เทคนิคการแต่งกายแบบหนึ่งที่ MenDetails ชอบเป็นพิเศษก็คือการแต่งกายแบบที่เรียกว่า ‘Layering’ สิ่งสำคัญที่ทำให้เราชอบการแต่งกายแบบนี้นั่นก็คือความสะดวกสบายที่ทำให้เราสามารถเปลี่ยนสไตล์การแต่งกายที่ดูธรรมดามากๆ ให้มีความ Smart มากขึ้นได้แทบจะทันที เพียงแค่มีเสื้อตัวนอกสวมทับเพิ่มขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง ทว่ายังมีผู้ชายไทยอีกเป็นจำนวนมากที่อาจรู้สึกสงสัยและไม่แน่ใจว่า เราจะ Layering ท่ามกลางอากาศร้อนๆแบบในเมืองไทยได้อย่างไร วันนี้ MenDetails จึงอยากจะขอแนะนำเทคนิควิธีการที่จะทำให้ผู้ชายไทยใส่เสื้อผ้าซ้อนทับกัน หรือ Layering ให้ดูดีได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะใส่แล้ว “ร้อนเกินไป” ครับ
เสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ แค่หยิบแจ็กเก็ต M65 สวยๆ มาสวมทับ ก็ทำให้การแต่งกายของเราดูโดดเด่นออกมาจากคนอื่นได้ทันที นี่ถือเป็นข้อได้เปรียบของผู้ชายที่รู้จักการแต่งกายแบบ ‘Layering’ นะครับ
ใส่เสื้อตัวในให้บางและเบาเข้าไว้
เมื่อเราอยากจะแต่งตัวแบบ “Layering” เพื่อเพิ่มความ Smart มากขึ้น ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดของเมืองไทย เราจึงต้องพยายามลดความหนาของเสื้อที่อยู่ด้านในที่แนบติดกับตัวเราให้มีน้ำหนักน้อยที่สุด และบางเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเป็นการแต่งกายที่ไม่ใช่สูทแบบเต็มยศ ขอให้เน้นใส่เป็นเสื้อแขนสั้นไว้ก่อนจะดีกว่า และถ้าเสื้อตัวในเป็นเสื้อยืด จงเลือกเสื้อที่เย็นสบายและบางเบาเหมือนเป็นเสื้อซับในของผู้ชายได้เลยก็จะดีเยี่ยมครับ
การใส่เสื้อยืดตัวในที่บางและเบามากๆ อย่างเสื้อยืด Filagen ของ Hush Puppies แบบนี้ จะช่วยทำให้คุณแต่งกายแบบ Layering ในเมืองไทยได้อย่างไม่ทรมานมากเกินไปแต่อย่างใด
แม้แจ็กเก็ตตัวนอกจะหนาพอสมควร แต่ถ้ามีเสื้อยืดข้างในที่บางเบา ใส่แล้วเย็นสบาย ก็จะช่วยบรรเทาความร้อนได้ไม่ยากครับ
การแต่งกายแบบ Layering อย่างชาญฉลาด ด้วยการผนวกเสื้อแจ็กเก็ตที่มีความหนาพอสมควร แต่ใส่คู่กับเสื้อตัวในที่บางและเบา คือการแก้ปัญหาแบบ “พบกันครึ่งทาง” ที่ MenDetails อยากแนะนำเป็นเคล็ดลับให้ผู้ชายทุกคนนำไปใช้สำหรับการแต่งกายแบบ Layering ในเมืองไทยครับ
เน้นความแตกต่างของเฉดสีระหว่าง ‘บน-ล่าง’ และ ‘นอก-ใน’
เทคนิคสำคัญที่ผู้ชายควรฝึกให้คล่องมือนั่นก็คือการ “เล่นสี” ด้วยการเน้นความแตกต่างของเฉดสีของเสื้อผ้าไม่ให้กลมกลืนกันเกินไประหว่างท่อนบนและท่อนล่าง รวมถึงระหว่างเสื้อตัวในและเสื้อตัวนอกด้วย โดยอย่างน้อยควรมีชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่มีเฉดสีที่แตกต่างกันออกมาอย่างชัดเจน วิธีที่ MenDetails ใช้บ่อยๆ นั่นก็คือเน้นใส่เสื้อยืดสีขาวเป็นหลักสำหรับชิ้นใน จากนั้นกางเกงก็สามารถเป็นได้ทั้งกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม หรือกางเกงกูรข่าสีเทาที่เราชอบ ปิดท้ายด้วยเสื้อตัวนอกอย่างสีเขียวทหาร แบบ M65 หรือ M59 หรืออาจจะเป็นแจ็กเก็ตยีนส์ที่มีสีอ่อนกว่ากางเกงยีนส์ที่เราใส่ก็พอได้ จำไว้ว่าควรพยายามเล่นกับสีให้แตกต่างกัน แต่ยังคงลงตัวระหว่าง ท่อนบน-ท่อนล่าง และ ชิ้นนอกกับชิ้นในนะครับ
เขียว – ดำ – น้ำเงิน แบบนี้เรียกว่าเล่นสีให้ลงตัวสไตล์ “Play Safe” คือปลอดภัยไว้ก่อนแต่ก็คลาสสิกและใช้ได้เรื่อยๆครับ
เลือกใส่ Unlined / Unstructured Jacket
