ในวัย 20 ต้นๆ มนุษย์ยังคงอยู่ในช่วงวัยรุ่น ความรู้สึกรักอิสระ และต้องการค้นหาสิ่งใหม่ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ความคิดเรื่อง “การแต่งงาน” แทบจะไม่ได้เข้ามามีอยู่ในหัวสมอง แต่เมื่อผ่านวัยเบญจเพสไปแล้ว ซึ่งเป็นวัยที่ผู้ชายเริ่มทำงานประจำอย่างจริงจัง เพื่อนๆบางคนก็เริ่มที่จะแต่งงานแต่งการ ลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวของตัวเองไป จะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ แต่พวกเขาก็ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน แต่ก็มีผู้ชาย (และผู้หญิง) หลายคนที่ “หวง” ชีวิตโสด ไม่อยากที่จะรีบแต่งงานเร็วเกินไป หรือบางคนอาจคิดที่จะไม่แต่งเลยก็มี และนับวันคนกลุ่มนี้มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไร MenDetails เชื่อว่าคุณมีเหตุผลเพียงพอที่จะคิดเช่นนั้น แต่วันนี้ MenDetails อยากจะขอฝากถึงผู้ชายที่จะตั้งใจจะครองตัวเป็นโสดทั้งๆที่ตัวเองมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วทั้งหลายว่า มีสิ่งใดบ้างที่คุณควรจดจำไว้ให้ขึ้นใจหากรักที่จะใช้ชีวิตโสดของคุณให้มีคุณภาพต่อไป
1. ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ 100%
มีผู้ชายที่รักอิสระและหวงแหนชีวิตโสดหลายคนทีเดียวที่ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้ต่อต้านการแต่งงานอย่างหัวชนฝา เพียงแต่พวกเขามีความคิดที่ว่า ผู้ชายควรจะเตรียมตัวสร้างฐานะ สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของตัวเองให้ได้ถึงในระดับที่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตัวเองต้องการเสียก่อน แล้วจึงค่อยหันมาสนใจในเรื่องการใช้ชีวิตคู่อย่างจริงจังหลังจากนั้น แต่ถ้าจะถามให้ลึกต่อไปอีกสักนิดว่า “แล้วจะต้องมีเท่าไหร่ หรือรวยแค่ไหน ถึงจะพอใจ?” ผู้ชายกลุ่มนี้ก็จะเริ่มนั่งคิด เริ่มตอบลำบากมากขึ้นว่าเท่าไหร่ถึงจะเป็นระดับที่พวกเขาคิดว่ามันโอเคกันแน่
MenDetails ไม่ได้กำลังบอกว่าการตั้งใจวางแผนชีวิตอย่างรอบคอบแบบนี้เป็นสิ่งที่ผิด แต่ทว่า สิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้จากเรื่องนี้นั่นก็คือ ไม่มีช่วงเวลาไหนหรือจุดๆใดที่เป็นช่วงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการจะสร้างความสัมพันธ์ที่จริงจังหรือสร้างครอบครัวที่มั่นคง คำแนะนำของเราก็คือ ผู้ชายควรจะคุยกับแฟนของตัวเองให้ชัดเจนว่าเขามีความคิดในเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้ผู้หญิงได้รู้ตัว และช่วยเสนอความคิดเห็น และช่วยกันหาทางออกในเรื่องนี้ เธออาจไม่ได้ซีเรียสเรื่องฐานะการงานและการเงินของคุณมากอย่างที่คุณคิดก็เป็นได้
2. เป็นลูกผู้ชาย จงพูดกับฝ่ายหญิงให้เคลียร์ และตรงไปตรงมา
ผู้ชายหลายคนที่มีแฟนอยู่แล้วแต่ยังไม่อยากแต่งงาน พวกเขามักจะบ่ายเบี่ยงเวลาที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายถามหรือปรึกษาเกี่ยวกับชีวิตคู่ในอนาคต และจะใช้คำพูดประมาณว่า ขอคิดดูก่อน หรือ ขอทำงานก่อน หรือสารพัดข้ออ้างที่จะทำให้เอาตัวรอดจากการสนทนานั้นได้ ซึ่งการกระทำแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับผู้หญิงเลย ผู้ชายต้องจำเอาไว้ว่าในบริบทของสังคม มักจะยังมีความคิดที่มองว่าผู้หญิงมีเวลาในการหาคู่แต่งงานน้อยกว่าผู้ชาย บางคนมองว่าผู้หญิงที่อายุเลย 30-35 ปีแล้วยังไม่ได้แต่งงาน จะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะอยู่เป็นโสดไปตลอด แต่สำหรับผู้ชาย สังคมมองว่าอายุ 40 ก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะแต่งงานก็มี ซึ่งถึงแม้เราอาจไม่เห็นด้วย แต่เราจะทำตัวไม่แคร์สังคมเลยก็ไม่ได้ ดังนั้นจงให้เกียรติผู้หญิงให้มากกว่านี้ ถ้าคุณแน่ใจจริงๆว่าไม่มีแผนที่จะแต่งงาน ก็จงบอกเธอไปตรงๆ เพื่อให้เธอได้มีโอกาสตัดสินใจ และถ้าเธอรับเรื่องนี้ไม่ได้ คุณเองก็ต้องยอมรับให้ได้ด้วยนะครับกับการที่เธออาจจะต้องลาจากคุณไปเพื่อพบคนใหม่ที่อยากจะแต่งงานกับเธอจริงๆ ได้อย่างอาจต้องเสียอย่าง เป็นผู้ชายก็ต้องแมนพอนะครับ
3. ไม่ว่าจะโสดหรือไม่โสด ผู้ชายก็ต้องตั้งเป้าหมายและวางแผนอนาคตให้ดี
ใครบอกว่าโสดแล้วจะอิสระ อยากจะทำอะไรก็ได้ในชีวิต ไม่ต้องวางแผนการงานและการเงิน เพราะไม่มีภาระต้องรับผิดชอบครอบครัวอะไร ถ้าคิดแบบนี้ถือว่าผิดมากๆครับ จำเอาไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะโสดหรือไม่โสด คุณก็ต้องมีแผนการณ์สำหรับอนาคตอยู่ดีครับ เพราะการครองตัวเป็นโสดไปตลอด หมายความว่าคุณเสี่ยงที่ตัวเองจะไม่มีเพื่อนคู่คิด หรือภรรยาและลูกหลานที่จะคอยช่วยเหลือคุณดูแลยามแก่ชรา ดังนั้นคุณก็จะต้องมองว่าจะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหานี้ คุณควรวางแผนว่าจะต้องมีเงินเท่าไหร่ มีการลงทุนใหญ่แค่ไหนเพื่อที่จะสามารถดูแลตัวเองในวัยชราได้ตามลำพัง หากว่าคุณจะต้องอยู่คนเดียวจริงๆ อย่าได้คิดว่าอยู่เป็นโสดแล้วจะเอ้อระเหยลอยชายจนกลายเป็นภาระให้สังคมต้องดูแลในยามเจ็บไข้หรือยามแก่ชราได้นะครับ คนที่เป็นลูกผู้ชาย หรือเป็นสุภาพบุรุษเขาไม่ทำตัวแบบนั้นกันครับผม