สมัยที่รองเท้า New Balance โด่งดังมากๆ ในบ้านเรานั้น รองเท้าทรงแรกที่ทุกๆ คนมี MDs เชื่อว่าน่าจะเป็น 574 นี่แหละ ซึ่งช่วงนั้นเนี่ย ทุกคนต่างใส่ New Balance กันทั่วบ้านทั่วเมืองจริงๆ และในปีนี้ New Balance ก็จะนำเอารุ่นยอดนิยมอย่าง 574 มาทำใหม่ใน Version Classic หลังจากที่ทำ 574s ไปแล้ว ซึ่งวันนี้เราหยิบมาให้ดูกันครับ มาลองดูกันว่า “น่าเดินไปซื้อมากน้อยแค่ไหน”
กลับไปสู่ความ Retro แบบดั้งเดิม
หลังจากที่ผลิตโมเดลนี่มาได้ยาวนานกว่า 30 ปี ตัวแบรนด์ New Balance เองได้มีการปรับเปลี่ยนรูปทรงของตัวรองเท้าไปบ้างตามกาลเวลา แต่มาครั้งนี้ ทางแบรนด์เลือกที่จะปรับรายละเอียดต่างๆ ให้คล้ายรุ่นดั้งเดิมมากที่สุดตั้งแต่ลักษณะการวางตัวของรูร้อยเชือก รวมไปถึงเส้นเชือกที่แตกต่างไป ซึ่งสีสุด Classic อย่างสีเทาแบบ Cool Grey นั้น ออกมาสำหรับกลุ่ม Friend and Family เท่านั้น และเหมือนจะทำการแจกผ่านหน้าเพจของร้าน Carnival ไปเป็นที่เรียบร้อยจำนวน 4 คู่เท่านั้น
แต่ไม่เป็นไรครับ สีอื่นๆ ที่นำมาวางขายอีก 3 สีก็ถือเป็นสี Retro ทั้งสิ้น ได้แก่ Black / Navy / Burgundy ซึ่งสีที่เราหยิบมาให้ดูกันคือสี Burgundy ครับ บอกตามตรงเลยว่า สีนี้สวยแบบ Classic จริงๆ
Suede และ Mesh Upper
แบรนด์อย่าง New Balance นั้นขึ้นชื่ออยู่แล้วครับเรื่องวัสดุ Upper Part ที่เลือกหยิบเอาวัสดุคุณภาพมาผลิตเป็นตัวรองเท้า อย่างหนังกลับ Suede ที่รับกับหน้าเท้าได้ดี แข็งแรงกว่าวัสดุทั่วๆ ไป รวมถึงผ้า Mesh ที่ผลิตแบบพิเศษ ไม่เหมือน Mesh แบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นผ้า Mesh 2 ชั้น ด้านนอกจะหยาบและแข็งกว่าด้านใน เพื่อเพิ่ม Texture และลวดลายที่แตกต่างตลอดทั้งตัวรองเท้า แถมมีความเงาๆ มันๆ ด้วยนะ
ตัวโลโก้ ‘N’ ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นหนัง ไม่สะท้อนแสง ตามรูปแบบสมัยก่อนที่ยังหาวัสดุแนว Reflective มาใช้งานบนตัวรองเท้าไม่ได้นั่นเอง ช่วงหน้าเท้าจะกว้างกว่ารุ่นพี่อย่าง 520 ฯลฯ ซึ่งพอตัวด้วยวัสดุอย่าง Suede และอิงกับทรงโบราณ ทำให้ได้ทรงที่ได้รูปกำลังดีจริงๆ
เสริมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดอย่าง ENCAP® เข้ามา
นอกจาก New Balance 574 จะถูกคิดค้นในปี 1988 แล้วนั้น ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่คิดค้นในปีเดียวกันนั่นก็คือ ENCAP® Technology ที่หยิบเอาวัสดุอย่าง PU มาล็อค Soft EVA ด้านในบริเวณส้นเท้าเพิ่มอีกชั้นเหนือพื้น EVA Foam ปกติ แน่นอนว่าเทคโนโลยีนี้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักวิ่งอย่างมาก จนทำให้ 574 เป็นรองเท้ายอดนิยมในเวลานั้น
Iconic ตัวนี้ผลิตที่อินโดนีเซีย และราคาไม่ถึง 3,000.-
หลายๆ คนถ้าเคยสังเกตจะพบว่า รองเท้าที่ผลิตจากประเทศอินโดนีเซียนั้นมักจะมีคุณภาพที่มากกว่ารองเท้าที่ถูกผลิตจากประเทศจีน และสำหรับตัว 574 Classic ตัวนี้ ทางแบรนด์เลือกที่จะไปผลิตที่อินโดนีเซียแทน ดังนั้นรายละเอียดต่างๆ จะค่อนข้างได้มาตราฐานตั้งแต่ทรงรวมไปถึงวัสดุ แถมมาในราคาที่ไม่แพงเลยนั่นคือ 2,990.- เท่านั้น สำหรับรองเท้าสุด Classic และน่าจะเป็นรุ่นที่ Iconic ที่สุดรุ่นหนึ่งของทางแบรนด์ New Balance เลยก็ว่าได้ครับ
ถ้าคุณไม่เคยใส่ New Balance เราว่าคุณพลาดคำว่า “สบาย” ไปแล้วแหละ บอกเลยว่าพูดไม่ได้เต็มปากแน่ๆ ครับ ถ้าคุณยังไม่เคยลองใส่ New Balance ไม่เชื่อ MDs ใช่มั้ย เราท้าให้ไปลองใส่เดินแบบวันละ 20,000 ก้าวดู รับประกันว่า “คนที่ใส่ New Balance นั้นจะรู้สึกสบายเท้ามากกว่าแน่นอน”