สีหนึ่งในบรรดาสีย้อมทั้งหมดที่เข้ากับผู้ชายได้มากที่สุด MDs ว่าน่าจะเป็น “สีคราม” หรือสี Indigo นี่แหละครับ เจ้าสีครามที่ว่านั้น เกิดจากการน้ำเอาต้นครามทางธรรมชาติมาหมักและทำการย้อม ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีทางเลือกในการย้อมครามอยู่มากมาย อย่างการย้อมด้วยสารเคมีชนิดต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม แต่เชื่อมั้ยครับว่า “สีคราม” ตามธรรมชาตินั้นดีต่อผิวและสีสวยกว่าสีเคมีเป็นไหนๆ
วันหนึ่งเราเดินผ่านร้านๆ หนึ่งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่ง แล้วเห็นสีนำเงินสีสวยตั้งโชว์อยู่ แรกเห็นก็คิดในใจละครับว่า “แบรนด์ญี่ปุ่นย้อมครามเจ๋งๆ มาวางขายอีกแล้ว” แบรนด์ดังกล่าวมีชื่อว่า ‘Blue Nails’ หรือ ‘เล็บสีน้ำเงิน’ ซึ่งย้อมสีครามออกมาได้สวยงามมากครับ พอพลิกดูรายละเอียดต่างๆ กลับพบว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์คนไทย ยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก จึงหยิบเอามาให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ
เปลี่ยนตัวเอง แทนที่จะไปเปลี่ยนวิถีของชาวบ้านจังหวัดสกลนคร
จุดเริ่มต้นของแบรนด์เลยคือ การได้เห็นผ้าย้อมครามในงานแสดงสินค้าภูมิปัญญาคนไทย ซึ่งสีครามที่เห็นในงานวันนั้นคือจุดเริ่มต้นของ Blue Nails เนื่องจากแบรนด์อยากผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ Lifestyle คนปัจจุบันด้วยสีครามแบบไทยๆ หรือที่แบรนด์เรียกว่า ‘Siamese Blue’ แต่ขั้นตอนให้การย้อมและตัดเย็บเชิงอุตสาหกรรมนั้น เป็นไปได้ยากยิ่ง ทำให้ทางแบรนด์ต้องปรับตัว แต่ที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวบ้าน
“ชาวบ้านที่นั้นนิยมการย้อมครามด้วยมือเป็นอย่างมาก” คุณธีระ เจ้าของแบรนด์ Blue Nails กล่าว “ซึ่งการจะย้อมเส้นด้ายให้ได้ตามปริมาณที่เราต้องการในเชิงอุตสาหกรรมนั้น เป็นไปไม่ได้เลย อย่างมาก ชาวบ้านจะสามารถผลิตเส้นด้ายย้อมครามให้เราได้เดือนหนึ่งเท่าๆ กับผ้า 1 ม้วนเท่านั้น”
ในเชิงอุตสาหกรรม ไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนเท่านั้นที่เป็นเรื่องใหญ่ แต่คุณภาพเส้นด้ายก็มีผลครับ เนื่องจากสีครามนั้น ย้อมติดกับเส้นด้ายที่ปั่นออกมาเชิงอุตสาหกรรมได้ยาก ทำให้แบรนด์จำเป็นต้องปั่นเส้นด้ายชนิดใหม่ขึ้นเพื่อให้สามารถย้อมครามตามวิถีดั้งเดิมของชาวบ้านจังหวัดสกลนครได้ดี เส้นด้ายดังกล่าวก็คือ Egyptian Cotton 100% และผสมโปรตีนไหมเข้าไปด้วย (รายละเอียดเยอะมากครับ) ซึ่งเราพอจะทราบกันดีว่า Egyptian Cotton นั้น เป็นฝ้ายชนิดพิเศษที่มีเส้นใยยาว จึงมีความนุ่มพิเศษมากกว่าฝ้าย Cotton ปกติทั่วๆ ไป มักพบเห็น Egyptian Cotton ได้กับเสื้อผ้า Luxury Brands ต่างๆ ถือเป็นการปรับเส้นด้ายเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีของชาวบ้านให้ได้มากที่สุด
สำหรับแบรนด์ ‘Blue Nails’ ผ้าต้องย้อมครามด้วยมือเท่านั้น
เพื่อส่งต่อความ Craft แบบถึงลูกถึงคน ทางแบรนด์จึงเลือกย้อมครามด้วยมือแนวผ้า AI ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแรงงานต่างๆ ก็มาจากชาวบ้านจังหวัดสกลนครนี่แหละครับ ถือเป็นเรื่องท้าทายมากทีเดียว สำหรับแบรนด์คนไทยที่จะนำเอาสีย้อมครามแบบไทยๆ ออกสู่ตลาด แล้วข้อดีของสีครามย้อมมือจากที่นี่คืออะไร? MDs ขอตอบเลยครับว่า “สีจะติดทนกว่า และสีสันสวยงามกว่าสีครามที่มาจากเคมีแน่นอน”
ด้วยระยะเวลากว่า 8 ปี ที่คุณธีระพัฒนาแบรนด์ Blue Nails ขึ้น ตั้งแต่การเลือกสีเส้นด้ายที่จะนำมาทอเป็นผืนเพื่อตัดเย็บ ที่บางสีนั้นต้องใช้การย้อมถึง 78,000 รอบ จนได้สีครามที่สวยงาม นุ่มลึกและมีชีวิตชีวาอย่างที่เห็นครับ บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ยิ่งถ้าคุณรู้จักผ้าแนว AI ของญี่ปุ่นแล้วหล่ะก็ ขอบอกว่าผ้าแบรนด์นี้ไม่ต่างกันเลย
‘Blue Nails’ ชื่อนี้ได้มาจาก “ชาวบ้านจังหวัดสกลนคร”
แปลตามตัวครับ ‘Blue Nails’ ก็คือเล็บสีน้ำเงิน ซึ่งชื่อนี้มีไว้เรียกนักย้อมผ้าครามนั่นเอง เพราะหลังจากที่ย้อมเส้นด้ายไปได้สักพักหนึ่ง นิ้วมือของพวกเขาจะกลายเป็นสีน้ำเงินนั่นเอง และชื่อแบรนด์นี้ก็ตั้งขึ้นเพื่อยกย่องชาวบ้านจากจังหวัดสกลนครที่ยังเลือกวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมด้วยการย้อมครามด้วยมือ เก็บใบครามเอง ถือเป็นแบรนด์คนไทยแท้ๆ ที่มีทัศนคติดีเยี่ยมต่อผ้าไทยโดยแท้จริงๆ
ใครอยากลองสัมผัสเสื้อผ้าจากแบรนด์ Blue Nails สามารถไปลองได้ที่ Lhong 1919 (Flagship Store) / Pursuit ที่ Siam Discovery และ Another Story ที่ Emquartier ได้เลย ถือเป็นแบรนด์คนไทยที่แค่เห็นก็น่าสนใจแล้วครับ ไว้บทความหน้า เราจะหยิบเอาสินค้าจากแบรนด์มาให้ดูกัน ตอนนี้ขอไปเก็บตังค์ซื้อก่อนนะ