หากให้คนไทยนึกถึงยี่ห้อนาฬิการะดับหรูหราราคาสูง เชื่อว่ายี่ห้อ Rolex (โรเล็กซ์) ต้องติด 3 อันดับแรกเสมอแน่นอน ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งในใจผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา รวมไปถึงคุณภาพของนาฬิกามาตรฐานสูงจากสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้โรเล็กซ์เป็นนาฬิกาหรูอันดับต้นๆที่คนให้ความสำคัญเสมอ
อันว่านาฬิกาโรเล็กส์สำหรับผู้ชายก็มีหลากหลายรุ่น หลายขนาดแตกต่างกันไป แต่ถ้าใครชอบนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เป็นหน้าปัดย่อย 3 หน้าปัดบนนาฬิกาแล้วล่ะก็ ต้องนึกถึงโรเล็กซ์รุ่น Daytona (เดย์โทน่า) เป็นอันดับแรกแน่นอน โดย Rolex รุ่น Daytona เริ่มผลิตครั้งแรกราวปี 1960 โดยได้แรงบันดาลใจจากกีฬาแข่งรถ ทำให้มันกลายสัญลักษณ์บนข้อมือของชายหนุ่มผู้รักความเร็วนับแต่นั้นมาเลยทีเดียว
นาฬิกา Rolex รุ่น Daytona Exotic Dial
image : crownandcaliber.com
ความพิเศษของ Rolex รุ่น Daytona ไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ที่สวยงาม และเป็นตัวแทนของกีฬาแข่งรถเพียงอย่างเดียว แต่ Rolex Daytona ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนาฬิกา Rolex รุ่นที่แพงที่สุดติดอันดับโลกกันเลยทีเดียว แต่ทว่าช้าก่อน MenDetails ไม่ได้หมายความว่า Rolex Daytona ทุกรุ่นจะราคาแพงติดอันดับโลกเท่าๆกันทุกเรือนไปนะครับ เพราะรุ่นที่จะมีราคาแพงขนาดนั้นได้จะต้องเป็น Rolex Paul Newman Daytona เท่านั้น
The Rolex Paul Newman Daytona Exotic Dial
พูดตามตรงนาฬิกา Rolex Daytona รุ่นที่มีชื่อว่า Paul Newman นั้น ความจริงมันไม่มีหรอกครับ เพราะคำว่า Paul Newman คือชื่อเล่นของ Rolex Daytona รุ่นที่มีหน้าปัดแบบ Exotic Dial แต่ที่ได้ชื่อเล่นว่า Paul Newman นั้นเป็นเพราะในช่วงปี 1970 นักแสดงชายชื่อดังนามว่า Paul Newman (พอล นิวแมน) ได้หันมาเอาดีในการเล่นกีฬาแข่งรถและเขาก็ชอบสวมใส่นาฬิกา Rolex Daytona Exotic Dial เวลาที่ลงแข่งขันนั่นเอง และด้วยความเป็นซูเปอร์สตาร์ที่เป็นสไตล์ไอค่อนของผู้ชายในยุคนั้น ทำให้ไม่ว่า Paul Newman จะหยิบจะจับอะไรมาใส่ก็ดูดีมีสไตล์และกลายเป็นที่นิยมของผู้ชายส่วนใหญ่ไปด้วยเสมอ
Paul Newman บนรถแข่งของเขากับนาฬิกา Rolex Daytona ที่กลายเป็นตำนาน
ถามว่าระหว่าง Rolex Daytona รุ่นทั่วไป กับรุ่น Paul Newman นั้นมันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง คำตอบคือมีเพียงแค่รายละเอียดบนหน้าปัดเท่านั้นเองที่ต่างกัน แต่ราคานั้นกลับต่างกันลิบลับ โดยรูปด้านล่างเป็นการเปรียบเทียบ Rolex Daytona สองเรือนที่เป็นรุ่นเดียวกันคือรุ่น 6239 (ที่เลิกผลิตไปแล้ว) โดยเรือนด้านซ้ายเป็นหน้าปัดแบบทั่วไป หรือ Regular Dial ซึ่งจะมีราคาซื้อขายในปัจจุบันที่ประมาณ 1 ล้านบาท เทียบกับเรือนด้านขวาที่เป็นหน้าปัดแบบ Exotic Dial หรือรุ่น Paul Newman ซึ่งจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500,000 บาทต่อเรือนเลยทีเดียว
photo : autoquorum.com
