ถือเป็นข่าวใหญ่มากทีเดียวนะครับสำหรับคำตัดสินของศาลแห่งเมือง Los Angeles ที่สั่งให้บริษัทผู้จัดจำหน่ายกาแฟ “ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า กาแฟของตนนั้นมีสารก่อมะเร็ง” หากไม่ปฏิบัติตามจะต้องจ่ายค่าปรับ นี่น่าจะเป็นคำถามที่น่าสนใจที่สุดแห่งปีเลยก็ว่าได้ครับ เพราะ “เราชาว MDs เองก็ทานกาแฟทุกเช้า” เราเลยลองค้นลงไปอีกนิดว่าจริงๆ แล้ว “กาแฟมันให้โทษมากกว่าประโยชน์จริงหรือไม่”
นี่คือผลจากการที่กลุ่ม Nonprofit กลุ่มหนึ่ง นามว่า ‘the Council for Education and Research on Toxics’ ได้ทำการฟ้องร้อง 91 บริษัทผู้ขายกาแฟในรัฐ California โดยจากการสำรวจพบว่า “เมล็ดกาแฟนั้นจะมีสารก่อให้เกิดมะเร็งชื่อว่า Acrylamide ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เกิดขึ้นจากกรรมวิธีการคั่วเม็ดกาแฟ” ซึ่งทางผู้วิจัยได้แจ้งว่า หลังจากให้สาร Acrylamide ในปริมาณหนึ่งกับหนูทดลองแล้ว ตรวจพบมะเร็งในร่างกายในเวลาต่อมา จึงเป็นผลให้ศาลแห่งเมือง Los Angeles ประกาศคำสั่งดังกล่าว และมีผลให้ชาวโลกตื่นตัวต่อ “การดื่มกาแฟ” แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ปัญหามันมีอยู่ว่า มีศาสตราจารย์หลายท่านที่ออกมาพูดถึงผลวิจัยนี้ว่า “ไม่ควรหยิบมาเป็นข้อมูลอ้างอิง” อย่าง John P.A. Ioannidis ศาสตราจารย์ด้านอาหารและยา แห่ง Stanford University ให้ความเห็นว่า “ผมคิดว่าในหลายล้านอย่างรอบๆ ตัวเรานั้น กาแฟเป็นสิ่งที่คุณควรจะกังวลลำดับท้ายๆ เลยครับ ว่ามันจะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง” เนื่องจากปริมาณของสาร Acrylamide ในกาแฟนั้นต่ำมาก ซึ่งต่ำเกินกว่าจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาในร่างกายมนุษย์ แต่มีผลต่อหนูทดลองโดยตรง อาจเป็นเพราะขนาดและมวลร่างกายของมนุษย์และหนูที่ไม่เท่ากันนั่นเอง
จริงๆ แล้วมีผลงานวิจัยเยอะแยะมากมายครับที่มีข้อมูลรองรับว่า “กาแฟ” มีผลดีต่อร่างกายมนุษย์มากกว่าให้โทษ ยกตัวอย่างเช่น Donna Arnett อดีตประธานกลุ่ม American Heart Association และอธิการบดี University of Kentucky College of Public Health เคยกล่าวว่า “การดื่มกาแฟราว 3-4 แก้วต่อวันนั้น ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หรือ Stroke” บางผลงานวิจัยยังกล่าวว่า การทานกาแฟเป็นประจำช่วยชะลอการเสียชีวิตจากโรคร้ายได้ถึง 64% เนื่องจากในกาแฟมี Anti-Inflammatory ที่ช่วยรักษาเซลล์ในร่างกายให้เสียหายช้าลง นอกจากนี้ กาแฟยังช่วยลงความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้และมะเร็งตับได้อีกด้วย
ฟังแบบนี้แล้วก็สบายใจมากขึ้นใช่ไหมครับ เพราะคุณสามารถทานกาแฟได้ตามปกติ แต่สิ่งที่คุณควรจะพิจารณามากกว่าปริมาณกาแฟที่คุณดื่มเข้าไปก็คือ “ปริมาณน้ำตาลและครีม” ที่คุณใส่ลงไปในกาแฟมากกว่า เพราะทั้งน้ำตาลและครีมเหล่านั้นนั่นแหละที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพชัดเจน (มากกว่าตัวกาแฟเพียวๆแน่นอน)