเชอรี่สีแดงสดด้านบน เมื่อทานจะรู้สึกถึงความนุ่มของเกล็ดน้ำแข็ง รสหวานและกลิ่นของนม ทำให้สดชื่นและเป็นการปิดท้ายมื้ออาหารได้ดี นอกจากนี้แต่ละร้านยังมีการเพิ่มรสชาติอื่นๆ เข้าไปอีก เช่น ชอคโกแลต สตอเบอร์รี่ แต่รสชาติที่คลาสสิคและได้รับความนิยมที่สุดก็หนีไม่พ้นรสดั้งเดิม
คัสเทลล่า (Castella)
Photo : japancentre.com
คัสเทลล่าของจังหวัดนางาซากิ เป็นทั้งขนมและของฝากขึ้นชื่อของจังหวัด ใครที่มาแล้วไม่ได้ลองทานหรือซื้อกลับไปเป็นของฝาก ถือว่ามาไม่ถึง คัสเทลล่าสามารถหาซื้อหาทานได้ทั่วไป ทั้งในร้านอาหาร ร้านของฝาก
คัสเทลล่าเป็นขนมเค้กที่คล้ายกับเค้กฟองน้ำ (Sponge cake) เป็นขนมที่มีทางมาจากโปรตุเกส ผ่านพ่อค้าที่เดินทางเข้ามาค้าขาย มีที่มาจากคำว่า Pão de Castela ซึ่งชาวนางาซากินำมาปรับให้เป็นรสชาติของตัวเอง เกิดเป็นเค้กคัสเทลล่าที่เราเห็นในปัจจุบัน ตัวเค้กจะมีความนุ่มฟู แต่ไม่แห้ง รสชาติหวาน นิยมทานกับชาหรือกาแฟ นอกจากรสชาติดั้งเดิมแล้ว แต่ละร้านยังมีการปรับสูตรเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับรสชาติ ทั้งรสชาเขียว คาราเมล กาแฟ ชอคโกแลต สตอเบอร์รี่ ทำให้สี กลิ่น เเละรสของตัวเค้กเปลี่ยนไปตามรสชาติที่ใส่
ในการเดินทางท่องเที่ยว นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวและการได้เห็นประวัติศาสตร์ของแต่ละที่แล้ว การได้ลองทานอาหารท้องถิ่น ก็ถือเป็นการเรียนรู้และเห็นความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของผู้คนสถานที่นั้นๆ ไปด้วย การลองทานอาหารท้องถิ่นจึงถือเป็นเสน่ห์และเป็นการเพิ่มประสบการณ์อีกอย่างสำหรับการท่องเที่ยวครับ ดังนั้นหากเราได้มีโอกาสไปเยือนจังหวัดนางาซากิในญี่ปุ่น MenDetails ก็ขอแนะนำให้ไป “โดน” อาหารประจำท้องถิ่นของพวกเขา เพื่อให้เรา “อิน” กับการเดินทางมายิ่งขึ้นกว่าเดิมนะครับ