ความแตกต่างของรายละเอียดบนหน้าปัด
จุดแตกต่างของ Regular Dial กับรุ่น Paul Newman นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายจุด โดยมีจุดหลักๆเช่น Rolex Daytona รุ่นที่จะได้ชื่อว่าเป็นรุ่น Paul Newman ต้องเป็นโมเดล ref. 6239, 6241, 6262, 6263, 6264 หรือ 6265 ส่วนตัวเลขบนหน้าปัดย่อยรุ่น Paul Newman จะเป็นฟอนท์ในสไตล์ Art Deco และปลายขีดของหน้าปัดย่อยจะมีสี่เหลี่ยมเล็กๆติดอยู่ด้วย และตัวเลขบนหน้าปัดย่อยตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกาจะใช้เลข 15, 30, 45, 60 แต่ถ้าเป็นรุ่นธรรมดาจะใช้เลข 20, 40 ,60 อยู่ในหน้าปัดแทน นั่นคือความแตกต่างที่ทำให้คุณแยกออกได้ง่ายๆว่าอันไหนคือ Daytona ธรรมดา กับอันไหนคือ Paul Newman Daytona
ภาพเปรียบเทียบ Daytona รุ่นปกติด้านซ้าย กับรุ่น Exotic Dial ทางด้านขวา
image : crownandcaliber.com
อย่างไรก็ตาม อย่าได้คิดเดินเข้าร้านนาฬิกา Rolex ทั่วไปในปัจจุบันแล้วไปมองหา Paul Newman Daytona ให้เสียเวลา เพราะทาง Rolex ได้เลิกผลิตโมเดลเหล่านั้นไปนานแล้ว และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้มันกลายเป็นของหายาก ชนิดทีเรียกว่าเป็น Super rare item เลยก็ว่าได้
ราคาประมูลพุ่งสูงขึ้นเป็นพันๆเท่า
จากราคาขายปลีกเริ่มต้นแรกสุดตั้งแต่ช่วงยุค 70 นั้น Rolex Paul Newman Daytona มีราคาเพียงแค่ 300 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1 หมื่นบาทเท่านั้นเอง แถมขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วยซ้ำไป แต่แค่เวลาผ่านไปเพียงประมาณ 20 ปี ราคาที่ประมูลกันก็ขึ้นไปถึงเกือบ 10,000 เหรียญสหรัฐหรือราวๆ 250,000 บาทเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทไทยในขณะนั้น จากนั้นเจ้านาฬิการุ่นนี้ก็มีราคาพุ่งขึ้นแบบยั้งไม่อยู่มาตลอด และมาจนถึงปี 2016 Rolex Paul Newman Daytona Oyster Sotto โมเดล ref. 6239 ก็ได้รับการประมูลที่ Phillip’s stainless steel chronograph auction ไปในราคา 1.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งนั่นหมายความว่าราคาของมันเพิ่มขึ้นถึง 6,500 เท่าตัว หรือ 650,000% ภายในเวลาประมาณ 40 กว่าปี
อย่าได้ถามหาเหตุผลเลยครับว่าทำไม หรือ เพราะอะไร นาฬิกา Rolex Paul Newman Daytona รุ่นนี้ถึงได้มีราคาสูงขึ้นแบบมหาโหดขนาดนี้ได้ เพราะสำหรับนักสะสมนาฬิกากระเป๋าหนักแล้วนั้น นาฬิกาเรือนไหนที่หายาก ต่อให้จ่ายเท่าไหร่ เขาก็พร้อมจะจ่ายเพื่อให้ได้มันมาไว้ในครอบครอง ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่ควรจะได้เครดิตในเรื่องนี้มากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นผู้ชายที่สร้างกระแสให้นาฬิกาที่ตอนแรกแทบไม่มีใครสนใจจะซื้อ ให้กลายมาเป็นนาฬิกาที่มีสไตล์ที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแข่งรถได้อย่างทุกวันนี้ ผู้ชายที่ว่าก็คือนักแสดงผู้เป็นไอค่อนของสไตล์แห่งยุค 70 นามว่า Paul Newman คนนี้นั่นเอง
ข้อมูลโดย : hodinkee.com และ crownandcaliber.com