เมื่อพูดถึงเสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อประเภท Blazer ผู้ชายไทยมักจะนึกถึงเสื้อสูทแบบมี Lining (ซับใน) เต็มตัว ที่ทั้งหนาและหนัก ใส่แล้วร้อนอึดอัดและไม่เหมาะกับอากาศของเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าเราลองค้นหาความรู้เพิ่มเติมเรื่องนี้อีกสักนิด เราก็จะทราบว่าความจริงแล้วเสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อ Blazer ก็มีแบบที่ทั้งบางและเบา และเหมาะที่จะใส่ในเมืองไทยได้แบบสบายๆ เราเรียกเสื้อ Blazer ประเภทนี้ว่า “Unlined” (ไม่มีซับใน) หรือ “Unstructured” (ไม่มีโครงเสื้อหนาๆ) โดยส่วนใหญ่เสื้อแจ็กเก็ตประเภทนี้มักมีที่มาจากประเทศยุโรปตอนใต้ ที่มีภูมิอากาศในหน้าร้อนค่อนข้างโหดร้ายไม่ต่างจากเมืองไทยเช่นกัน
Teba Jacket จากสเปน เป็นเสื้อตัวนอกแบบ Unlined / Unstructured ที่บางและเบาไม่ต่างกับเสื้อเชิ้ตทั่วไป เหมาะกับการแต่งกายแนว Layering สำหรับเมืองไทยอย่างยิ่ง
เสื้อ Sportcoat ลาย Houndstooth จาก Takeo Kikuchi เป็นอีกตัวอย่างของแจ็กเก็ตแบบไร้ซับในที่บางและเบามาก ทำให้ผู้ชายไทยสามารถใส่ได้แบบสบายๆ
การทำความรู้จักและเลือกซื้อเสื้อแจ็กเก็ตประเภท Unlined หรือ Unstructured แบบนี้เป็นหลัก จะทำให้ผู้ชายไทยทุกคนสามารถแต่งกายแบบ Layering ได้สบายตัวมากขึ้น และไม่ต้องทนร้อนตับแลบกับเสื้อแจ็กเก็ตแบบที่มีซับในหนาเต็มตัวอีกต่อไปครับ
สำคัญที่สุดคือดูกาลเทศะ แล้วแต่งกายให้เหมาะสม
แม้การแต่งกายแบบ Layering จะช่วยทำให้ลุคโดยรวมของผู้ชายดูมีลูกเล่น และ Smart มากขึ้นในสายตาของคนรอบข้าง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือกาลเทศะ เช่น เวลา และ สถานที่ ที่เราจะไป เพราะต่อให้เราจะชื่นชอบการแต่งกายแบบนี้ขนาดไหน แต่ถ้าเรารู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะต้องอยู่กลางแจ้งทั้งวัน แทบไม่มีช่วงเวลาที่อยู่ในร่ม หรือเข้าห้องแอร์เลย เหล่านี้ย่อมเป็นเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมที่เราจะแต่งกายแบบ Layering ครับ กลับกันถ้าเรารู้ว่ากิจกรรมที่เราจะไปทำนั้น เราจะต้องอยู่แต่ในห้องแอร์ทั้งวัน แบบนี้เราก็สามารถแต่งกายแบบ Layering ได้เต็มที่เช่นกัน ดังนั้นอย่าใช้พร่ำเพรื่อ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือบริบท และกาลเทศะ ซึ่งผู้ชายที่ดีจะพิจารณาเรื่องนี้และแต่งกายให้ถูกต้องสอดคล้องกันเสมอครับ
บทสรุป
“เมืองไทยมันร้อน!” และเราก็ไม่เถียงว่ามันร้อนเหลือเกินจริงๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ชายที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ย่อมรู้ดีว่าอากาศในเมืองหลวงนั้นร้อนขนาดไหน แต่ทว่าประโยชน์ของการแต่งกายสไตล์ Layering นั้นก็ยังมีอยู่ ลองคิดว่าถ้าหากเราแต่งตัวแบบธรรมดามากออกมาจากบ้าน อาจเป็นเพียงเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์ หากว่าระหว่างวันเรามีความจำเป็นต้องติดต่อธุระที่ควรแต่งกายให้ดูดีมากขึ้นอีกนิด เพียงแค่เรามีเสื้อแจ็กเก็ตสวยๆ ขนาดพอดีตัวติดรถเอาไว้ เราก็นำมาสวมทับเสื้อยืดกางเกงยีนส์ เท่านี้ก็ทำให้สไตล์ของผู้ชายดู Smart มากขึ้นได้ในพริบตา เพียงแต่ว่าเราต้องรู้จักการจัดวางน้ำหนักและเทคนิคการใส่ให้ดูดี โดยไม่รู้สึกร้อนจนทรมาน รวมถึงพิจารณากาลเทศะที่เหมาะสมว่าเมื่อไหร่ควรใช้และเมื่อไหร่ไม่ควรใช้สไตล์นี้นะครับ MenDetails หวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้ผู้ชายแต่งกายแบบ Layering ในเมืองไทยให้ดูดีได้โดยไม่ร้อนเกินไปครับ