ไม่ใช่ทุกคนจะมองว่ามันสวยตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น แต่เชื่อเถอะครับว่า นี่คือรองเท้าที่คุณจะต้องหยุดมอง ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกตาแต่น่าสนใจในเวลาเดียวกัน รองเท้า Nike Air Rift คือส่วนผสมที่ลงตัวของงานออกแบบที่ยืนหยัดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 ด้วยงาน Design ที่ได้แรงบันดาลใจจากรองเท้าจากชาติตะวันออก รวมเข้ากับ Air-Sole Technology นี่คือรองเท้าที่แปลกที่สุดคู่หนึ่งที่ Nike ได้ปล่อยออกสู่ตลาด แถมกระแสตอบรับยังดีเกินคาด จนได้กลับมาผลิตซ้ำอีกครั้งในปีนี้
The Great Rift Valley คือที่มาของชื่อ
แรกเริ่มเดิมที รองเท้าคู่นี้ถูกออกแบบมาเป็นรองเท้าวิ่ง โดยความตั้งใจแรกของนักออกแบบ คุณ Kip Buck คือ “วิ่งให้เหมือนวิ่งเท้าเปล่า” ให้ได้มากที่สุด (คล้าย Nike Free เลยก็ว่าได้) แถมได้แรงบันดาลใจ จากรองเท้าในช่วงกลางของคริสต์ศตวรรษที่ 20 นามว่า Jika-tabi ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่า Nike Air Rift ไม่ใช่คู่แรกที่ออกแบบรองเท้า Sneakers ด้วยทรง Split-Toed ดังที่เห็น ยังมีรองเท้าอีกมากมายที่ออกแบบในลักษณะดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น Onitsuka Tiger / Martin Margiela และอื่น ๆ อีกมาก
Split-Toed เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ “ความเร็ว” การเคลื่อนที่ที่คล่องตัวของงานออกแบบ ทำให้เป็นที่โปรดปรานของเหล่าช่างมากฝีมือและกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ณ แดนอาทิตย์อุทัย แต่กลับเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ ในช่วงเวลาที่ Nike Air Rift ออกว่าขาย แต่ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จด้านการเป็นสัญลักษณ์แห่งความเร็วหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุดเลยก็คือ “คุณจะต้องสนใจรองเท้าคู่นี้เมื่อได้เห็น” แน่นอน
Nike Air Rift นั้นตั้งชื่อตามหุบเขา The Great Rift Valley ในประเทศเคนย่า ซึ่งสีแรกสุดที่ออกแบบมา ก็ดึงเอาสีของธงชาติเคนย่ามาใช้งานด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุที่แรงบันดาลใจในการออกแบบรองเท้าคู่นี้ เริ่มต้นจาก “เคนย่า” และนักกีฬาวิ่งทางไกลของพวกเขา
เชื่อกันว่า รองเท้าคู่นี้ได้หยิบเอาเส้นสายของหุบเขา The Great Rift Valley เข้ามาอยู่ในตัวพื้นรองเท้า Midsole ด้วย แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่ที่แน่ ๆ ผู้อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสุดแปลกตานี้ เป็นใครที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Tinker Hatfield
The “Rift” before “Free”
อ่านจากด้านบน ทุกท่านคงเริ่มรู้สึกถึงกลิ่นไอของรองเท้า Nike Free เสียมากกว่า กับการออกแบบรองเท้าเพื่อให้เหมือนผู้ใส่วิ่งแบบ “เท้าเปล่า” ซึ่งใช่ครับ ก่อนจะมาเป็น Nike Free อย่างที่พวกเราได้เห็นกันในปัจจุบัน Nike ได้ออกแบบรองเท้าต่าง ๆ มากมายออกสู่ตลาดไม่ว่าจะเป็น Nike Sock Racer / Air Huarache / Air Presto และรวมถึง Air Rift ซึ่งทั้งหมดคือเส้นทางสู่การพัฒนารองเท้า Nike Free นั่นเอง
แน่นอนครับว่า รองเท้า Nike Air Rift นั้น โด่งดังมาก ๆ ในประเทศญี่ปุ่น อาจเพราะสไตล์และรูปลักษณ์ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมอย่างชัดเจน แต่เชื่อหรือไม่ว่า Rift ยังโด่งดังในฝั่งยุโรป โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ จนถึงขนาดมีการจัดทำรายละเอียด การดูรองเท้าของแท้ของปลอมขึ้น เพื่อให้เหล่าบรรดาผู้ที่ชื่นชอบตรวจสอบได้อีกด้วย เรียกได้ว่าตลาดค่อนข้างโตมากทีเดียวสำหรับ Air Rift
รองเท้า Nike Air Rift
จุดร่วมของรองเท้าผ้าใบและรองเท้าแตะในคู่เดียว
ใส่ง่ายและระบายอากาศได้ดีแบบรองเท้าแตะ แต่ได้ความนุ่มสบายแบบรองเท้าผ้าใบ นี่คือผลลัพธ์ที่น่าทึ่งของงานออกแบบที่แปลกตาคู่นี้ ด้วยพื้น Midsole EVA พร้อมด้วย ชิ้น Air-Sole ด้านใน ทำให้รับแรงกระเทกได้ดี ส่วนช่วงปลายเท้านั้น ออกแบบให้สามารถโค้งงอได้ง่าย รับกับรูปเท้าตามธรรมชาติ ส่วนชิ้น Upper นั้น ตัดเย็บด้วยผ้า Tech Ultramesh และวัสดุอย่าง Neoprene ที่นุ่มและยืดหยุ่นได้ดี โอบรอบเท้า รัดให้แน่นด้วย Velcro และ Signature Design อย่าง Split-Toed ที่แปลกและแตกต่าง
เห็นรองเท้าคู่นี้แล้ว ช่วงแรก ๆ MenDetails เองก็รู้สึกไม่ค่อยอินสักเท่าไรครับ ทว่า พอได้เห็นไปเรื่อย ๆ บวกกับสไตล์ที่สวมใส่ง่าย และแปลกตา กลายเป็นว่า ชอบขึ้นมาซะอย่างงั้น และเราเชื่อว่า หากคุณได้ลองมองมันดี ๆ เห็นมันบ่อย ๆ Nike Air Rift อาจเป็นคู่ต่อไปของคุณก็ได้นะครับ
ใครสนใจ สามารถวิ่งไปลองใส่ได้ที่ SEEK Thailand ได้เลยครับ ถึงแม้รุ่นที่เข้าจะเป็นรุ่นผู้หญิง แต่มีไซส์ผู็ชายให้เลือกเช่นเดียวกัน ลองเทียบไซส์ดูครับ คู่นี้ไม่ควรพลาด