ผู้ชายหลายคนคงเคยได้ยินเหตุผลที่ผู้หญิงบอกเลิกกับผู้ชายเพราะ “เธอดีเกินไป” คำถามคือทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ผู้หญิงไม่ชอบคนดีอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นเราคงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นผู้ชายเจ้าชู้เพลย์บอย หลอกผู้หญิงให้เจ็บใจเสียใจ จีบผู้หญิงทีละหลายๆคน แบบนั้นใช่ไหมพวกเธอถึงจะชอบ?
แต่พอผู้ชายที่นิสัยดีหันหน้าไปสู่ด้านมืดเช่นนั้น สุดท้ายพวกเขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี นั่นเพราะหนทางแห่งความเจ้าชู้ก็ไม่ใช่หนทางของเขาเช่นกัน ผู้ชายนิสัยดี หรือที่เราเรียกว่า “Nice Guy” จึงตกที่นั่งลำบาก ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนดีจึงจะสามารถพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ชายที่ดึงดูดใจผู้หญิงได้มากขึ้นกว่านี้
วันนี้ MenDetails จึงขอเสนอวิธีการที่จะทำให้ผู้ชายนิสัยดี หรือ Nice Guy ทั้งหลาย เปลี่ยนตัวเองให้น่าหลงใหลสำหรับฝ่ายหญิงได้มากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินเข้าสู่ด้านมืด หรือเป็นผู้ชายชั่วๆแต่อย่างใดครับ
นิยามของผู้ชายที่ “ดีเกินไป” ในสายตาของผู้หญิง
ในเรื่องของความรักและการสร้างเสน่ห์ดึงดูดใจระหว่างชายหญิงนั้น คำว่า “ดี” ไม่ได้มีความหมายตรงข้ามกับคำว่า “ชั่ว” เสมอไป ดังนั้นผู้หญิงที่ปฏิเสธผู้ชายเพราะว่าฝ่ายชาย “ดีเกินไป” ไม่ได้หมายความว่าเธอจะชอบผู้ชายชั่วหรือนิสัยไม่ดีหรอกนะครับ แต่นิยามของผู้ชายที่ดีเกินไปในสายตาของเธอก็คือ ผู้ชายที่หัวอ่อนยอมคน, ไม่เป็นตัวของตัวเอง และไม่เป็นผู้นำต่างหาก
ผู้หญิงสามารถสังเกตว่าผู้ชายคนไหนหัวอ่อนและไม่เป็นตัวของตัวเองได้จากการสนทนาพูดคุยกัน ผู้ชายที่ไม่เป็นตัวของตัวเองมักจะพยักหน้าเห็นด้วยกับเธอตลอดเวลา, ไม่ค้าน, ไม่แย้ง และต้องการที่จะตามใจเธอเสมอ ผู้ชายนิสัยดีเกินไปจะไม่กล้าที่จะคัดค้านหรือขัดใจอะไรฝ่ายหญิงเลยแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าเธอจะรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจ แม้ว่าลึกๆเราอาจไม่เห็นด้วย หรือคิดว่าเธอพูดไม่ถูกต้องก็ตาม แต่เราก็ไม่กล้าที่จะยืนหยัดในจุดยืนของตัวเอง พวกเราเลือกที่จะโอนอ่อนผ่อนตามฝ่ายหญิงไปหมดทุกเรื่องมากกว่า
นอกจากนั้นผู้ชายที่ดีเกินไปมักเป็นผู้ชายที่ขาดความมั่นใจและขาดความเป็นผู้นำเมื่อทำความรู้จักและพูดคุยกับผู้หญิง ตัวอย่างง่ายๆที่พบได้บ่อยก็คือการขาดการวางแผนเวลาที่ไปเที่ยวด้วยกันว่าจะไปไหนหรือจะทำอะไรดี ผู้ชายที่ดีเกินไปจะเป็นฝ่ายถามผู้หญิงเสมอว่าเธออยากทำอะไร, เธออยากกินอะไร, เธออยากจะไปที่ไหน ฯลฯ นั่นเพราะผู้ชาย Nice Guy อยากจะตามใจผู้หญิง แต่ทว่าโดยส่วนลึกๆ แล้วนั้นผู้หญิงไม่อยากที่จะเป็นฝ่ายตัดสินใจในเรื่องพวกนี้หรอกครับ พวกเธออยากจะให้ผู้ชายทำตัวเป็นผู้นำและเป็นฝ่ายพาเธอไปเลยโดยไม่ต้องถามเธอให้มากความจะดีเสียกว่า
ผู้ชายที่ดีเกินไปในนิยามแบบนี้ จึงกลายเป็นผู้ชายที่ “น่าเบื่อ” ไปโดยปริยาย เพราะไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรตื่นเต้นให้พวกเธอรู้สึกว่าน่าค้นหาและเป็นผู้ชายที่น่าสนใจ ทั้งๆที่จริงๆแล้วพวกเราอาจไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่เธอคิดก็ได้ เพียงแต่เราแค่อยากตามใจเธอ อยากที่จะให้เธอรู้สึกดีที่ได้ทำตามใจตัวเองโดยมีพวกเราคอยสนองตอบ พวกเราไม่อยากไปเจ้ากี้เจ้าการกับเธอมากนัก และคิดว่าเธอจะ “ชอบ” ที่มีคนมาคอยตามใจแบบนี้ แต่น่าเสียดายที่ผลลัพธ์ที่พวกเรากลุ่มผู้ชาย Nice Guy ได้กลับมานั้น มันกลับตาลปัตรตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง และนี่แหละคือนิยามของผู้ชายที่ดีเกินไปในสายตาของผู้หญิง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะชอบผู้ชายชั่วๆแต่อย่างใดครับ
