หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารคุณภาพ แนว Casual Fine Dinning บรรยากาศดี ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 นี่คืออีกหนึ่งร้านที่ MenDetails ไม่อยากให้คุณมองข้ามแต่อย่างใด กับร้านที่มีชื่อว่า THAAN Charcoal Cooking หากแต่สิ่งแรกที่คุณควรเข้าใจเลยก็คือ THAAN จะเป็นร้านที่ Specialty เกี่ยวกับเรื่อง “เนื้อ” เป็นหลักครับ ใครที่ชื่นชอบการทานเนื้อวัวเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ควรพลาดร้านนี้ ซึ่งวันนี้ MDs’ จะพาทุกท่านมา รีวิว THAAN FALL SET ซึ่งถือเป็น Set Menu อาหารที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้สำหรับ 2 ท่าน ว่าแล้วก็ตามพวกเรามาเลยครับ
บรรยากาศดีเยี่ยม เฉกเช่นร้านอาหารในยุโรป
บรรยากาศ ถือเป็นสิ่งที่ร้าน THAAN ทำออกมาได้ดีเยี่ยมครับ ถึงแม้ตัวร้านจะค่อนข้างเล็ก แต่สร้างบรรยากาศและการจัดไฟได้อย่างลงตัว มีความเป็นสัดเป็นส่วนอยู่อย่างชัดเจนครับ ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ต้อนรับ หากลูกค้าท่านใดโทรจองล่วงหน้า ก็สามารถเช็คคิวและรายละเอียดต่าง ๆ ได้ ซึ่งด้านตรงข้ามจะเป็นพื้นที่ครัวครับ เราสามารถเห็นขั้นตอนต่าง ๆ ในการปรุงอาหารได้จากตรงนี้ พอผ่านม่านสีดำเข้ามาด้านใน จะเป็นพื้นที่ Dinning Area ซึ่งถือว่าจัดไฟได้ดี ได้ความ Cosy สไตล์ร้านอาหารยุโรป เรียบง่ายแต่ดูดี ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนย่อย ๆ ได้แก่ โซนที่ลูกค้ามากันเป็นหมู่คณะราว 4-6 คน และโซนที่มากันเป็นคู่ครับ
บรรยากาศของร้าน THAAN เหมาะอย่างยิ่งกับการพาคนรู้จักสักคนมาร่วมทานมื้อค่ำ ในวันสุดพิเศษ เพราะเมื่อคุณก้าวเข้ามาในร้าน จะเหมือนคุณหลุดไปอยู่ห้องอาหารในยุโรปเลยก็ว่าได้ อาจไม่ Fancy หรือหรูหรา ทว่า Cosy และมีสไตล์ที่ชัดเจน
THAAN FALL SET
ก่อนอื่นต้องเรียนแจ้งก่อนครับว่า ทางร้านเองนั้น มีเมนูแบบแยกขายเป็นจานด้วยเช่นเดียวกัน หากแต่ครั้งนี้ที่เราแวะไปลอง จะเป็น Set Menu ที่ทางร้านใช้ชื่อว่า FALL SET จะมาในราคา 4,800.++ สำหรับ 2 ท่าน กับอาหารทั้งหมด 7 Courses ซึ่งถือว่าเยอะและอิ่มแน่นอน โดยเมนูหลัก ๆ ของทางร้าน จะเน้นไปที่เนื้อวัวคุณภาพเป็นหลัก แต่ถ้าท่านใดไม่สามารถทานเนื้อได้ สามารถแจ้งล่วงหน้าในทางร้านปรับเปลี่ยนเมนูแยกได้เช่นกัน
เริ่มต้นกันที่จานแรกกันก่อน กับ Capelini Lobster ที่นำเอาเส้น Capelini ไปคลุมเคล้าเข้ากับ Wakame Pesto ก่อนจะนำเอาเนื้อ Lobster ครึ่งตัววางด้านบน Top ด้วย Ikura ซึ่งเนื้อ Lobster คือเด้งและหวานมาก ส่วนเส้น Capelini นั้น รสชาติดีแบบทานแยกอย่างเดียวก็อร่อยแล้ว พอแบ่งทานคู่กับเนื้อ Lobster ที่มีความเด้งและหวาน บวกกับรสชาติของไข่ปลาแซลมอน เรียกว่ากลมกล่อมมากจริง ๆ
ต่อด้วยจานที่ 2 กับเมนู ลิ้นวัว เรียกว่าเป็นเมนูลิ้นวัวที่นิ่มมาก ๆ เมนูหนึ่งเลยครับ แถมรสชาตินั้น ทางร้านทำออกมาได้นุ่มละมุนจาก Black Garlic Glazed แต่ที่ดีเยี่ยมที่สุดคงเป็น Apple Ketchup ที่เป็นส่วนผสมอันแสนลงตัวระหว่างมะเขือเทศและแอปเปิ้ลซึ่งมีทั้งรสเปรี้ยวและหวานในคำเดียว รวบทุกอย่างไว้ใน 1 คำ รับประกันว่าอร่อยแน่นอน
ต่อด้วยเมนู Signature ที่คุณต้องลองให้ได้
จานต่อไปถือเป็นเมนู Signature ของทางร้าน THAAN ครับ นั่นก็คือ A4 Wagyu & Sea Urchin Sandwich บอกได้คำเดียวว่า เมนูนี้ดีเยี่ยมมาก ๆ กล้าพูดได้เลยว่า “ทุกท่านจะไม่ผิดหวัง” แน่นอน กับรสชาติกลมกล่อมของเนื้อสับ ปรุงรสจัดจ้านกำลังดี ทานพร้อมไข่หอยเม่นและขนมปังที่เป็น Base คำนี้คือว้าวมากครับ ถือเป็น Signature ที่ยอดเยี่ยมและเราอยากให้ทุกท่านได้มาลองกันสักครั้ง
ต่อด้วยจานปลาและเนื้อ ที่อร่อยไม่แพ้กัน
จานต่อมาคือจานชูโรงของทางร้านกับ Hiramasa Kingfish ที่ Top ด้านบนด้วย Pickled Radish แผ่นบาง ตัดกลม พร้อมซอส Dashi Cream / Edamame และ Dill Oil โดยตัวปลาจะเน้นเรื่องความสดเป็นหลักครับ ไม่ได้ปรุงอะไรมากมาย เชฟจึงตั้งใจทำซอสให้มีรสชาติที่ค่อนข้าง Strong เวลาทานคู่กันแล้ว รสชาติกำลังกลมกล่อม หอมมัน ตัดด้วยไชเท้าดองที่ติดเปรี้ยว ๆ ทำให้จานนี้มีความเบาและหนักที่ Balance ได้ดี
อีกหนึ่งจานคือ Tenderloin Mb4+ ซึ่งหากให้เรียนกันตามตรงแล้ว หลาย ๆ ร้านมักจะนำเสนอเป็นชิ้นเนื้ออย่าง Rib-Eye / Sirloin หรือแม้แต่ Tomahawk เป็นต้น หากแต่ร้าน THAAN เลือกที่จะใช้เนื้อ Tenderloin ที่มีความนุ่มสูง ไร้มัน นำไปเคลือบด้วยเกลือพริกไทยแบบเต็ม ๆ แล้วย่างด้วยถ่าน และปรุงได้ดีเยี่ยม ตัวพริกไทยหอมกำลังดี เนื้อสุกกำลังทาน ควบคู่กับ Parmesan Cream และ Padron Pepper คือเค็ม มัน หวาน ครบรส ถือเป็น Tenderloin ที่ดีมาก ๆ จานหนึ่งเลยครับ เนื่องจากทางร้านเลือกใช้เป็น Special Breed of Angus & Hereford ที่เลี้ยงแบบ Grass Fed อีกด้วย
ข้าวผัดมันเนื้ออันเลื่องชื่อ
อีกหนึ่งเมนูที่เลื่องชื่อมาก ๆ ของร้าน THAAN ก็คือ ข้าวผัดมันเนื้อครับ ซึ่งใน Set นี้ นอกจากเมนูปลาและเนื้อแล้ว ยังมีข้าวผัดมาให้อิ่มแบบจุก ๆ กันต่ออีก โดย Top ด้วย Angus Short Rib โดยปรุงด้วยเครื่องเทศ Sichuan เสิร์ฟคู่กับข้าวผัดมันเนื้อ เรียกว่า สมคำล่ำลือจริง ๆ กับเมนูนี้ โดยเฉพาะข้าวที่ผัดได้อย่างลงตัว ผัดมาเป็นเม็ดและเคลือบมันเนื้อในทุกจุด บีบเลมอนที่เสิร์ฟคู่มาด้วย ยิ่งเพิ่มกลิ่นและรสเปรี้ยวได้อย่างลงตัว ส่วน Angus Short Rib ถือว่านุ่มแบบ เอาช้อนตักยังต้องระวังขาด ขนาดอิ่มประมาณหนึ่งแล้ว รู้ตัวอีกที จานข้าวก็เหลือเพียงจานเปล่าเท่านั้น
ปิดคอร์สด้วยของหวานครับกับ Aberquina Olive Oil Ice Cream เสิร์ฟคู่กับ Granola เรียกว่าเป็นไอศกรีมกลิ่นมะกอกเลยก็ว่าได้ หอมน้ำมันมะกอกแบบเต็ม ๆ คาดว่าทางร้านใส่มาเป็น Base บนจาน ทานคู่กับ Granola กรอบ ๆ หอม ๆ เข้ากันดีเลยทีเดียว เนื่องจากทางร้านให้ Premium Olive จากประเทศ Spain รสชาติจะแตกต่างจากมะกอกปกติทั่ว ๆ ไป มีความหอมมัน ขมปลายลิ้น
ถือเป็น Set Menu ที่ “อร่อย” ในทุกจาน เรียกว่า กลมกล่อม นุ่มละมุน และไต่ระดับความเข้มข้นได้ดี มีการดึงและลดความหนักของเมนูด้วยชิ้นปลา Hiramasa Kingfish ซึ่งจัดลำดับได้ดีเยี่ยม ทำให้เราเองรู้สึกไปเลี่ยนระหว่างทานในแต่ละ Courses เรียกได้ว่า ครบเครื่อง และครบรสมาก ๆ และ MenDetails อยากให้ทุกท่านได้มาลองกันครับ รสชาติดี เชฟนันคิดมาได้อย่างลงตัว กับราคา 4,800.++ สำหรับ 2 ท่าน ถือเป็นราคาที่คุ้มค่าและอิ่มแน่นอนครับผม
ใครสนใจ สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ร้าน THAAN Charcoal Cooking ได้เลยครับ Set Menu จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาล ทว่า เราเชื่อมั่นว่า คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจากทุกเมนูที่คุณเลือกชิมแน่นอน ไม่เชื่อลองตาม รีวิว ของพวกเรามาได้เลยครับ