พัฒนาตัวเองเป็นผู้ชายที่ “มีดี” อย่าเป็นแค่ผู้ชายที่ “นิสัยดี”
หากเราเข้าใจผิดคิดว่าผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่นิสัยไม่ดี และพยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้ชายเลวๆที่เจ้าชู้หลายใจ จีบผู้หญิงไม่เลือกแล้วล่ะก็ นอกจากจะเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมแล้ว ยังเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุดอีกด้วย คำแนะนำของเราก็คือ ถ้าเราเป็น Nice Guy หรือเป็นผู้ชายที่นิสัยดี มีน้ำใจ ชอบเทคแคร์ช่วยเหลือผู้อื่น เช่นนั้นแล้วก็จงทำต่อไปครับ ไม่จำเป็นต้องหันเข้า “ด้านมืด” แต่อย่างใด แต่สิ่งที่เราควรทำเพิ่มเติมจากการเป็นผู้ชายนิสัยดีก็คือการเพิ่มความเจ๋งในแบบฉบับของสุภาพบุรุษลงไปในนั้นด้วยครับ
ความเจ๋งที่เรากำลังพูดถึงก็มีตัวอย่างเช่น การมีจุดยืนและมีแนวคิดที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง, พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีความมั่นใจมากขึ้น, อ่านหนังสือมากขึ้น, รู้เรื่องราวต่างๆและมีความรู้รอบตัวที่ดีขึ้น รวมทั้งพัฒนา Skill หรือความสามารถพิเศษอื่นๆของตัวเองให้ดีขึ้น
ในขณะที่เราสนทนาพูดคุยกับผู้หญิง หากเราไม่เห็นด้วยกับจุดไหน แล้วกล้าที่จะแสดงความเห็นโต้แย้งของเราออกมาอย่างมีเหตุมีผล ผู้หญิงไม่ได้มองว่าเราก้าวร้าวแต่อย่างใด กลับกันฝ่ายหญิงกลับจะมองว่าเราเป็นผู้ชายที่มีความมั่นใจในตัวเอง และมีแนวคิดที่น่าสนใจที่แตกต่างออกไปจากที่เธอเคยรู้
จงแสดงความมั่นใจ และทำให้เธอรู้สึกว่าเราเป็นผู้ชายที่เจ๋งพอที่จะให้เกียรติเธอและดูแลเอาใจใส่ แต่ในขณะเดียวกันเราเองก็ไม่ได้เป็นของตาย ที่จะยอมพลีกายถวายชีวิตให้เธอเพียงคนเดียวเช่นกัน ทำให้เธอรู้สึกว่าถ้าสุดท้ายเธอจะไม่สนใจเรา เพราะไม่รู้สึกชอบเรามากพอที่จะคบหากัน สิ่งนั้นจะไม่ได้ทำให้เราเศร้าเสียใจอย่างหนักหนาสาหัสจนกินไม่ได้นอนไม่หลับแต่อย่างใด เพราะเราเองก็เป็นผู้ชายที่มีดีมากพอที่จะจีบผู้หญิงคนอื่นๆได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมเธอคนนี้คนเดียวเท่านั้น เพราะเธอคนนี้ไม่ใช่ “The end of the world” สำหรับเราแต่อย่างใด
หากคุณสามารถทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ได้ พร้อมๆกับการที่เธอรู้ว่าคุณเป็นผู้ชายนิสัยดี มีมารยาท และให้เกียรติเธอ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เธอจะมองคุณเป็นสิ่งที่ท้าทาย เป็นผู้ชายมีของ และมีดีพอจนเธอรู้สึกว่าเธอต้องทำให้คุณสนใจและเอาใจใส่ในตัวเธอให้มากขึ้นกว่านี้ให้ได้ และโอกาสที่คุณจะเจอกับเหตุผลที่ว่า “เธอดีเกินไป” ก็จะน้อยลง
อาจไม่ได้หายไปจนหมด แต่เราเชื่อว่าน้อยลงแน่นอนครับ
บทสรุป
การเป็นผู้ชายนิสัยดีไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ และไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงไม่ชอบเรา ดังนั้นถ้าโดยธรรมชาติแล้วเราเป็นผู้ชายที่นิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น เอาอกเอาใจ แบบนั้นก็จงทำต่อไปอย่าได้เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเป็นเรื่องของการสร้างแรงดึงดูดใจกับเพศตรงข้าม เราจะต้องเป็นผู้ชายที่ไม่ได้นิสัยดีจน “น่าเบื่อ” แต่จะต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ชายที่นิสัยดีด้วย และมี “ของดี” ที่จะดึงดูดใจเธอได้ด้วย เพื่อที่จะทำให้เธอมองคุณเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่าผู้ชายนิสัยดีทั่วๆไปที่พวกเธอเจอกันเป็นปกติประจำอยู่แล้วนั่นเอง
จงเป็นผู้ชายที่สุภาพ, ให้เกียรติ แต่ต้องมีจุดยืน, มีหลักการและความเป็นตัวของตัวเอง รวมทั้งมีความเป็นผู้นำที่จะทำให้เธอประทับใจได้ เหล่านี้คือของดีที่คุณควรมีเพิ่มขึ้นมากกว่าแค่ “นิสัยดี” เพื่อหลีกเลี่ยงคำพูดว่า “เธอดีเกินไป” ในอนาคตนะครับ